กรุงเทพฯ--2 เม.ย.--อีริคสัน (ประเทศไทย)
อีริคสันเซ็นสัญญากับสองโอเปอเรเตอร์ยักษ์ใหญ่ ไชน่า โมบาย และไชน่ายูนิคอม มูลค่าสูงถึง 18,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อขยายโครงข่าย 2Gและ3G ในจีน หวังรองรับกลุ่มผู้ใช้กว่า 1300 ล้านคน ในช่วงเศรษฐกิจขาขึ้น
นายแมทส์ เอช โอลส์สัน (Mats H Olsson) หัวหน้าของอีริคสัน เกรทเทอร์ ไชน่า (Head of Ericsson Greater China) กล่าวว่า “การเซ็นสัญญาความร่วมมือครั้งสำคัญนี้ แสดงให้เห็นถึงสัมพันธภาพอันแน่นแฟ้นระหว่างอีริคสันกับพันธมิตรชาวจีน เรามั่นใจว่าจะสามารถพัฒนาเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและให้บริการที่เหนือชั้นกว่าใคร เพื่อสนับสนุนให้โอเปอเรเตอร์ในประเทศจีนมีศักยภาพที่จะตอบสนองความต้องการของตลาดที่ขยายตัวอย่างเต็มที่”
ภายใต้ข้อตกลงพันธกิจกับไชน่า โมบายนั้น อีริคสันจะเป็นผู้จัดหาโครงข่ายคลื่นความถี่วิทยุ (radio access network) รวมถึงสถานีฐาน RBS 6000 ที่สามารถรองรับคลื่นความถี่ได้หลายประเภท (multi-standard radio base station) และเทคโนโลยีโมบาย ซอฟท์ สวิทช์ (mobile soft-switch) ที่ช่วยเพิ่มศักยภาพของโครงข่ายและช่วยพัฒนาให้เป็นโครงข่ายระบบไอพี ซึ่งอีริคสันจะนำโซลูชั่นดังกล่าวมาผลักดันให้ไชน่า โมบายสามารถบรรลุเป้าหมายในเรื่องการประหยัดพลังงานอีกด้วย โดยสัญญาฉบับนี้มีมูลค่าสูงถึง 1 พันล้านเหรียญสหรัฐและจะเริ่มดำเนินการภายในปี 2553
สำหรับข้อตกลงพันธกิจกับไชน่า ยูนิคอมนั้น อีริคสันจะเป็นผู้จัดหาโครงข่าย 3G บนเทคโนโลยี HSPA เพื่อช่วยพัฒนาด้านความเร็วในการสื่อสารและรับส่งข้อมูลรวมถึงการให้บริการที่มีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับลูกค้าของไชน่า ยูนิคอม นอกจากนี้ อีริคสันยังรับผิดชอบในเรื่องเทคโนโลยีไอพีและบรอดแบรนด์ โดยจะเป็นผู้พัฒนาไอพี เราท์เตอร์ เทคโนโลยีการต่อเชื่อมด้วยไฟเบอร์ (fiber access technologies) ทั้งแบบ GPON (Gigabit Passive Optical Network) หรือ 40G WDM (Wavelength Division Multiplexing) ตลอดจนเทคโนโลยีการส่งข้อมูลแบบ IP multimedia subsystem (IMS) ซึ่งสัญญาฉบับนี้มีมูลค่าสูงถึง 800 ล้านเหรียญสหรัฐและจะเริ่มดำเนินการภายในปี 2553 เช่นกัน
จีนได้ชื่อว่ามีตลาดเศรษฐกิจที่ขยายตัวเร็วที่สุดในโลกในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ปริมาณความต้องการเทคโนโลยีจึงเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย และตัวเลขประชากรที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลถึงปริมาณการใช้โทรศัพท์- มือถือ โดยในปี 2552 มีจำนวนผู้ใช้บริการมือถือรายใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 106 ล้านคน ซึ่งทำให้มีจำนวนผู้ใช้รวมสูงถึง 747 ล้านคน หรือคิดเป็น 56.3% ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ตลาด ADSL หรืออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงก็ยังคงเพิ่มขึ้นประมาณ 20% ส่งผลให้จำนวนผู้ใช้จนถึงสิ้นปี 2552 มีจำนวนถึง 103 ล้านคน
ปัจจุบันนี้ประชากร 99% มีโทรศัพท์มือถือใช้ นับเป็นผลพลอยได้จากการขยายเครือข่ายของโอเปอเรเตอร์ในพื้นที่ชนบทเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งทำให้ผู้ให้บริการโครงข่ายและโอเปอเรเตอร์นั้นต้องให้ความสำคัญในการลงทุนเพื่อรักษามาตรฐานและคุณภาพการให้บริการโดยเฉพาะในเมืองใหญ่ๆ อย่างเต็มที่
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
น.ส. แสงดี สีแดง
ตำแหน่ง ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารการตลาด
บริษัท อีริคสัน (ประเทศไทย) จำกัด
โทร. 0 2299 7300
อีเมล์: saengdi.sidaeng@ericsson.com
ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์
อันนา บุญชัย (แอน)
โสภณ วุฒิประเสริฐกุล (บิ๊ก)