กรุงเทพฯ--8 เม.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
ข้อมูลทองคำวันนี้
ราคาสมาคม เปิดที่ 17,450 — 17,550
ราคา Gold Spot เปิดที่ 1,146
อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท 32.38 — 32.43
GFJ10 Hi- Low 17350 - 17280 ปิดที่ 17,330
Gold Insight
สัญญาทองคำตลาด COMEX
ส่งมอบเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 17.00 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,153.00 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,133.30-1,154.20 ดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินและวิกฤตการณ์การเงินของกรีซ จึงแห่ซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้รับแรงกดดันจากการที่นายโธมัส โฮนิก ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแคนซัส ซิตี้ แนะนำให้เฟดคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดให้พิจารณาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์
ร่วงลง 72.47 จุด หรือ 0.66% ปิดที่ 10,897.52 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 6.99 จุด หรือ 0.59% ปิดที่ 1,182.45 จุด หลังจากนายโธมัส โฮนิก ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแคนซัส ซิตี้ ออกมาแสดงความวิตกกังวลที่เฟดตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำนานเกินไป พร้อมกับแนะนำให้เฟดพิจารณาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งข่าวดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลว่าต้นทุนการกู้ยืมในสหรัฐอาจปรับตัวสูงขึ้นและอาจเหนี่ยวรั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจด้วย นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจซบเซาในยุโรป
น้ำมันดิบตลาด NYMEX
ส่งมอบเดือนพ.ค.ร่วงลง 96 เซนต์ หรือ 1.11% ปิดตลาดที่ 85.88 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 85.75-87 ดอลลาร์ หลังจากสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบและน้ำมันกลั่นที่พุ่งขึ้นเกินคาดในรอบสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งบ่งชี้ว่าดีมานด์พลังงานในสหรัฐยังคงหดตัวแม้มีข้อมูลระบุว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจในหลายภาคส่วนฟื้นตัวขึ้นแล้วก็ตาม
กองทุน SPDR Gold Trust
กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือ ทองคำถึง ณ . 8 มี.ค. ซื้อเข้า 0.92 ตัน เปลี่ยนแปลงการถือครองจาก ระดับ 1,129.82 ตัน เข้าสู่ระดับ 1,130.74 ตัน
USD/EU ค่าเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์หนี้สินของกรีซ และข่าวที่ว่าเศรษฐกิจในยูโรโซนไม่มีการขยายตัวในไตรมาส 4 ปี 2552 ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นในสกุลเงินยูโร อีกทั้งส่งผลให้ส่วนต่างระหว่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของรัฐบาลกรีซและเยอรมนีพุ่งขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่มีการใช้สกุลเงินยูโรในปี 2542 ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.33% มาอยู่ที่ระดับ 1.3354 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับของวันอังคารที่ 1.3398 ยูโร/ดอลลาร์ โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลยูโรเช้านี้เปิดตลาดยู่ที่ระดับ 1.3317 ดอลลาร์ต่อยูโร
USD/JPY ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.48% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 93.300 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 93.750 เยน/ดอลลาร์ โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลเยนเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 93.42 เยนต่อดอลลาร์
ข่าวเศรษฐกิจโลก
วิกฤตการณ์การเงินของกรีซยังคงทำให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นในสกุลเงินยูโร ซึ่งความกังวลในเรื่องนี้ส่งผลให้ส่วนต่างระหว่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของรัฐบาลกรีซและเยอรมนีพุ่งขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่มีการใช้สกุลเงินยูโรในปี 2542 โดยมีรายงานว่ารัฐบาลกรีซต้องการเปิดฉากเจรจาอีกครั้งเกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือร่วมของสหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เนื่องจากกรีซวิตกกังวลเกี่ยวกับเงื่อนไขการให้ความช่วยเหลือนายจอร์จ ปาปาคอนสแตนตินู รมว.คลังกรีซกล่าวว่า กรีซไม่สามารถกู้ยืมเงินที่อัตราดอกเบี้ยปัจจุบันที่ราว 7% และกล่าวด้วยว่าการพุ่งขึ้นของค่าสเปรด (ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล) ในครั้งนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบในทันทีต่อฐานะการคลังของ กรีซ เนื่องจากกรีซสามารถระดมเงินทุนที่จำเป็นต้องใช้ในเดือนเม.ย.จนครบแล้ว
