ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) ขานรับมาตรการช่วยเหลือธุรกิจเอสเอ็มอี กู้สูงสุดถึง 5 ล้านบาท ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน อนุมัติใน 4 วัน

ข่าวทั่วไป Tuesday August 14, 2007 08:03 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 ส.ค.--ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย)
ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) จำกัด (มหาชน) ขานรับมาตรการเร่งช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีด้วยผลิตภัณฑ์สินเชื่อเพื่อธุรกิจ แบบไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน โดยขยายวงเงินกู้สูงสุดถึง 5 ล้านบาท อนุมัติภายใน 4 วัน ผ่อนได้ยาวนาน 48 เดือน เพื่อต่อยอดลูกค้าเดิมและขยายฐานลูกค้าใหม่ที่เป็นผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดสินเชื่อ
นายธรรมศักดิ์ จิตติมาพร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายบริการธุรกิจเอสเอ็มอี ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารฯ ขานรับการเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ด้วยการขยายเงื่อนไขผลิตภัณฑ์สินเชื่อเพื่อธุรกิจ ให้ยืดหยุ่นและเอื้อประโยชน์ต่อผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็กมากขึ้น ทั้งนี้ ธนาคารเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศจะดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ภาคธุรกิจเอสเอ็มอีก็จะได้รับอานิสงส์และมีส่วนช่วยเกื้อหนุนให้เศรษฐกิจเติบโตไปในเวลาเดียวกัน
ข้อเสนอใหม่ของผลิตภัณฑ์สินเชื่อเพื่อธุรกิจ แบบไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน หรือ Business Installment Loan ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่ธนาคารมีอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว คือการขยายวงเงินกู้ให้ได้สูงสุดถึง 5 ล้านบาทโดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ส่วนระยะเวลาในการผ่อนชำระได้นาน 48 เดือน อัตราดอกเบี้ยต่ำสุดที่ 14.99% ต่อปี และเป็นการคำนวณแบบลดต้นลดดอก
ข้อเสนอใหม่นี้อาจกล่าวได้ว่าเป็นข้อเสนอที่ดีมากสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการเงินทุนเพื่อใช้ในการดำเนินธุรกิจให้เกิดความคล่องตัวมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับภาวะตลาดในปัจจุบันที่ผู้ประกอบการหลายคนอาจเผชิญกับภาวะเงินแข็งค่า และขาดสภาพคล่องชั่วคราว
“เราพยายามตอบสนองความต้องการของลูกค้าด้านธุรกิจ ด้วยบริการที่แตกต่าง และรวดเร็ว ทั้งนี้จากการสำรวจความต้องการของลูกค้าด้านธุรกิจ พบว่า เจ้าของกิจการธุรกิจขนาดกลางและเล็กจำนวนมากต้องการความรวดเร็วในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อใช้ในการดำเนินธุรกิจ นอกจากนี้ยังต้องการแหล่งเงินทุนที่มีต้นทุนต่ำ ความเสี่ยงน้อย ธนาคารจึงพยายามตอบโจทย์ให้ได้ครบทุกข้อ เพื่อเพิ่มศักยภาพความสามารถในการแข่งขันในการรุกตลาดเอสเอ็มอี ดังนั้น ข้อเสนอสินเชื่อเพื่อธุรกิจที่ออกมาจึงเน้นเรื่องวงเงินกู้ที่สูงขึ้นโดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ระยะเวลาในการอนุมัติที่รวดเร็วขึ้น คือลูกค้าจะรู้ผลภายในเวลา 4 วันทำการ และเมื่อได้รับการอนุมัติแล้ว ธนาคารก็จะโอนเงินเข้าบัญชีของลูกค้าในธนาคารอื่นๆ ให้ด้วย ทำให้เพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้ายิ่งขึ้น” นายธรรมศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติม
นอกจากนี้ นายธรรมศักดิ์ยังเผยว่า กลุ่มเป้าหมายของธนาคาร อันดับแรกคือ มุ่งที่การต่อยอดลูกค้าเดิมที่มีอยู่แล้ว โดยธนาคารจะมีผู้จัดการลูกค้าสัมพันธ์ หรือ Relationship Manager ที่มีประสบการณ์และความรู้เกี่ยวกับบริการทางการเงิน คอยดูแลให้บริการและคำปรึกษา เพื่อช่วยให้ธุรกิจของลูกค้าเติบโตอย่างแข็งแกร่ง นอกจากนี้ ธนาคารยังมุ่งที่จะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ โดยเฉพาะผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่อาจยังไม่เคยใช้บริการกับธนาคารเลย
