กรุงเทพฯ--7 พ.ย.--บีโอไอ
บีโอไอปลื้มผลการส่งเสริมอุตฯ ซอฟต์แวร์ร่วมกับ SIPA เอกชนแห่รับส่งเสริม 89 ราย — รอยเตอร์ตั้งศูนย์พัฒนาใหญ่สุดในเอเชีย
บีโอไอเผยผลมาตรการส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ หลังร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (SIPA) มีธุรกิจซอฟต์แวร์แห่ขอรับส่งเสริมและได้รับการอนุมัติ 89 โครงการ คิดเป็นเงินลงทุน 877 ล้านบาท โดยมีโครงการใหญ่ของ Reuters ที่จะขยายศูนย์พัฒนาซอฟต์แวร์ในประเทศไทยให้ใหญ่ที่สุดในเอเชีย
นายสาธิต ศิริรังคมานนท์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยถึงผลการส่งเสริมการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ ว่า หลังจากที่บีโอไอได้ร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (SIPA) ในการชักจูงการลงทุนจากผู้ประกอบการธุรกิจซอฟต์แวร์ทั้งในและต่างประเทศในประเทศไทย รวมทั้งให้ความรู้เกี่ยวกับการส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ ตลอดจนจัดตั้งหน่วยเฉพาะกิจเพื่ออำนวยความสะดวกและให้คำปรึกษาด้านการลงทุนซอฟต์แวร์กับผู้ประกอบการอย่างครบวงจร โดยเริ่มมาตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม 2547 เป็นต้นมานั้น ขณะนี้ ผลการผลักดันการส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ได้ออกมาเป็นที่น่าพอใจอย่างยิ่ง เพราะมีผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศยื่นขอรับส่งเสริมเป็นจำนวนมาก และตั้งแต่เดือนกันยายน 2547 ถึง เดือนตุลาคม 2548 บีโอไอได้อนุมัติให้การส่งเสริมกิจการซอฟต์แวร์ไปแล้วทั้งสิ้นจำนวน 89 โครงการ คิดเป็นเงินลงทุนประมาณ 877 ล้านบาท
ทั้งนี้ โครงการลงทุนของบริษัท Reuters Software (Thailand) LTD. มีมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้น 239 ล้านบาท เป็นการขยายศูนย์พัฒนาซอฟต์แวร์ของ Reuters ในประเทศไทยให้ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชีย เพื่อสนับสนุนงานบริการด้านข่าวสารข้อมูลของศูนย์ข่าวของ Reuters ทั่วโลก นอกจากนี้ยังรวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ในส่วนของ Reuters’ Group global financial information services อีกด้วย สำหรับซอฟต์แวร์ที่บริษัทฯ ทำการพัฒนาและผลิตขึ้นจะเป็นเทคโนโลยีใหม่ของ Reuter ทั้งหมด
สำหรับกิจการซอฟต์แวร์ที่ได้รับการส่งเสริม ส่วนใหญ่เป็นกิจการขนาดเล็กที่มีมูลค่าการลงทุนไม่เกิน 20 ล้านบาท และมีกิจการขนาดกลางที่ได้รับการส่งเสริมอีก 6 ราย คือ บริษัท เอ็นไอไอที เทคโนโลยี จำกัด บริษัท เอ็ม.เอฟ.อี.ซี.จำกัด (มหาชน) ลงทุน 44.6 ล้านบาท บริษัท ออบทิมั่ม อินโฟ โซลูชั่น จำกัด ผลิตและพัฒนาซอฟต์แวร์ที่มีความหลากหลาย สามารถปรับเปลี่ยนให้ใช้ได้กับลูกค้าในทุกๆ อุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจทางด้านการเงิน การธนาคาร, อุตสาหกรรมการผลิต รวมถึง Logistic, อุตสาหกรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (Telecommunication), Retail and Distribution และ อุตสาหกรรมการบริการ
บริษัท อาร์.เอ็น.ที. กรุ๊ป จำกัด ทำโครงการพัฒนาซอฟต์แวร์ระบบ Phone Payment เพื่อให้บริการในการชำระค่าสินค้าและบริการทุกประเภท อาทิ ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา ค่าโทรศัพท์ การชำระบัตรเครดิต และการสั่งซื้อสินค้า เป็นต้น ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้บริการได้รับความสะดวกสบาย ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และสามารถชำระค่าบริการที่ใดก็ได้
บริษัท เมดิคัลซอฟต์ จำกัด ทำโครงการพัฒนาโปรแกรมเพื่อบริหารจัดการและควบคุมการให้บริการทางการแพทย์ และกิจการโรงพยาบาล รวมทั้งคลินิกและโพลิคลินิก ซึ่งจะผลิตระบบงานที่ใช้ได้ในหลายๆ แผนก อาทิ แผนกเวชระเบียน แผนกหน้าห้องตรวจ แผนกห้องฉุกเฉิน แผนกห้องยานอก แผนกปฏิบัติการ แผนกหอผู้ป่วยใน และแผนกการเงิน เป็นต้น
และบริษัท โตโยต้า ทูโช อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ทำโครงการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ใช้กับ Electronic control units ในรถยนต์ ซึ่งขั้นตอนการพัฒนาซอฟต์แวร์นี้จะพัฒนาและผลิตขึ้นที่ประเทศไทยทั้งหมด และโครงการ บริษัทโตโยต้า ทูโช จะส่งพนักงานคนไทยระดับผู้จัดการและโปรแกรมเมอร์ไปฝึกอบรมที่ประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งส่งวิศวกรจากบริษัทแม่ในประเทศญี่ปุ่นมาอบรมให้กับโปรแกรมเมอร์คนไทยด้วย--จบ--