กรุงเทพฯ--1 เม.ย.--ปภ.
นอกจากเดือนเมษายนจะเป็นช่วงที่มีวันหยุดติดต่อกันหลายวันแล้ว ยังเป็นช่วงที่ตรงกับเทศกาสำคัญของไทย และจีนอีกด้วย จึงคาดว่าจะมีประชาชนเดินทางใช้รถใช้ถนนเพิ่มมากขึ้นทั้งในช่วงกลางวันและกลางคืน เพื่อความปลอดภัย ในการเดินทาง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ขอแนะวิธีขับรถอย่างปลอดภัยในช่วงกลางวันและกลางคืน ดังนี้
การขับรถในช่วงกลางวัน สภาพอากาศในช่วงเดือนเมษายนมีแสงแดดแรงจัดกว่าช่วงเดือนอื่นๆ ทำให้ผู้ขับขี่มีสายตาพร่ามัว และง่วงนอนง่ายกว่าปกติ อีกทั้งสภาพอากาศที่แห้งแล้ง ทำให้มีฝุ่นละอองปกคลุมถนน ส่งผลให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางของผู้ขับขี่ลดลง จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการขับรถในช่วงดังกล่าว ขอแนะวิธีปฏิบัติ ดังนี้
- ขับรถช่วงแสงแดดแรงจัด ผู้ขับขี่ควรใช้ที่บังแดดปิดลงมาที่กระจกหน้ารถ สวมแว่นตากันแดดที่ได้มาตรฐาน เพราะแว่นกันแดดจะช่วยกรองความสว่างของแสงแดด ลดปัญหาการมองเห็นภาพลวงตาบนพื้นถนน ทำให้มองเห็นเส้นทางชัดเจนขึ้น หลีกเลี่ยงการขับรถติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน เพราะอาจทำให้เกิดอาการง่วงนอนได้ หากมีอาการง่วงนอนในขณะขับรถ ให้หาที่จอดพักรถในบริเวณที่ปลอดภัย เช่น สถานีบริการน้ำมัน จุดพักรถริมข้างทาง เป็นต้น เพื่อพักล้างหน้าหรือเปลี่ยนอิริยาบถ จะช่วยคลายอาการง่วงนอนลงได้
- ถนนมีฝุ่นละอองปกคลุม ผู้ขับขี่ควรหมั่นทำความสะอาดกระรถยนต์ โดยเฉพาะกระจกหน้าและหลังรถ เพื่อป้องกันฝุ่นละอองเกาะกระจก ทำให้มองเห็นเส้นทางไม่ชัดเจน ปิดกระจกรถทุกด้าน เพื่อป้องกันฝุ่นละอองเข้าตาในขณะขับรถ ลดความเร็วลงเมื่อขับผ่านเส้นทางที่มีฝุ่นปกคลุม โดยเฉพาะถนนลูกรังที่เป็นหลุมบ่อ เพราะเป็นเส้นทางที่มีฝุ่นละอองมากกว่าเส้นทางอื่นๆ กรณีฝุ่นฟุ้งกระจายจนมองไม่เห็นเส้นทาง ให้เปิดไฟตัดหมอกหรือไฟหน้ารถ จะช่วยให้มองเห็นเส้นทางชัดเจนขึ้น และทำให้ผู้ขับรถคันอื่นมองเห็นรถเราด้วย
การขับรถช่วงเวลากลางคืน มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนมากกว่าปกติ เพราะขีดจำกัดในการมองเห็นเส้นทางและสิ่งกีดขวาง เพื่อความปลอดภัย ผู้ขับขี่ควรควรตรวจสอบระบบไฟส่องสว่าง ทั้งไฟสูง ไฟต่ำ ไฟสัญญาณให้พร้อมใช้งานทุกดวง หมั่นทำความสะอาดดวงไฟ เพราะฝุ่นโคลนที่ติดจะทำให้สว่างน้อยลง อีกทั้งตั้งระดับไฟหน้ารถให้สามารถมองเห็นถนนได้ชัดเจนด้วยการเปิดไฟต่ำ เพราะหากเปิดไฟสูงจะทำให้รถที่สวนมามองไม่เห็นเส้นทางข้างหน้า อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ รวมถึงศึกษาสภาพเส้นทาง หากสภาพพื้นผิวถนนไม่ดี มีการก่อสร้างหรืออยู่ระหว่างการซ่อมแซมให้หลีกเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นที่ปลอดภัย ขับรถด้วยความเร็วที่สามารถจะหยุดรถได้ในขอบเขตที่สายตามองเห็นได้ และสอดคล้องกับระยะทางที่ไฟหน้ารถส่องถึง โดยปกติไฟต่ำจะสามารถมองเห็นสิ่งกีดขวางได้ชัดเจนไม่เกิน ๔๐ เมตร ส่วนไฟสูงส่องได้ไกลประมาณ ๑๐๐ เมตร กรณีผู้ขับขี่ต้องการแซงรถคันอื่น ต้องดูให้แน่ใจก่อนว่าไม่มีรถสวนมา ถ้าเห็นดวงไฟคู่หน้าเป็นดวงเดียวกันแสดงว่ารถอยู่ไกลให้แซงได้ แต่ไม่ควรประมาท เพราะอาจเป็นรถจักรยานยนต์ หรือรถยนต์ที่ไฟหน้าชำรุดก็เป็นได้ กรณีขับผ่านเส้นทางที่มืดมากๆ ให้เปิดไฟสูงเป็นระยะๆ เพื่อจะได้มองเห็นเส้นทางชัดเจนขึ้น หากมีรถวิ่งสวนทางมา ให้เปลี่ยนเป็นไฟต่ำทันที
จะเห็นได้ว่า ไม่ว่าจะขับรถในช่วงกลางวันหรือกลางคืน ล้วนมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทั้งสิ้น ดังนั้น เพื่อความปลอดภัย ผู้ขับขี่ควรเตรียมความพร้อมทั้งด้านสภาพร่างกาย ตรวจสอบสภาพรถ ศึกษาเส้นทาง รวมถึงเรียนรู้วิธีการขับรถอย่างปลอดภัยทั้งในช่วงกลางวัน และกลางคืน รวมถึงปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุทางถนน เช่น เร็ว เมา ง่วง โทรไม่ขับ จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนได้ในระดับหนึ่ง