TTA เจ๋งกำไร Q 3 กว่า 1,389 ล้านบาท

ข่าวทั่วไป Thursday August 16, 2007 10:57 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--16 ส.ค.--คิธ แอนด์ คินฯ
TTA ยิ้มรับผลประกอบการไตรมาส 3 กำไร 1,389.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 97.71% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน รับแรงหนุนจาก 3 ธุรกิจหลัก ค่าระวางสินค้าแห้งเทกองสดใส การบริการนอกชายฝั่ง-วิศวกรรมใต้น้ำขยายตัวต่อเนื่อง บวกภาวะค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น มั่นใจขนส่งสินค้าเทกอง-ธุรกิจเกี่ยวข้องยังเดินหน้าสดใสถึงปี 2551 เผยธุรกิจเรือบรรทุกสินค้าแห้งเทกองมีสัญญาล่วงหน้าตลอดทั้งปี 50 และ 51 ร้อยละ 32.50 และร้อยละ 17.69 ของระวางบรรทุกสินค้าทั้งหมดของบริษัท
ม.ล.จันทรจุฑา จันทรทัต กรรมการผู้จัดการ บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA เปิดเผยว่า บริษัทมีผลกำไรประจำไตรมาส 3 ปี 2550 ( สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2550) จำนวน 1,389.86 ล้านบาท โดยรวมผลกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 100.45 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 97.71% ที่มีกำไรสุทธิ 702.98 ล้านบาท
สำหรับผลกำไรที่เพิ่มขึ้นมีสาเหตุหลักมาจากความเติบโตของตลาดในธุรกิจเรือบรรทุกสินค้าแห้เทกอง และตลาดในธุรกิจบริการนอกชายฝั่ง และค่าเงินบาทที่แข็งขึ้น
โดยธุรกิจเรือบรรทุกสินค้าแห้งเทกองมีกำไรสุทธิ 1,144.06 ล้านบาท ไม่รวมผลกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน โดยสาเหตุหลักมาจากอัตราค่าระวางเรือปรับตัวสูงขึ้น โดยอัตราค่าระวางเรือของบริษัทฯ และ เรือที่เช่ามาเสริมกองเรือเพิ่มเติมเพิ่มขึ้นเป็น 16,550 ดอลลาร์สหรัฐอเมริการต่อวันต่อลำในไตรมาสที่ 3 ของปีบัญชี2550 จาก จาก 14,453 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกาต่อวันต่อลำในไตรมาส 2 ปี 2550 คิดเป็น 14.51%
ขณะเดียวกันปริมาณการขนส่งสินค้าทั้งหมดยังคงอยู่ในระดับสูง โดยจากวันที่ 1 ตุลาคม 2549 ถึง 30 มิถุนายน 2550 มีปริมาณการขนส่งสินค้าจำนวน 9.6 ล้านตัน และบริษัทได้ปล่อยเช่าเรือแบบให้เช่าเหมาลำเป็นระยะเวลา (time charter) เพิ่มจากเดิมอีก 2-3 ลำ ซึ่งมีระยะเวลาการเช่าไปจนถึง 2 ปี และหลังจากสิ้นไตรมาสที่ 3 ของปีบัญชี 2550 บริษัทฯ ได้เช่าเรือแบบให้เช่าเหมาลำเป็นระยะเวลาเพิ่มขึ้นอีก 1 ลำ ทำให้มีจำนวนเรือที่บริษัทเช่ามาเสริมกองเรือเพิ่มขึ้นเป็น 6 ลำ
“ บริษัทมั่นใจว่าการขนส่งสินค้าแห้งเทกองยังคงดำเนินไปด้วยดีจนถึงปี 2551 เนื่องจากการขนส่งในประเทศจีน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินเดีย และตะวันออกกลาง ยังคงมีความต้องการขนส่งสินค้าในตลาดหลักของเราอย่างต่อเนื่อง และบริษัทได้มีสัญญารับขนส่งสินค้าล่วงหน้าแบบเช่าเหมาลำเป็นระยะเวลาสำหรับรอบปีบัญชี 2550 ไว้แล้ว 32.50% ของระวางบรรทุกสินค้าทั้งหมดของบริษัทฯ และร้อยละ 17.69 ของระวางบรรทุกสินค้าทั้งหมดของบริษัทฯ ในรอบปีบัญชี 2551 ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ มีรายได้จากการทำสัญญาไว้ล่วงหน้าแล้วในปีหน้า” ม.ล. จันทรจุฑากล่าว
