กรุงเทพฯ--9 เม.ย.--สมาคมผู้ผลิตไก่เพื่อส่งออกไทย
ขณะที่รัสเซียเล็งหาผู้ผลิตไก่เพิ่ม หลังพบสารตกค้างในไก่นำเข้าจากสหรัฐฯ
นายประเสริฐ อนุชิราชีวะ เลขาธิการสมาคมผู้ผลิตไก่เพื่อส่งออกไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่ประเทศญี่ปุ่นระงับการนำเข้าไก่สดแช่แข็งจากประเทศไทย ตั้งแต่ช่วงที่เกิดการระบาดของไข้หวัดนกเป็นเวลามากว่า 5 ปี ขณะนี้ตลาดไก่สดแช่แข็งมีแนวโน้มที่สดใสมากขึ้น เมื่อเจ้าหน้าที่จากกระทรวงเกษตรและป่าไม้ของญี่ปุ่น กำลังจะเดินทางเข้ามาตรวจสอบกระบวนการผลิตไก่สดแช่แข็งของประเทศไทย โดยมีจุดประสงค์เพื่อทำการนำเข้าไก่สดจากไทยอีกครั้งในเร็วๆนี้ ซึ่งคาดว่า จะมีตัวเลขคำสั่งซื้อไก่สดแช่แข็งจากไทยถึง 2 แสนตันต่อปี นับเป็นโอกาสทองของอุตสาหกรรมไก่ไทยเป็นอย่างมาก
ญี่ปุ่น เป็นตลาดหลักอีกแห่งหนึ่งในการส่งออกเนื้อไก่ของไทย โดยในปี 2552 ที่ผ่านมาประเทศไทยส่งออกไก่แปรรูปปรุงสุกไปยังประเทศญี่ปุ่นถึง 173,515 ตัน หรือคิดเป็นมูลค่า 25,854 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน รัสเซียซึ่งเป็นประเทศผู้นำเข้าเนื้อไก่รายใหญ่ของโลกที่แต่ละปีมีการนำเข้าเนื้อไก่สูงถึง 780,000 ตัน ได้ตรวจพบสารตกค้างในเนื้อไก่จากสหรัฐอเมริกา ดังนั้น ทางการรัสเซียจึงได้เสาะหาผู้ผลิตเนื้อไก่จากประเทศอื่นๆ เพิ่มเติม ทั้งนี้ รัสเซียนำเข้าเนื้อไก่จากสหรัฐฯ เป็นจำนวนถึง 600,000 ตัน มากที่สุดเป็นอันดับแรก
“รัสเซียมีตัวเลขการนำเข้าเนื้อไก่จากสหรัฐฯสูงถึงขนาดนี้ ทำให้อุตสาหกรรมไก่ในประเทศแถบยุโรปมีการตื่นตัวกันมาก และถือเป็นโอกาสทองของประเทศไทยเช่นกัน เนื่องจากไทยเป็นผู้ผลิตไก่อันดับต้นๆของโลก ซึ่งหากไทยสามารถเจาะตลาดรัสเซียได้สำเร็จ จะทำให้รัสเซียกลายเป็นตลาดหลักรายใหม่ที่มีศักยภาพมากของประเทศไทย ที่สำคัญ ขณะนี้ทางการรัสเซียก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบมาตรฐานการผลิตเนื้อไก่ของซีพีเอฟในประเทศตุรกีแล้ว ซี่งเป็นผู้ประกอบการไทยรายเดียวที่มีธุรกิจไก่ครบวงจรอยู่ในตุรกี” เลขาธิการสมาคมฯ กล่าว
สำหรับการส่งออกเนื้อไก่ของประเทศไทยในปี 2552 นั้น มีตัวเลขการส่งออกเนื้อไก่รวม 396,809 ตัน คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 52,200 ล้านบาท แบ่งเป็นการส่งออกไก่สดกว่า 18,000 ตัน มูลค่า 1,200 ล้านบาท และการส่งออกไก่แปรรูป 378,809 ตัน มูลค่ากว่า 51,000 ล้านบาท