กรุงเทพฯ--1 เม.ย.--วว.
สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พัฒนา “น้ำว่านหางจระเข้พร้อมดื่ม”...เครื่องดื่มเสริมสุขภาพแนวใหม่จากสมุนไพรไทย ช่วยบำรุงร่างกาย บรรเทาโรคกระเพาะอาหารอักเสบ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้รักสุขภาพ พร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีให้ภาคเอกชนผลิตเชิงพาณิชย์
นางเกษมศรี หอมชื่น ผู้ว่าการ วว. ชี้แจงว่า ปัจจุบันกระแสความนิยมของผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญการบริโภคเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้สมุนไพรไทยเป็นวัตถุดิบในการผลิต ว่านหางจระเข้เป็นสมุนไพรไทยอีกชนิดหนึ่งที่มีสรรพคุณในทางยาอีกทั้งยังช่วยบำรุงร่างกาย แต่อย่างไรก็ตามงานวิจัยทั้งในและต่างประเทศที่เกี่ยวเนื่องกับเครื่องดื่มน้ำว่านหางจระเข้มีน้อย ดังนั้นเพื่อเป็นการพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องดื่มของประเทศ และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสมุนไพรไทย ฝ่ายเทคโนโลยีอาหาร วว. จึงได้พัฒนา “น้ำว่านหางจระเข้พร้อมดื่ม” เครื่องดื่มเสริมสุขภาพที่มีว่านหางจระเข้เป็นส่วนประกอบหลัก และเสริมรสชาติผลิตภัณฑ์ด้วยน้ำผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามิน เช่น ส้ม ฝรั่ง สัปปะรด โดยผลิตภัณฑ์ยังคงคุณค่าของว่านหางจระเข้อย่างครบครัน ช่วยบำรุงร่างกายเนื่องจากการอ่อนเพลียพักผ่อนน้อย และยังเป็นยาระบายอ่อนๆ ช่วยทำให้ระบบขับถ่ายของร่างกายเป็นปกติ อีกทั้งยังช่วยบรรเทาโรคกระเพาะอาหารอักเสบอีกด้วย
นายศรีศักดิ์ ตรังวัชรกุล ผอ.ฝ่ายเทคโนโลยีอาหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า วว. ได้ศึกษาวิจัย พบว่า ว่านหางจระเข้พันธุ์ อะโล บาร์บาเดนซีส (Aloe barbadensis) เป็นพันธุ์ที่เหมาะสมสำหรับนำมาแปรรูปเนื่องจากมีโปรตีน ไฟเบอร์และคาร์โบไฮเดรต ในปริมาณที่เหมาะสมสำหรับพัฒนาเป็นเครื่องดื่มเสริมสุขภาพ เมื่อทำการคัดเลือกวัตถุดิบได้แล้วจึงนำว่านหางจระเข้มาแปรรูป โดยล้างทำความสะอาด เปลือกเพื่อชะล้างเศษดิน จากนั้นนำมาปอกเปลือกและหั่นเป็นทรงสี่เหลี่ยมลูกเต๋าขนา 1X1 ซม. แล้วนำมาล้างยางเมือกออก จากนั้นนำมาลวกน้ำร้อน เพื่อยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ กลิ่นเหม็นเขียวและลดความขม สำหรับน้ำว่านหางจระเข้พร้อมดื่มที่พัฒนาได้มี 2 สูตร ได้แก่ น้ำว่านหางจระเข้พร้อมดื่มจากผลไม้เข้มข้น (สีส้มออกเหลือง) และน้ำว่านหางจระเข้พร้อมดื่มจากผลไม้ธรรมชาติ (สีเขียวอ่อน) โดยเลือกใช้น้ำตาลฟรุกโตส เป็นสารให้ความหวาน จากผลการศึกษาอายุการเก็บรักษาของเครื่องดื่มว่านหางจระเข้พร้อมดื่มทั้งสองชนิด พบว่ามีอายุการเก็บรักษาไม่น้อยกว่า 3 เดือนที่อุณหภูมิ 4 องศาเซลเซียส และทีมนักวิจัยได้นำผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไปการทดสอบการยอมรับจากกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายโดยให้คะแนนความชอบในระดับปานกลาง
นอกเหนือจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์น้ำว่านหางจระเข้พร้อมดื่มแล้ว วว. ยังได้พัฒนาสูตรเครื่องดื่มว่านหางจระเข้ในรูปแบบผงชนิดพร้อมดื่ม โดยใช้วิธี Freezedry เพื่อคงคุณประโยชน์ โดยทำการพัฒนา 2 สูตร ได้แก่ เครื่องดื่มชนิดผงกลิ่นมะตูมและกลิ่นเก๊กฮวย เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้แก่ผู้บริโภค สะดวกต่อการขนส่ง รวมทั้งส่งออกไปยังต่างประเทศ วว.พร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตน้ำว่านหางจระเข้พร้อมดื่มและชนิดผง ให้แก่ผู้ประกอบการที่สนใจนำไปผลิตในเชิงพาณิชย์
สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นางเรวดี มีสัตย์ โทร 0 2577 9155-6 หรือ Call Center วว. โทร. 0 2579 3000 ในวันและเวลาราชการ www.tistr.or.th