ส่วนธุรกิจงานบริการนอกชายฝั่งของกลุ่มบริษัท เมอร์เมด มาริไทม์ จำกัด (มหาชน) มีผลประกอบการที่ดีในไตรมาสนี้ มีส่วนแบ่งกำไรสุทธิให้กับบริษัทฯ (หลังจากหักส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย) เท่ากับ 134.32 ล้านบาท ไม่รวมผลกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน สำหรับผลกำไรที่เพิ่มขึ้นเนื่องจาก สภาวะตลาดของเรือขุดเจาะแบบ tender rig ยังคงดีอยู่ และอัตราค่าเช่าเรือที่เพิ่มสูงขึ้นต่อวัน
นอกจากนี้ผู้ค้าน้ำมันรายต่างๆ มักจะขอทำสัญญาล่วงหน้าก่อนการเริ่มปฏิบัติงาน ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีในการทราบปริมาณงานที่จะต้องทำและก่อให้เกิดการเติบโตทางธุรกิจอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ทั้งนี้ ตลาดเรือขุดเจาะยังคงมีความแข็งแกร่งทุกประเภทและทุกชนิดที่เป็นเรือขุดเจาะที่เคลื่อนย้ายได้ (mobile offshore drilling units) ความผันผวนของราคาน้ำมันในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมานั้นไม่มีผลกระทบต่ออุปสงค์ของบริษัทผู้ค้าน้ำมันในการใช้บริการเรือขุดเจาะนอกชายฝั่ง นอกจากนี้ ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาจะมีการสั่งต่อเรือขุดเจาะใหม่หลายลำ แต่อัตราค่าเช่าเรือขุดเจาะก็ยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ด้านสินทรัพย์ในส่วนธุรกิจวิศวกรรมโยธาใต้น้ำ มีอัตราการใช้ประโยชน์จากเรือสูงถึง 86.81% และ มีผลกำไรให้แก่กลุ่มบริษัท เมอร์เมด ประมาณ 71.85% ของกลุ่มบริษัท เมอร์เมด โดยการสำรวจ การ พัฒนาการบำรุงรักษาและปรับปรุงสภาพของโครงสร้างต่างๆ กลางทะเลมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการใช้งานได้ดี ทำให้เรือสำรวจและสนับสนุนงานเทคนิคใต้น้ำทั่วภูมิภาคต่างๆ ของโลกมีอัตราการใช้อย่างหนาแน่นมาก ซึ่งรวมถึง ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
สำหรับส่วนงานบริการที่เกี่ยวข้องกับการเดินเรือนั้นมีส่วนแบ่งกำไรสุทธิให้กับบริษัทฯ (หลังจากหักส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย) เท่ากับ 42.92 ล้านบาท โดยไม่รวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน โดยที่บริษัท โทรีเซน ชิปปิ้ง เอฟแซดอี มีส่วนแบ่งกำไรให้กับบริษัทฯ สูงสุด รองลงมา ได้แก่ บริษัท ไอเอสเอส โทรีเซน เอเยนต์ซีส์ จำกัด ซึ่งมีรายได้จากการให้บริการและมีผลกำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีจำนวนเรือที่ให้บริการเพิ่มขึ้น
ในไตรมาสที่ 3/2550 นี้ บริษัทสามารถสร้างผลกำไรสุทธิสูงขึ้นจากเดิมห้าไตรมาสติดต่อกัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงประโยชน์จากกลยุทธ์การกระจายส่วนงานธุรกิจของบริษัทฯ (diversification strategy) และความแข็งแกร่งของทั้งธุรกิจเรือบรรทุกสินค้าแห้งเทกองและธุรกิจงานบริการนอกชายฝั่ง
ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
คุณบังอร แก้วบวร โทร. 02- 663-3226 ต่อ 68 มือถือ 081-904-7907
คุณอรวรรณ เถลิงเกียรติกำจร โทร. 02- 663-3226 ต่อ 67 มือถือ 083-984-0750

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