นายโธมัส โฮนิก ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแคนซัส ซิตี้ กล่าวในที่ประชุมที่เมืองนิวเม็กซิโก ว่า เฟดไม่ควรตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed fund rate) ที่ระดับต่ำนานเกินไปเพราะอาจก่อให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อ พร้อมกับแนะนำให้คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดเริ่มพิจารณาเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
กระทรวงพลังงานสหรัฐรายงาน สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 2 เม.ย.พุ่งขึ้น 2.0 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 356.2 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.8 ล้านบาร์เรล
สำนักงานสถิติของสหภาพยุโรปเปิดเผยว่า เศรษฐกิจในกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร 16 ประเทศไตรมาส 4 ปี 2552 ทรง ? ตัว หลังจากที่บริษัทเอกชนได้ลดการใช้จ่ายลงมากกว่าที่ได้มีการคาดการณ์ไว้ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของกลุ่มยูโรโซนไม่มีการเปลี่ยนแปลง เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 3 ที่ขยายตัว 0.4% ขณะที่การลงทุนของบริษัทเอกชนลดลง 1.3% จากเดิมที่ได้มีการประเมินไว้ว่าจะลดลงแค่ 0.8%
คำแนะนำการลงทุน Gold Futures
DAY TRADER
GFJ10 ซื้อในช่วงราคา 17420 — 17440 ขายในช่วงราคา 17500 - 17520
GFM10 ซื้อในช่วงราคา 17590 - 17620 ขายในช่วงราคา 17690 — 17720
SWING TRADER
ทิศทางราคาทองคำระยะยาวยังเป็นทิศทางขาขึ้น แนะนำซื้อเก็งกำไรจากทิศทางราคาทองคำขาขึ้น โดยทิศทางราคาทองคำมีแนวรับที่1130 และมีแนวต้านที่1160
GFJ10 รอเข้าซื้อที่ระดับ 17580 รอขายที่ระดับ 17700
GFM10 รอเข้าซื้อที่ระดับ 17730 รอขายที่ระดับ 17850
ปัจจัยสำคัญ
นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินและวิกฤตการณ์การเงินของกรีซ จึงแห่ซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้รับแรงกดดันจากการที่นายโธมัส โฮนิก ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแคนซัส ซิตี้ ออกมาแสดงความวิตกกังวลที่เฟดตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำนานเกินไป พร้อมกับแนะนำให้เฟดพิจารณาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งข่าวดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลว่าต้นทุนการกู้ยืมในสหรัฐอาจปรับตัวสูงขึ้นและอาจเหนี่ยวรั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจด้วย
กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก ได้เข้าถือครองทองคำที่ระดับ1130.74ตัน ณ วันที่ 7เม.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้น0.92ตัน จากระดับ1,129.823ตันของวันที่ 6 เม.ย.
MORNING RECAP : ราคาทองคำต่างประเทศเปิดที่ระดับ 1,135 $ ส่วน Gold Future J10 เปิดที่ 17,450 สมาคมค้าทองแท่งเปิดที่ 17,400 ปรับขึ้น 150 บาทจากวันทำการก่อน ตลาดทองคำในช่วงนี้มีทิศทางเป็นขาขึ้น หลังจากที่ Side Way มา 2 อาทิตย์ โดยในช่วงเช้าราคาทองคำยังมีทิศทางปรับขึ้น ในช่วงบ่าย Gold Spot เคลื่อนไหวย่อลงเล็กน้อย โดยอยู่ในกรอบ 1,133 —1,138
ปิดตลาด Gold Future J10 ปิดตลาดที่ 17,410 ในขณะที่ราคาทองคำแท่งของสมาคมค้าทองคำปรับลง 50 บาท อยู่ที่ 17,350 บาท นักลงทุนเข้าซื้อขายทำกำไรจากการปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ของ Spot Gold
NIGHT RECAP: ราคาทองคำเปิดตลาดในประเทศไทยที่ระดับ 1135 เหรียญ โดยราคาเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1133 - 1138 เหรียญ ก่อนกลับมาปิดตลาดที่ 1134 เหรียญ ในเวลาประเทศไทย ต่อมาในตลาดลอนดอนและนิวยอร์ก ราคาทองคำมีการเคลื่อนตัวไปทำจุดสูงสุดที่1153 เหรียญ และมาปิดตลาดที่ 1149 เหรียญ
สนใจลงทุนใน Gold Futures กับ MTS Gold Futures สามารถติดต่อที่เบอร์ 02-222-5959