ก.พลังงาน บุกตลาดสดทั่วประเทศ เป็นตลาดปลอดหลอดไส้ นำร่อง ตลาดประชานิเวศ์ 1 ใน กทม. แห่งแรก

ข่าวทั่วไป Thursday May 10, 2007 11:07 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--10 พ.ค.--ก.พลังงาน
กระทรวงพลังงาน พร้อมเดินหน้าบุกตลาดสดทั่วประเทศ รณรงค์โครงการ “เพื่อชาติ เลิกหลอดไส้ ใช้หลอดตะเกียบ เบอร์ 5” นำร่องตลาดสดประชานิเวศน์ 1 หากทั้งตลาดใช้หลอดตะเกียบเพียง 125 หลอด จะช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้เดือนละ 15,000 บาท และช่วยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 30,000 กิโลกรัม/ปี
ดร.ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงาน ได้มอบหมายให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จัดทำโครงการ “เพื่อชาติ เลิกหลอดไส้ ใช้หลอดตะเกียบเบอร์ 5” ซึ่งได้รณรงค์ส่งเสริมให้มีการใช้หลอดตะเกียบ ทดแทนหลอดไส้ ตลอดไป ทั้งนี้เนื่องจากหลอดไส้เป็นหลอดที่มีประสิทธิภาพต่ำกว่าหลอดตะเกียบ 5 เท่า ให้แสงสว่างเพียง 10% ในขณะที่ 90% เป็นความร้อน ดังนั้นหากประชาชนหันมาใช้หลอดตะเกียบก็จะช่วยประหยัดพลังงาน และลดภาวะโลกร้อนได้
ดังนั้นในวันที่ 14 พฤษภาคม 2550 กระทรวงพลังงานจึงได้ร่วมกับ กทม. และกฟผ. จัดกิจกรรมเชิญชวนชาว กทม. เปลี่ยนหลอดไส้ ที่ตลาดประชานิเวศน์ 1 เพื่อให้เป็นตลาดปลอดหลอดไส้ เป็นแห่งแรก ซึ่งหากแม่ค้าในตลาดประชานิเวศน์ 1 ร่วมใจเปลี่ยนหลอดไส้หันมาใช้หลอดตะเกียบ ทั้งตลาดที่มีอยู่จำนวน 125 หลอด ก็จะช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้ประมาณเดือนละ 4,500 หน่วย หรือคิดเป็นเงิน 15,000 บาท และจะช่วยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 30,000 กิโลกรัมต่อ ปี
ในส่วนของกิจกรรมที่น่าสนใจในโครงการ เพื่อชาติ เลิกใช้หลอดไส้ฯ ได้แก่ การจัดซื้อหลอดตะเกียบที่มีคุณภาพจำนวน 8 แสนหลอดเพื่อแจกจ่ายให้จังหวัดละ 10,000 หลอด และกทม. 50,000 หลอด เพื่อเปลี่ยนในสถานที่สาธารณะ สร้างแรงจูงใจเรื่องราคาด้วยการสนับสนุนให้มีการจำหน่ายหลอดตะเกียบในราคาพิเศษ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพและอายุการใช้งานด้วยการกำหนดให้มีการรับประกัน 1 ปี ทั้งนี้กระทรวงพลังงานยังได้สนับสนุนให้มีการผลิตหลอดตะเกียบขึ้นในประเทศด้วย ซึ่งจะทำให้ราคาหลอดตะเกียบลดลงมา และสามารถยกเลิกการใช้หลอดไส้ได้ในที่สุด
กระทรวงพลังงานหวังว่าการเริ่มต้นตรงจุดนี้ จะทำให้เห็นผลการประหยัดค่าไฟฟ้าในระยะต่อไป และหากประชาชนหันมาใช้หลอดตะเกียบ แทนหลอดไส้ทั้งประเทศ ที่มีอยู่ประมาณ 30 ล้านหลอด ก็จะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 800,000 ตันต่อปี ประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้ประมาณ 4,500 ล้านบาท และลดความต้องการไฟฟ้าสูงสุดได้ 300 เมกะวัตต์
นอกจากนี้ยังรู้สึกดีใจที่มีหลายๆ หน่วยงานช่วยรณรงค์ลดใช้พลังงาน อย่างเช่น กรุงเทพมหานคร ที่ได้รณรงค์ให้มีการปิดไฟ 15 นาที ในวันที่ 9 พฤษภาคมนี้ ซึ่งถือว่าได้ว่าเป็นการจุดประกายความตื่นตัวให้กับทุกคน ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่ทุกฝ่ายช่วยกันรณรงค์ลดใช้พลังงาน ซึ่งนอกจากจะช่วยตนเองลดภาระค่าไฟได้ 5 เท่าแล้ว ยังนำไปสู่การช่วยลด สภาวะโลกร้อนอีกด้วย” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวในที่สุด

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