สถานการณ์ความขัดแย้งเริ่มส่งผลให้เศรษฐกิจเข้าสู่วิกฤต

ข่าวทั่วไป Friday April 2, 2010 14:15 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--2 เม.ย.--สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย หอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย มีความวิตกกังวลอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากได้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศอย่างใหญ่หลวง ที่มีข่าวคราวการยิง และการขว้างระเบิด ออกไปสู่ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกเกือบทุกวัน จนเป็นเหตุให้หลายประเทศขาดความเชื่อมั่น และได้แจ้งเตือนนักท่องเที่ยวของตน ทบทวนการเดินทางมาประเทศไทย จากการประเมินสถานการณ์ เมื่อ 31 มีนาคม นี้ ตามสถิตินักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศที่ผ่านสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งปกติในเดือนมีนาคม จะอยู่ที่ 4.5 หมื่นคนต่อวัน แต่หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ขึ้น นักท่องเที่ยวลดลงอยู่ที่ 3.8 หมื่นคนต่อวัน และมีแนวโน้มจะลดลงไปเรื่อย ๆ ซึ่งศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้คาดการณ์ว่านักท่องเที่ยวจะหายไปประมาณ 20 — 30 % คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 8,000 — 10,000 ล้านบาท และจะมีผลกระทบ ไปถึงการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคของประชาชนและการจ้างงาน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม — มิถุนายน ซึ่งขณะนี้พบว่าการบริโภคเริ่ม หดตัวลงเฉลี่ยวันละ 500 — 800 ล้านบาท และการท่องเที่ยวมีรายได้ หดตัวลงวันละ 200 — 500 ล้านบาท ขณะนี้นักลงทุน และนักธุรกิจชาวต่างชาติเริ่มหวั่นไหวต่อสถานการณ์ที่ไม่มีทีท่าว่าจะยุติลงง่าย ๆ เริ่มไม่มั่นใจในด้านการค้าการลงทุนในประเทศไทย หอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เป็นห่วงว่าหากสถานการณ์ยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป เศรษฐกิจสังคมของประเทศจะเข้าขั้นวิกฤติเนื่องจากเงินทุนหมุนเวียนไม่เข้าประเทศ ขาดเงินไปจ้างงาน ไม่มีเงินไปจับจ่ายเพื่อการบริโภค การพัฒนาประเทศจะหยุดชะงักและสูญเสียโอกาสในการแข่งขันลงอย่างน่าเสียดาย ตามที่รัฐบาล ได้จัดการเจรจากับ นปช. ได้สร้างความยินดีแก่ประชาชนโดยทั่วไปเป็นอย่างยิ่งและสร้างความหวังว่าจะเป็นจุดที่สามารถ สร้างความปรองดอง เหตุการณ์ต่าง ๆ จะได้ยุติลงด้วยดีแต่เป็นที่น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง ที่ในที่สุดการเจรจาก็ไม่สัมฤทธิ์ผลดังที่ได้ทราบกันอยู่แล้ว หอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย จึงขอร้องให้ทั้งรัฐบาลและ นปช. พิจารณาและดำเนินการดังนี้ 1. ให้รัฐบาลดำเนินการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและงานที่คั่งค้างอยู่ให้เสร็จสิ้นและจัดทำแผนงานให้ชัดเจนในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ 2. การแก้ปัญหาปราบปรามคอรัปชั่น สร้างความโปร่งใสให้เกิดความซื่อสัตย์สุจริตและเป็นธรรมในสังคม 3. รักษาและบังคับใช้กฎหมาย ไม่ให้เกิดข้อครหาในเรื่อง 2 มาตรฐาน และให้เกิดความสงบปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินเพื่อให้ต่างชาติเกิดความเชื่อมั่น 4. แก้ไขปัญหาโครงการอุตสาหกรรมมาบตาพุด ให้เป็นที่เรียบร้อย ในส่วนของ นปช. ได้โปรดพิจารณาในประเด็นดังต่อไปนี้ 1. ขอให้ใช้ความอดทน อดกลั้น โดยคำนึงถึงจุดมุ่งหมายหลักของท่านและความสงบสุขในการชุมนุม รวมทั้งดำเนินการพิจารณาแต่งตั้งตัวแทนเข้าหารือกับรัฐบาลเพื่อหาทางออกให้แก้ปัญหาของประเทศชาติต่อไป 2. เนื่องในโอกาสเทศกาลสงกรานต์ จึงหวังว่าประชาชนชาวไทยทุกคนจะได้ฉลองเทศการสงกรานต์กับครอบครัวด้วยความสุข ปราศจากความกังวลทั้งมวล

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