กรุงเทพฯ--12 เม.ย.--เอฟเอคิว
อุปกรณ์รุ่นใหม่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าสำหรับเว็บ 2.0, ริชมีเดีย และวิดีโอออนไลน์ ครอบคลุมเครือข่ายผู้ให้บริการที่หลากหลาย
บลูโค้ท ซิสเต็มส์ อิงค์ (Blue Coat Systems, Inc.) (Nasdaq: BCSI) ผู้นำด้านเทคโนโลยีเครือข่ายแอพพลิเคชั่น (Application Delivery Networking) เปิดตัวโซลูชั่น Blue Coat? CacheFlow? Appliance 5000 Series ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาการใช้แบนด์วิธระหว่างประเทศและแบนด์วิธเครือข่ายไร้สายที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และออกแบบเป็นพิเศษสำหรับผู้ให้บริการในภูมิภาคที่มีแบนด์วิธจำกัดและมีค่าบริการสูงมาก อุปกรณ์นี้ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงสำหรับการแคชข้อมูล โดยจะรองรับการปรับระดับการให้บริการเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นสำหรับวิดีโอออนไลน์ การดาวน์โหลดไฟล์ขนาดใหญ่ และเนื้อหาริชมีเดียอื่นๆ บนเว็บ 2.0 พร้อมทั้งปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้ อุปกรณ์ CacheFlow 5000 ซึ่งมีวางจำหน่ายแล้ว จะลดการใช้แบนด์วิธได้อย่างมาก ช่วยให้ได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนภายในเวลา 6 เดือน และคาดว่าจะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับแบนด์วิธได้หลายล้านดอลลาร์ภายในเวลา 5 ปี
“รูปแบบการใช้แบนด์วิธเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก จากเดิมที่เป็นกิจกรรมสั้นๆ ที่ใช้แบนด์วิธเพียงเล็กน้อย ไปสู่แอพพลิเคชั่นที่เปิดใช้งานอยู่ตลอดเวลาและใช้แบนด์วิธจำนวนมาก เช่น สื่อดิจิตอลออนไลน์ วิดีโอ การประชุมด้วยเสียง/วิดีโอผ่านทางเครือข่ายไอพี และเกมออนไลน์” เมลานี่ โพซีย์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยตลาดโทรคมนาคมของไอดีซี กล่าว “ในขณะที่เนื้อหาและแอพพลิเคชั่นบนอินเทอร์เน็ตมีลูกเล่นหลากหลายและพัฒนาเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ผู้ให้บริการบนเครือข่ายก็จำเป็นที่จะต้องปรับตัวเพื่อก้าวให้ทันกับความต้องการของผู้ใช้ ทั้งในเรื่องขีดความสามารถและคุณภาพของบริการ”
วิกฤตการณ์แบนด์วิธ
ในช่วงปี 2552 แทรฟฟิกอินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น 74 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ผู้ให้บริการขยายแบนด์วิธระหว่างประเทศเพิ่มเติม 9.5 เทราบิตต่อวินาที (Tbps) ซึ่งเป็นจำนวนที่เท่ากับแบนด์วิธระหว่างประเทศทั้งหมดที่มีอยู่ในช่วงปี 2550 (ที่มา: TeleGeography) แม้ว่าจะมีการจัดหาแบนด์วิธเพิ่มเติม แต่แทรฟฟิกอินเทอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วก็ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายแบนด์วิธยังคงสูงอยู่ ในบางภูมิภาคของโลก แบนด์วิธระหว่างประเทศอาจมีค่าใช้จ่ายที่สูงถึงหลายร้อยดอลลาร์ต่อเมกะบิตต่อวินาที (Mbps) ต่อเดือน ขณะที่ในภูมิภาคอื่นๆ แบนด์วิธขนาดเดียวกันนี้มีค่าใช้จ่ายเพียงแค่ไม่กี่สิบดอลลาร์เท่านั้น ผู้ให้บริการในภูมิภาคที่ไม่สามารถเพิ่มแบนด์วิธได้เพราะต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมหาศาลย่อมต้องเผชิญกับความเสี่ยงทางธุรกิจ เพราะไม่สามารถขยายบริการที่ให้ผลกำไรอย่างเหมาะสมเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า นอกเหนือจากปัญหานี้แล้ว ลูกค้ายังมีความคาดหวังเพิ่มมากขึ้นว่าจะสามารถใช้งานเว็บได้อย่างรวดเร็วและมีการโต้ตอบแบบอินเทอร์แอคทีฟที่ฉับไว
เทคโนโลยีแห่งอนาคตสำหรับการแคชข้อมูล
อุปกรณ์ CacheFlow 5000 ใช้เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำและออกแบบเป็นพิเศษสำหรับการแคชข้อมูลเพื่อรองรับเนื้อหาเว็บ 2.0, ไฟล์ขนาดใหญ่ และริชมีเดีย รวมถึงวิดีโอ ในอดีตมักจะประสบปัญหาในการแคชข้อมูลคอนเทนต์ดังกล่าว เพราะไฟล์มีขนาดใหญ่และมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่น อุปกรณ์ CacheFlow สามารถแคชข้อมูลและจัดส่งคอนเทนต์จาก URL ที่สร้างขึ้นอัตโนมัติ รวมถึงคอนเทนต์ที่ในอดีตเชื่อกันว่าไม่สามารถแคชได้ นอกจากนี้ อุปกรณ์ CacheFlow ยังตรวจสอบความสดใหม่ของคอนเทนต์ก่อนที่จะส่งให้แก่ผู้ใช้ จึงช่วยรักษาความสอดคล้องกับเซิร์ฟเวอร์ที่เป็นแหล่งที่มาของคอนเทนต์
CachePulse นำเสนอความชาญฉลาดของระบบคลาวด์สู่ระบบแคชข้อมูล
อุปกรณ์ CacheFlow ใช้ประโยชน์จากบริการ CachePulse? ของบลูโค้ท เพื่อให้ได้รับอัพเดตอัตโนมัติผ่านทางเครือข่าย บริการบนระบบคลาวด์นี้จัดหากฎเกณฑ์และคำแนะนำที่ออกแบบเป็นพิเศษสำหรับการปรับแต่งอุปกรณ์ CacheFlow 5000 เพื่อรองรับเว็บที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องและช่วยประหยัดแบนด์วิธได้อย่างเหมาะสม ลูกค้าจะสามารถจัดส่งข้อคิดเห็นให้แก่ชุมชนผู้ใช้ CachePulse ได้โดยตรง และใช้เว็บไซต์ใหม่ๆ ร่วมกันภายในภูมิภาคที่จะได้รับประโยชน์จากการแคชข้อมูลที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
“กันชน” สำหรับเว็บแทรฟฟิก
ด้วยการติดตั้งอุปกรณ์ CacheFlow 5000 ไว้บนเครือข่าย ผู้ให้บริการจะสามารถสร้าง “กันชน” เพื่อแก้ไขปัญหาแทรฟฟิกพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเว็บไซต์และเว็บคอนเทนต์ได้รับความนิยมสูงมากในช่วงเวลาสั้นๆ เช่น รายงานข่าวสำคัญ การถ่ายทอดเกมการแข่งขันกีฬา หรือเหตุการณ์สำคัญทางการเมือง อุปกรณ์ดังกล่าวมีอัตราความเร็วสูงในการรับส่งข้อมูล สามารถตอบสนองความต้องการในเรื่องการประหยัดแบนด์วิธสำหรับการท่องอินเทอร์เน็ต เหมาะสำหรับการติดตั้งภายในเขตภูมิภาคเพื่อแก้ไขปัญหาแทรฟฟิกและรองรับการนำเสนอคอนเทนต์ภายในท้องถิ่น
