กรุงเทพฯ--29 มี.ค.--AFET
ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย หรือ AFET เปิดตัวโฉมใหม่ของสินค้าข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์ ที่มีการปรับปรุงข้อกำหนดการซื้อขายรองรับนักลงทุน ในลักษณะสัญญาแบบ Both Options เพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้ซื้อผู้ขายชำระกำไรขาดทุนระหว่างกันได้โดยไม่ต้องกังวลกับการส่งมอบ รับมอบสินค้า ย้ำการปรับปรุงข้อกำหนดดังกล่าวจะกระตุ้นนักลงทุนให้เข้ามาซื้อขายมากยิ่งขึ้น ได้ฤกษ์เปิดเทรดอย่างเป็นทางการ 2 เมษายนนี้
นางนภาภรณ์ คุรุพสุธาชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าตั้งแต่ AFET เปิดดำเนินการมาตราบจนปัจจุบัน ภาระการส่งมอบรับมอบสินค้าระหว่างผู้ซื้อผู้ขายเมื่อสัญญาซื้อขายล่วงหน้าครบกำหนดส่งมอบนั้น เป็นเรื่องที่สร้างความกังวลให้แก่นักลงทุนเป็นอย่างมาก จนในบางครั้งต้องเลือกที่จะปลดภาระสัญญาซื้อขายของตนเอง ก่อนวันครบกำหนดส่งมอบด้วยวิธีล้างฐานะการถือครองหรือ Offset ก่อนเวลาอันควร เพื่อหลีกเลี่ยงที่จะถูกบังคับให้ส่งมอบหรือรับมอบสินค้าจริง ทำให้สัญญาซื้อขายล่วงหน้าไม่สามารถสนองตอบวัตถุประสงค์ในการลงทุนของนักลงทุนได้อย่างสมบูรณ์ จากประเด็นดังกล่าวข้างต้น จึงทำให้ AFET ได้ทำการปรับปรุงข้อกำหนดการซื้อขายล่วงหน้าในเรื่องของการส่งมอบและรับมอบให้เป็นลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าประเภท Both Options
การซื้อขายสัญญาล่วงหน้าประเภท Both Options นั้นจะมีคุณลักษณะพิเศษ คือผู้ขายหรือผู้ซื้อรายใดต้องการที่จะส่งมอบหรือรับมอบก็ให้แจ้งความประสงค์มายังตลาด แล้วตลาดจะจับคู่ให้ผูซื้อและผู้ขายสามารถส่งมอบรับมอบกันได้ แต่หากผู้ใดที่ไม่ได้แจ้งความประสงค์ที่จะส่งมอบรับมอบสินค้าไว้ หรือไม่ได้รับการจับคู่ให้ส่งมอบรับมอบ ตลาดก็จะยุติฐานะการถือครองทั้งหมดให้ด้วยวิธีการ Cash Settlement โดยไม่ต้องทำการส่งมอบรับมอบ แต่จะเป็นการยุติภาระผูกพันในสัญญาด้วยวิธีการชำระกำไรขาดทุนที่เป็นส่วนต่างของราคาด้วยเงินสด ซึ่งเป็นลักษณะใกล้เคียงกับการซื้อขายในตลาดเงินและตลาดทุน อาทิ ดัชนีหุ้น SET50 INDEX
Futures หรือ ดัชนีหุ้น Dow Jones
นางนภาภรณ์ กล่าวต่อไปว่า AFET ได้เลือกสินค้าข้าวขาว 5% ภายใต้สัญลักษณ์การซื้อขายใหม่ BWR5 เป็นสินค้านำร่องในการปรับปรุงข้อกำหนดการซื้อขายล่วงหน้าในเรื่องทางเลือกของการส่งมอบ รับมอบ โดยให้ผู้ซื้อและผู้ขายที่ประสงค์จะส่งมอบรับมอบสินค้า แจ้งความประสงค์มายังตลาดตั้งแต่เวลา 8.30 - 12.00 น. ของวันทำการถัดจากวันซื้อขายสุดท้าย แต่หากผู้ซื้อและผู้ขายไม่ได้ยื่นความประสงค์ หรือไม่ได้รับการจับคู่ให้ทำการส่งมอบรับมอบ ตลาดจะยุติฐานะการถือครองด้วยวิธี Cash Settlement ทันที การปรับปรุงสัญญาซื้อขายล่วงหน้าครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการสร้างความมั่นใจให้แก่นักลงทุนแล้ว ยังสามารถสนองตอบต่อกลไกของตลาดในโครงการจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐบาลโดยอิงราคาซื้อขายล่วงหน้าใน AFET ที่สามารถเข้ามาใช้ข้อกำหนดการซื้อขายล่วงหน้าสินค้าข้าวแบบ Both Options ได้อย่างคล่องตัว ซึ่งในวันที่ 2 เมษายน 2550 นี้จะเป็นวันแรกที่ AFET เปิดให้มีการซื้อขายข้าวขาวภายใต้ข้อกำหนดการซื้อขายแบบใหม่อย่างเป็นทางการ
การปรับปรุงข้อกำหนดการซื้อขายสินค้าข้าวแบบ Both Options นี้ นับเป็นต้นแบบสำหรับการพิจารณาปรับปรุงข้อกำหนดการซื้อขายสินค้าอื่นๆ ต่อไป ดังนั้นนักลงทุนที่ต้องการลงทุนซื้อขายใน AFET โดยไม่ต้องการส่งมอบ รับมอบสินค้า สามารถสังเกตสัญลักษณ์การซื้อขายที่ขึ้นต้นด้วยตัว B ซึ่งหมายถึง both options หน้ารหัสสินค้าแต่ละชนิดนับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ด้วยการปรับปรุงข้อกำหนดการซื้อขายล่วงหน้าสินค้าข้าวดังกล่าว นับเป็นการกระตุ้นให้กลุ่มต่างๆที่สนใจและเกี่ยวข้องได้เข้ามาใช้กลไกของตลาดล่วงหน้ามากขึ้น ทั้งกลุ่มผู้ประกอบการค้าข้าวที่จะเข้ามาใช้กลไกตลาดในการประกันความเสี่ยง และกลุ่มของนักลงทุนที่วันนี้ไม่ต้องกังวลกับการส่งมอบ รับมอบ และสามารถถือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าได้ตามเวลาที่ต้องการ ซึ่งเราเชื่อมั่นว่า การปรับปรุงข้อกำหนดดังกล่าวจะเป็นการเสริมสภาพคล่องให้การซื้อขายให้ตลาดมากยิ่งขึ้น
นางนภาภรณ์ กล่าวสรุป
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
คุณอริสรา ธนูแผลง ผู้ชำนาญการ ฝ่ายสื่อสารองค์กร ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (AFET)
โทรศัพท์ 0- 2263-9827 มือถือ : 081-561-4745 โทรสาร : 0-2685-3345 หรือ e-mail : arisara@afet.or.th
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net