ความท้าทายในการดึงดูดนักท่องเที่ยวอินเดียมายังอาเซียน

ข่าวท่องเที่ยว Friday April 2, 2010 15:02 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--2 เม.ย.--สก๊อตเอเชีย คอมมิวนิเคชั่นส์ อุตสากรรมการท่องเที่ยวในอาเซียนกำลังตื่นตัวกับการเพิ่มจำนวนขึ้นของนักท่องเที่ยวชาวอินเดียอย่างรวดเร็ว โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นี้จะเป็นชนชั้นกลางที่อาศัยอยู่ในเมือง และหากสามารถตัดปัญหาเล็กน้อย เช่น เรื่องวีซ่า, อาหาร, และอคติต่างๆออกไปได้แล้วนั้น ความหลงใหลในกลุ่มนักท่องเที่ยวอาจจะขยายตัวมากขึ้นส่งผลให้กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวอินเดียกลายเป็นอีกหนึ่งกลุ่มเป้าหมายที่สำคัญในระยะยาวและได้รับความเคารพนับถือจากเจ้าบ้านในอาเซียน (ภาพจากซ้าย: ดร. Sanjay Nadkami และ มร. Ashok Kapur) นอกจากนี้บริษัทตัวแทนท่องเที่ยวของอินเดียยังจำเป็นต้องแนะนำสินค้าและประสบการณ์การท่องเที่ยวใหม่ๆแก่นักท่องเที่ยวชาวอินเดียให้มากไปกว่าการมาเที่ยวเมืองหลวงในอาเซียน เพื่อการชอปปิ้งและการท่องราตรี โดยการเพิ่มโปรแกรมการท่องเที่ยวทะเลในพัทยา, ปีนัง, หรือเซ็นโตซ่า ภายใต้แนวคิดว่า “to see and be seen” หรือ “ควรไป เพราะเคยไปมาแล้ว” โดยทั้งหมดนี้เป็นความจริงและประเด็นที่เน้นย้ำโดย ดร. Sanjay Nadkarni ผู้ช่วยศาสตราจารย์ แห่ง Emirates Academy of Hospitality Management ณ เมืองดูไบ ในการบรรยายภายใต้หัวข้อ “Growth Drivers and Challenges for India Outbound Tourism to ASEAN,” เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2553 ที่ผ่านมา โดย ดร. Nadkarni ได้กล่าวแก่ผู้นำจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและนักศึกษาจากวิทยาลัยนวัตกรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ว่า หากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในอาเซียนต้องการได้รับประโยชน์จากการเติบโตของการเดินทางออกนอกประเทศของนักท่องเที่ยวชาวอินเดียนี้แล้ว ผู้ประกอบการจะต้องนำเสนอสิ่งใหม่ๆแก่บริษัทตัวแทนท่องเที่ยวในอินเดีย และจัดโปรแกรมการท่องเที่ยวให้เหมาะสมกับความต้องการของชาวอินเดียด้วย นักท่องเที่ยวชาวอินเดียส่วนใหญ่นั้นเดินทางมาอาเซียนเป็นครั้งแรก การเดินทางของพวกเขาจะขึ้นอยู่กับคำแนะนำของบริษัทตัวแทนท่องเที่ยวเป็นส่วนใหญ่ “เมื่อบริษัททัวร์พูดว่า “ฉันเคยเดินทางไปที่นั่นมาแล้ว” นี่จะทำให้นักท่องเที่ยวมั่นใจในการเดินทางมามากยิ่งขึ้น” ดร. Nadkarni กล่าว อย่างไรก็ตามยังมีบริษัททัวร์ในอินเดียหลายแห่งที่ขายแพคเกจท่องเที่ยวอาเซียนแบบจำกัดอยู่เพียงไม่กี่รายการ แพคเกจที่พวกเขาขายนั้นจะเป็นแพคเกจที่ได้รับความนิยมและทำกำไรให้แก่บริษัท ซึ่งเมื่อความต้องการในแพคเกจเหล่านี้สูง แล้วเหตุใดจึงต้องเปลี่ยน “เราพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้บริษัทตัวแทนท่องเที่ยวขายโปรแกรมนอกเหนือจากแพคเกจกรุงเทพฯและพัทยา” มร. Ashok