กรุงเทพฯ--9 เม.ย.--พม.
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน จัดงานวันผู้สูงอายุแห่งชาติ ประจำปี ๒๕๕๓ ภายใต้แนวคิด “พลังผู้สูงวัย สร้างสังคมไทยรู้รักสามัคคี” เพื่อสร้างความตระหนักแก่คนในสังคมได้เห็นคุณค่าและความสำคัญของผู้สูงอายุ และยกย่องเชิดชูเกียรติคุณผู้สูงอายุที่สร้างคุณประโยชน์ให้แก่สังคม โดยมีนายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานเปิดงาน ในวันที่ ๙ เมษายน ๒๕๕๓ ณ สโมสรทหารบก
นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ กล่าวว่า ปัจจุบันจำนวนประชากรสูงอายุทั่วโลกได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยในประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุมาตั้งแต่ปี ๒๕๕๐ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องไปอีกในระยะ ๑๕-๒๐ ปีข้างหน้า ซึ่งในปัจจุบันมีจำนวนประชากรสูงอายุมากกว่า ๗ ล้านคน หรือคิดเป็นประมาณร้อยละ ๑๑ ของจำนวนประชากรทั่วประเทศ และคาดการณ์ว่าตั้งแต่ปี ๒๕๗๓ เป็นต้นไป จะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณร้อยละ ๒๕ ของจำนวนประชากรทั่วประเทศ หรือก็คือ ในจำนวนคนไทยทุกๆ ๕ คน จะมีผู้สูงอายุรวมอยู่ด้วย ๑ คน รัฐบาลจึงให้ความสำคัญกับการสร้างหลักประกันเพื่อความมั่นคงในวัยสูงอายุ และการดูแลคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุระยะยาว ทั้งทางด้านสุขภาพอนามัยและด้านสังคม โดยเฉพาะในเรื่องของการสร้างหลักประกันความมั่นคงด้านรายได้ โดยรัฐบาลได้ผลักดันให้เกิดระบบสวัสดิการด้านเบี้ยยังชีพสำหรับผู้สูงอายุอย่างถ้วนหน้า ซึ่งผู้สูงอายุจะได้รับเบี้ยยังชีพเป็นรายเดือนๆ ละ ๕๐๐ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายขั้นพื้นฐานในการยังชีพอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกัน และจัดสวัสดิการให้แก่ผู้สูงอายุที่เสียชีวิตได้รับการช่วยเหลือเป็นเงินค่าจัดการศพรายละ ๒,๐๐๐ บาท เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการจัดการศพ แก่ครอบครัวผู้สูงอายุ
นายอิสสระ กล่าวต่อว่า การดูแลผู้สูงอายุระยะยาว เป็นประเด็นที่มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าการสร้างหลักประกันและความมั่นคงให้กับผู้สูงอายุ รัฐบาลโดยคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ จึงได้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อผลักดันและขับเคลื่อนประเด็นการดูแลผู้สูงอายุระยะยาวขึ้น เพื่อทำหน้าที่เป็นกลไกหลักในการส่งเสริม สนับสนุน และผลักดันทิศทางนโยบายด้านการดูแลผู้สูงอายุระยะยาว โดยจะให้ความสำคัญเรื่องการดูแลระยะยาวสำหรับผู้สูงอายุที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง นอกจากนี้ รัฐบาลกำลังอยู่ระหว่างการผลักดันเรื่องการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับกรมธรรม์ประกันชีวิตแบบบำนาญ ซึ่งจะเป็นอีกมาตรการหนึ่งในการช่วยกระตุ้นให้ประชาชนที่อยู่ในวัยทำงาน มีการออมเงินแบบผูกพันระยะยาวมากขึ้น ทั้งนี้ก็เพื่อให้เป็นมาตรการเสริมสำหรับรองรับสังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบของประเทศไทยในระยะอีก ๑๕ — ๒๐ ปีข้างหน้า
ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการจัดงานวันผู้สูงอายุแห่งชาติ ได้กำหนดให้ตลอดทั้งเดือนเมษายน เป็นเดือนแห่งการจัดกิจกรรมเนื่องในวันผู้สูงอายุแห่งชาติประจำปี ๒๕๕๓ ภายใต้แนวคิด “พลังผู้สูงวัย สร้างสังคมไทยรู้รักสามัคคี” เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติคุณผู้สูงอายุที่สร้างคุณประโยชน์ให้แก่สังคม และสร้างความตระหนักแก่คนในสังคมได้เห็นคุณค่าและความสำคัญของผู้สูงอายุ เป็นการส่งเสริมให้ผู้สูงอายุได้ใช้พลังความสามารถของตนทำประโยชน์ให้แก่สังคม ซึ่งในปีนี้ คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ ได้มีมติเห็นชอบประกาศสดุดีเกียรติคุณยกย่อง ศาสตราจารย์ระพี สาคริก เป็นผู้สูงอายุแห่งชาติ พุทธศักราช ๒๕๕๓ ตามมติคณะอนุกรรมการสรรหาผู้สูงอายุที่เป็นแบบอย่างที่ดีในสังคมเสนอ ซึ่งเป็นบุคคลแรกที่ทำให้เปลี่ยนจุดศูนย์กลางของกล้วยไม้มาสู่ประเทศไทย และมีผลงานที่สร้างคุณค่า เป็นประโยชน์อย่างมากต่อสังคมโดยรวม โดยเฉพาะวงการกล้วยไม้ จนได้รับการกล่าวขานว่าเป็น บิดาแห่งกล้วยไม้ไทย
สำหรับกิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย การแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ นิทรรศการผลงานรัฐบาลด้านผู้สูงอายุ การสรุปข้อเสนอจากเวทีสมัชชาผู้สูงอายุระดับชาติ ปี ๒๕๕๓ การแสดงสุนทรพจน์ หัวข้อ “ พลังผู้สูงวัย สร้างสังคมไทยรู้รักสามัคคี ” ของผู้ชนะเลิศการประกวด การแสดงและการโต้วาทีคำกลอนของผู้สูงอายุ รวมทั้งกิจกรรมบริการประชาชนของหน่วยงานต่าง ๆ.