การปฏิบัติตามกฎระเบียบเกี่ยวกับเว็บและการรักษาความปลอดภัย
อุปกรณ์ CacheFlow 5000 รันซอฟต์แวร์ Blue Coat WebFilter? เพื่อตอบสนองความต้องการในเรื่องวัฒนธรรมและกฎระเบียบ และหลีกเลี่ยงภัยคุกคามที่เป็นอันตราย นอกจากนี้ยังสนับสนุนรายชื่อเว็บไซต์ที่อนุญาต/ปิดกั้น และฐานข้อมูลขององค์กรอื่น รวมถึงรายชื่อเว็บไซต์ที่จัดทำโดยมูลนิธิเฝ้าระวังภัยอินเทอร์เน็ต (Internet Watch Foundation)
ความน่าเชื่อถือและประสบการณ์ของผู้ให้บริการ
อุปกรณ์ CacheFlow 5000 พัฒนาขึ้นจากประสบการณ์อันยาวนานของบลูโค้ทในการประสานงานร่วมกับผู้ให้บริการและบริษัทโทรคมนาคมทั่วโลก บลูโค้ททำงานในตลาดนี้มาตั้งแต่ที่เริ่มก่อตั้งบริษัทภายใต้ชื่อแคชโฟลว์ (CacheFlow) เมื่อปี 2539 และปัจจุบันผู้ให้บริการรายใหญ่ที่สุดในโลก 10 อันดับแรกเป็นลูกค้าของบลูโค้ท
“เรามีโอกาสได้ทดลองใช้งานอุปกรณ์ CacheFlow 5000 ของบลูโค้ท และเรารู้สึกประทับใจเป็นอย่างยิ่งกับผลลัพธ์ที่ได้ เราชื่นชมในความมุ่งมั่นของบลูโค้ทสำหรับการตอบสนองความต้องการของผู้ให้บริการโทรคมนาคม ด้วยการนำเสนอฟังก์ชั่นที่ยอดเยี่ยมในอุปกรณ์รุ่นใหม่นี้” ดร. วิริยะ อุปัติศฤงค์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านเทคนิค บริษัท ทรู อินเทอร์เน็ต จำกัด กล่าว ทั้งนี้ ทรู อินเทอร์เน็ต เป็นผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตรายสำคัญของไทย มีลูกค้าประมาณ 750,000 ราย โดยนำเสนอบริการอินเทอร์เน็ตพื้นฐานและอินเทอร์เน็ตไร้สายแก่ลูกค้าองค์กรและผู้บริโภคทั่วไป ทรูได้ใช้โซลูชั่นแคชชิ่งจากบลูโค้ทอย่างต่อเนื่องมานานหลายปี
“ในภูมิภาคของเรา แบนด์วิธระหว่างประเทศมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง ด้วยเหตุนี้ ผลิตภัณฑ์อย่างอุปกรณ์ CacheFlow ซึ่งมุ่งเน้นการประหยัดแบนด์วิธ จึงช่วยให้เราสามารถบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้อย่างลงตัวเพื่อรองรับผู้ใช้และแทรฟฟิกที่เพิ่มขึ้น” ดร. วิริยะ กล่าวเสริม “จากการทดสอบ เราพบว่าอุปกรณ์ CacheFlow สามารถแคชคอนเทนต์ของเว็บ 2.0 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังช่วยประหยัดแบนด์วิธได้อย่างมากสำหรับเว็บแทรฟฟิกทั่วไป ด้วยสมรรถนะและความรวดเร็วในการรับส่งข้อมูลที่เหนือกว่า เรามีแผนที่จะติดตั้งอุปกรณ์ CacheFlow บนเครือข่ายของเราในอนาคตอันใกล้นี้”
อุปกรณ์ที่ออกแบบเป็นพิเศษสำหรับผู้ให้บริการโทรคมนาคมโดยเฉพาะ
อุปกรณ์ CacheFlow 5000 ใช้อินเทอร์เฟซ 1 กิกะบิต หรือ 10 กิกะบิต อีเธอร์เน็ต จึงรับส่งข้อมูลจำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว และสามารถปรับขนาดเพื่อตอบสนองความต้องการในการรับส่งข้อมูลหลายกิกะบิต โดยใช้แคชชิ่งฟาร์มแบบคลัสเตอร์ อุปกรณ์ดังกล่าวผ่านการทดสอบการใช้งานร่วมกับสวิตช์โหลดบาลานซิ่ง เลเยอร์ 4-7 รวมถึงสวิตช์จาก Brocade, Radware, A10 Networks และอื่นๆ
“อุปกรณ์ CacheFlow 5000 นับเป็นพัฒนาการแบบก้าวกระโดดสำหรับการแก้ไขปัญหาท้าทายเรื่องแบนด์วิธที่ผู้ให้บริการต้องประสบพบเจอ” เจสัน โนเลท รองประธาน กลุ่มผลิตภัณฑ์การนำเสนอแอพพลิเคชั่นของ Brocade กล่าว “ภายใต้ความร่วมมือที่ยาวนานกับบลูโค้ท เราได้ทำการทดสอบและรับรองแอพพลิเคชั่นดีลิเวอรี่คอนโทรลเลอร์ ServerIron ADX รวมถึงสวิตช์และเราเตอร์ เลเยอร์ 2/3 สำหรับการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ CacheFlow 5000 เพื่อรองรับการเชื่อมต่อเครือข่ายแบบครบวงจร พร้อมด้วยโหลดบาลานซิ่งที่มีประสิทธิภาพและความพร้อมใช้งานสูง เหมาะสำหรับโซลูชั่นแบบคลัสเตอร์”
“อุปกรณ์ CacheFlow 5000 สร้างขึ้นจากความเชี่ยวชาญของเราในการนำเสนอเว็บคอนเทนต์และเว็บแอพพลิเคชั่นอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ” ดาร์เรล ลอง รองประธานและผู้จัดการทั่วไปฝ่ายโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมของบลูโค้ท ซิสเต็มส์ กล่าว “เทคโนโลยีแคชชิ่งที่ล้ำหน้าของเราช่วยแก้ไขปัญหาท้าทายสำคัญๆ ที่ผู้ให้บริการต้องประสบพบเจอในการตอบสนองความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วสำหรับวิดีโอและเนื้อหาเว็บ 2.0 จากผู้ใช้เครือข่ายพื้นฐานและเครือข่ายไร้สาย”
อุปกรณ์ CacheFlow 5000 มีวางจำหน่ายแล้ว
เกี่ยวกับบลูโค้ท ซิสเต็มส์
บลูโค้ท ซิสเต็มส์ เป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีเครือข่ายแอพพลิเคชั่น (Application Delivery Networking) ซึ่งช่วยปรับปรุงการตรวจสอบ การเร่งความเร็ว และการรักษาความปลอดภัย รองรับการจัดส่งข้อมูลให้แก่ผู้ใช้ทุกคนบนทุกเครือข่ายทุกที่ทุกเวลาได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ความชาญฉลาดทางด้านแอพพลิเคชั่นนี้ช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถปรับการลงทุนด้านเครือข่ายให้สอดคล้องกับความต้องการทางธุรกิจ เพิ่มความรวดเร็วฉับไวในการตัดสินใจ และคุ้มครองแอพพลิเคชั่นทางธุรกิจ เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถด้านการแข่งขันในระยะยาว หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเยี่ยมชม www.bluecoat.com
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
ปิยะ ไพฑูรย์รจิตพิพิธ
บลูโค้ท ซิสเต็มส์ อิงค์
Piya.p@bluecoat.com
ประชาสัมพันธ์ข่าวโดย
ปราณี เฉลิมธนศักดิ์
บริษัท เอฟเอคิว
โทร 02 971 3700
Pranee@pc-a.co.th