Kapur CEO บริษัท คีรี เอเชีย ผู้เชี่ยวชาญด้านการโปรโมทโปรแกรมท่องเที่ยวสู่ประเทศไทย, ลาว, กัมพูชา, และเวียดนาม แก่บริษัทตัวแทนด้านการท่องเที่ยวในอินเดีย “เราพยายามที่จะโปรโมทเชียงใหม่ และกัมพูชาซึ่งมีโรงแรมที่ดี, มีสถานบันเทิง และกลิ่นอายของวัฒนธรรมอินเดียที่หยั่งรากลึก แต่มันก็ยากเหลือเกิน เพราะกว่า 90% ของนักท่องเที่ยวต้องการเดินทางมายังกรุงเทพฯ, พัทยา, และภูเก็ต ดร. Nadkarni กล่าวแก่ผู้ฟังอีกว่ายังมีกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยวใหม่ที่มีศักยภาพจากเมืองใหญ่อันดับรองมา เช่น Hyderabad, Trivendrum, Ahmedabad และ Amritsar นักท่องเที่ยวจากเมืองที่ได้รับอิทธิพลจากเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ IT เช่นเมือง Bangalore และ Hyderabad นั้นล้วนเป็นกลุ่มเป้าหมายที่สำคัญสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวสู่อาเซียน หรือแม้กระทั่งการเดินทางในช่วงวันหยุดยาวในอินเดียเอง การใช้วีซ่าร่วมกันสำหรับการเดินทางในอาเซียนนั้น อาจจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยผลักดันให้จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นรวมถึงส่งเสริมให้มรการเดินทางสู่หลายๆจุดหมายปลายทางในการท่องเที่ยวแต่ละครั้ง อย่างไรก็ดี วีซ่าที่ว่านี้คงไม่สามารถจัดทำขึ้นได้ในเร็ววัน ดังที่ศาสราจารย์ Walter Jamieson ผู้อำนวยการหลักสูตรนวัตกรรมการบริการ ของวิทยาลัยนวัตกรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์กล่าว “อย่างไรก็ดี เราได้มองการจัดทำวีซ่าร่วมสำหรับการเดินทางสู่สองประเทศที่ชาวอินเดียชอบเดินทางไปไว้เป็นอีกหนึ่งทางเลือก เช่น สิงคโปร์ กับ มาเลเซีย หรือ ไทย กับ กัมพูชา” ดร. Nadkarni ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า จำนวนนักท่องเที่ยวชาวอินเดียที่เดินทางท่องเที่ยวมากกว่าหนึ่งครั้งต่อปีนั้นเพิ่มขึ้น 16% ต่อปี และจำนวนนักท่องเที่ยวชาวอินเดียที่ท่องเที่ยวมากกว่าสามครั้งต่อปีนั้น เพิ่มขึ้นในอัตรากว่า 200% ดร.ยังกล่าวเสริมว่า ชาวอินเดียนั้นมีการใช้จ่ายในด้านการช็อปปิ้งสูง, นิยมพักในโรงแรมหรูหรา และชอบที่จะบอกต่อกับเพื่อนฝูงว่าได้เดินทางไปเที่ยวยังต่างประเทศ เช่น บาหลี ซึ่งค่าใช้จ่ายในการเดินทางท่องเที่ยวไปเที่ยวบาหลี 6 วัน รวมค่าตั๋วเครื่องบินแล้วยังถูกกว่าการท่องเที่ยวในประเทศอินเดีย เช่น Goa หรือ Kerala ซึ่งชาวอินเดียเห็นว่าทั้งสองเมืองนั้นมีการตั้งราคาค่าบริการต่าง ๆ ที่สูงเกินจริง ดร. Nadkarni ได้กล่าวเตือนว่า การจัดให้มีเชฟอาหารอินเดียไว้บริการอาจเป็นอีกปัจจัยหนึ่งในการตัดสินใจของคนอินเดียในการจองทัวร์หรือการจัดท่องเที่ยวแบบ MICE ชาวอินเดียส่วนมากนั้นรับประทานอาหารมังสวิรัติ ทั้งเนื่องมาจากเหตุผลทางศาสนาและเพื่อสุขภาพ ซึ่งแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ในภูมิภาคอาเซียนควรตระหนักด้วยว่า กลุ่มนักท่องเที่ยวที่มาจากทางตอนเหนือของอินเดียจะรับประทานอาหารที่แตกต่างจากนักท่องเที่ยวที่มาจากทางตอนใต้ อย่างไรก็ดี ดร. Nadkarni กล่าวปิดท้ายว่า นักท่องเที่ยวชาวอินเดียนั้นเป็นกลุ่มที่จัดอยู่ในกลุ่มนักท่องเที่ยวที่สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดปี และเป็นกลุ่มตลาดที่ไม่อ่อนไหวต่อคำเตือนหรือคำแนะนำการทอ่งเที่ยว และไม่ว่าอย่างไร พวกเขาก็จะเที่ยว พวกเขามีสัญชาตญาณของความท้าทายอยู่ในตัว” ดร. Nadkarni กล่าว สามารถขอรับเอกสารประกอบการบรรยายของดร. Nadkarni ได้ที่ saza_24@hotmail.com หลักสูตรนวัตกรรมการบริการ วิทยาลัยนวัตกรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จะมีการเชิญวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยว เพื่อให้ความรู้แก่บุคคลากรในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและนักศึกษาอีกในโอกาสต่อไป เกี่ยวกับคีรี เอเชีย คีรี เอเชียเป็นส่วนหนึ่งของคีรี แทรเวล กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการด้านการท่องเที่ยวแบบ B2B ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯ เป้าหมายหลักของคีรี เอเชีย คือ การจัดโปรแกรมการท่องเที่ยวที่แปลกใหม่สำหรับประเทศไทย และอินโดจีน โดยคุณค่าหลักของคีรี เอเชียคือ การบริการส่วนบุคคลที่มีคุณภาพ ซึ่งสามารถมองเห็นได้จากโปรแกรมที่คีรี เอเชียจัดรวมถึงผู้ให้บริการที่ทำงานร่วมกัน คีรี เอเชีย มีสำนักงานอยู่ในประเทศไทย, เวียดนาม, กัมพูชา และ ลาว คีรี เอเชียเป็นพาร์ทเนอร์กับโรงแรมคุณภาพมากมายที่เข้าใจถึงนโยบายของคีรี แทรเวลที่คำนึงถึงความต้องการส่วนบุคคลและการบริการที่สมบูรณ์แบบ เกี่ยวกับหลักสูตรนวัตกรรมการบริการ วิทยาลัยนวัตกรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, กรุงเทพฯ หลักสูตรนวัตกรรมการบริการตอบสนองต่อความต้องการของอุตสาหกรรมการบริการทั้งในภาครัฐ และภาคเอกชน ผ่านทางหลักสูตรปริญาโทและงานวิจัยต่างๆ ซึ่งปัจจุบันนวัตกรรมการบริการ และ ความเป็นเลิศถือว่าเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญในการตัดสินใจต่าง ๆ ทั้งในส่วนภาครัฐ เอกชนและประชาสังคม ซึ่งการที่หลักสูตรนวัตกรรมการบริการนำเสนอหลักสูตรที่รวมผู้ให้บริการจากทั้ง 3 ภาคส่วนเข้าด้วยกันนั้น จะช่วยให้นักศึกษาได้เรียนรู้ถึงวิธีการทำงานที่เน้นความคิดสร้างสรรค์และการคิดสิ่งใหม่ๆเพื่อนำไปสู่การสร้างสรรการให้บริการที่มีประสิทธิภาพและมีคุณภาพภายใต้การเปลี่ยนไปของโลกปัจจุบัน ข้อมูลเพิ่มเติมโปรดติดต่อ บริษัท คีรี ทราเวลจำกัด โทร: (+66) [0] 2968 6828 แฟกซ์: (+66) [0] 2968 6829 สื่อมวลชนโปรดติดต่อ สก๊อตเอเชีย คอมมิวนิเคชั่นส์ จิตรารัตน์ ลิขิตเกียรติกุล (บิ๋ม) โทร. 02 860 8227

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