กรุงเทพฯ--7 เม.ย.--กองประชาสัมพันธ์ กทม.
สภากทม. กระทุ้งผู้บริหารเพิ่มประสิทธิภาพทางการศึกษา ทั้งควรยึดหลักเกณฑ์ในการพิจารณาแต่งตั้งและโยกย้ายบุคลากรทางการศึกษาต้องคำนึงถึงความเหมาะสมและตรงตามสายงาน ด้าน ผู้ว่าฯ แจงกทม. พิจารณาตามหลักเกณฑ์และเหมาะสมกับงาน พร้อมเดินหน้านโยบายเพิ่มประสิทธิภาพบุคลากรทางการศึกษาต่อเนื่อง
นายกิตพล เชิดชูกิจกุล ประธานสภากรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยที่ 2 (ครั้งที่1) ประจำปี พุทธศักราช 2553 โดยมีสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมคณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร ศาลาว่าการกทม.
ในที่ประชุมนายพิรกร วีรกุลสุนทร ส.ก.เขตจอมทอง ได้ตั้งกระทู้ถาม เรื่อง การบริหารจัดการคุณภาพการศึกษาของกรุงเทพมหานคร รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารบุคลากรและผู้บริหารโรงเรียนให้เกิดผลสัมฤทธิ์ทางการบริหารการศึกษาตามนโยบาย เนื่องจากพบว่าบุคลากรฝ่ายบริหารที่ได้รับการแต่งตั้งเข้ามาทำงานยังไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร ทั้งการโยกย้ายแต่งตั้งมีผลทำให้ฝ่ายบริหารบางตำแหน่งอยู่ไม่ครบวาระ ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ รวมถึงการย้ายบุคลากรทางการศึกษาไม่ตรงตามสายงาน อาจส่งผลต่อการเรียนการสอนและนโยบายที่วางไว้ ทั้งนี้ผู้บริหารกรุงเทพมหานครควรใช้หลักการพิจารณาให้รอบคอบเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและตรงตามนโยบาย ที่กำหนดไว้
ย้ำกทม. พิจารณาตามหลักเกณฑ์และเหมาะสมกับงาน
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ผู้บริหารกรุงเทพมหานครให้ความสำคัญในด้านบุคลากรทางการศึกษามาตลอดและยึดหลักเกณฑ์การพิจารณาเลื่อนวิทยฐานะหรือโยกย้ายตามความเหมาะสมเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพตรงตามสายงานซึ่งต้องใช้บุคลากรที่มีมีความเชี่ยวชาญ โดยปัจจุบันมีการฝึกอบรมหลักสูตร นักบริหารการศึกษามหานครระดับสูง และโครงการสนับสนุนให้บุคลากรครูไปศึกษาต่างประเทศเพื่อเพิ่มศักยภาพ และจัดให้มีการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาก่อนดำรงตำแหน่งและทางวิทยฐานะ เพื่อเพิ่มความรู้ ทักษะ เจตคติ คุณธรรม จริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพให้เหมาะสมเพื่อประสิทธิภาพทางการศึกษาอีกด้วย
ด้านนางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า อนาคตทางการศึกษาที่สดใสเป็นเป้าหมายสูงสุดของกรุงเทพมหานครที่ยึดถือและมุ่งมั่นพัฒนามาโดยตลอด ตามนโยบายในการเพิ่มบุคลากรครูทางด้านภาษาเพื่อให้เพียงพอกับความต้องการในปัจจุบัน ทั้งยังเป็นการเพิ่มจำนวนโรงเรียนที่มีการเรียนการสอนแบบ 2 ภาษาให้มากขึ้น รวมทั้งนโยบายโครงการห้องเรียนพ่อแม่ที่จะสามารถให้ผู้ปกครองใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ทั้งเป็นเรียนรู้จากหนังสือควบคู่กันไป ทั้งยังมีนโยบายในการเพิ่มห้องสมุดและสนับสนุนอุปกรณ์ทางการศึกษาเพื่อให้เพียงพอกับการเรียนการสอนเพื่อให้โรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานครมีความพร้อมในทุกด้านทางการศึกษาในอนาคต