ในส่วนของกลยุทธ์ทางการตลาด ธนาคารวางแผนเจาะกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ทั้งในกรุงเทพฯ และจังหวัดใหญ่ๆ นอกจากจะใช้สาขาเป็นจุดเชื่อมต่อไปยังลูกค้า โดยเฉพาะในหัวเมืองใหญ่ๆ ที่เป็นฐานของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี อย่าง ขอนแก่น ระยอง และหาดใหญ่แล้ว ธนาคารยังมีทีมขายคอยติดต่อไปยังลูกค้าทั่วประเทศ เพื่อเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินข้างต้น ผสมผสานกับการใช้สื่อต่างๆ เพื่อเผยแพร่ข่าวสารไปยังกลุ่มลูกค้าที่ต้องการ
“สำหรับการเข้าร่วมปล่อยสินเชื่อจากกองทุนช่วยเหลือภาคธุรกิจเอสเอ็มอีวงเงิน 5,000 ล้านบาทของธนาคารแห่งประเทศไทย ทางธนาคารพร้อมให้บริการผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนดโดยธนาคารแห่งประเทศไทย ดังนั้น เมื่อรวมกับข้อเสนอสินเชื่ออื่นๆของธนาคารที่ออกแบบมาสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ก็จะช่วยให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี มีทางเลือกมากขึ้นในการขอสินเชื่อที่ตรงกับสถานภาพและความต้องการของแต่ละราย”นายธรรมศักดิ์กล่าวเสริม
นอกจากสินเชื่อเพื่อธุรกิจ โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกันแล้ว บริการธุรกิจ SME ของธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) ยังมี Express Trade for SME ซึ่งเป็นวงเงินสินเชื่อประเภทเบิกเกินบัญชี และบริการสินเชื่อสำหรับการค้าต่างประเทศและในประเทศ (Trade Service) บริการด้านการค้าระหว่างประเทศ (Trade Finance) ปริวรรตเงินตราต่างประเทศ (Foreign Exchange) และการบริหารเงินสด (Cash Management) นอกจากนี้ ธนาคารยังใช้จุดแข็งในด้านเครือข่ายทั่วโลกมาช่วยบริการลูกค้า โดยการให้ข่าวสารข้อมูลที่รวดเร็วกับลูกค้า เพื่อใช้ในการตัดสินใจของลูกค้า โดยเฉพาะในเรื่องความเคลื่อนไหวด้านอัตราเงินต่างประเทศ สำหรับผู้ประกอบการที่ไม่ใช่ลูกค้าธนาคาร หากต้องการข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ อาจติดต่อขอคำแนะนำต่างๆ ได้ที่ฝ่ายบริการธุรกิจเอสเอ็มอี ที่ โทร 02 724 7200
ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) จำกัด (มหาชน)
ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดมีพนักงานกว่า 60,000 คนใน 1,400 สาขาในกว่า 56 ประเทศในภูมิภาค เอเชียแปซิฟิก เอเชียตอนใต้ ตะวันออกกลาง อัฟริกา สหราชอาณาจักร และในทวีปอเมริกา สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดเป็นหนึ่งในธนาคารที่มีความเป็นสากลมากที่สุดในโลก ด้วยจำนวนบุคคลกรที่มากด้วยคุณภาพมากกว่า 100 สัญชาติทั่วโลก
ธนาคารฯ มีธุรกิจหลักคือ บุคคลธนกิจและสถาบันธนกิจ ธุรกิจด้านบุคคลธนกิจให้บริการด้านบัตรเครดิต สินเชื่อบุคคล สินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ บริการรับฝากเงิน บริการด้านการบริหารสินทรัพย์ให้แก่ลูกค้ารายบุคคล ลูกค้าเจ้าของธุรกิจรายย่อย จนถึงลูกค้าเจ้าของธุรกิจขนาดกลาง ส่วนสถาบันธนกิจนั้นให้บริการแก่ลูกค้าที่เป็นสถาบันหรือบริษัทในด้านต่างๆ เช่น สินเชื่อพาณิชย์ การบริหารเงินสด การให้กู้ บริการด้านหลักทรัพย์ บริการด้านเงินตราต่างประเทศ บริการด้านการกู้ยืมในตลาดทุนและบริการด้านเงินกู้สำหรับธุรกิจ
ธนาคารฯ ได้รับความเชื่อถือและความไว้วางใจจากผู้ที่เกี่ยวข้องตลอดเครือข่ายการทำงานธนาคารฯ เป็นองค์กรที่ดำเนินกิจการภายใต้กฎบรรษัทภิบาล รวมทั้งยังเป็นองค์กรที่มีความมุ่งมั่นและสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้แก่ชุมชนของประเทศที่ธนาคารฯ ได้เข้าประกอบธุรกิจ
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ :
เสาวรภย์ ปัญญาชีวิน แผนกองค์กรสัมพันธ์
โทร: 02 724 8025 แฟกซ์: 02 724 8018
Saowarop.Panyacheewin@th.standardchartered.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