กรุงเทพฯ--1 มี.ค.--กบข.
กบข. เผยแนวโน้มการลงทุนตลาดหุ้นไทยปี”50 ยังคงสดใส ชี้ค่าอัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้นหรือค่า P/E ยังอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน
นายวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยถึงแผนการลงทุนในตลาดหุ้นไทยของ กบข. ในปี 2550 ว่า ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจส่วนใหญ่ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก เพียงแต่มีปัจจัยทางการเมืองด้านความกังวลต่อเสถียรภาพทางการเมืองระยะสั้นเท่านั้นที่อาจส่งผลกระทบ หากปัญหานี้ได้คลี่คลายลง นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศก็จะกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นอีกครั้ง เพราะมูลค่าตลาดหุ้นไทยค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคเดียวกัน กบข. จึงยังเชื่อมั่นว่าตลาดหุ้นไทยยังมีอนาคตอีกไกล นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นไทยในปีนี้ก็คือ อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มอ่อนตัวลงจะเป็นแรงหนุนให้นักลงทุนหันมาลงทุนในตลาดหุ้นมากขึ้น
นายวิสิฐ กล่าวถึงภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในปีที่ผ่านมาว่า ตลาดหุ้นไทยค่อนข้างผันผวน เนื่องจากได้รับผลกระทบทั้งจากปัจจัยภายในและต่างประเทศได้แก่ ราคาดิบในตลาดโลกปรับตัวขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อกลางปีที่ผ่านมา ความไม่สงบทางการเมือง อุทกภัยที่รุนแรง และมาตรการทางการเงินในการรักษาค่าเงินบาท ทำให้ได้รับผลกระทบต่อการลงทุนค่อนข้างมาก เนื่องจากกระทบต่อความมั่นใจของนักลงทุน
“แม้ในปีที่ผ่านมาตลาดหุ้นจะได้รับผลกระทบในแง่ลบ แต่โดยภาพรวมสำหรับการลงทุนระยะยาว การลงทุนในหุ้นที่มีพื้นฐานดี มีอัตราการเติบโตอย่างสม่ำเสมอ หรือการลงทุนในหุ้นที่ให้เงินปันผล เหล่านี้จะได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าการฝากเงินไว้กับธนาคาร ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกันกับการลงทุนของ กบข. เนื่องมาจาก กบข. เป็นกองทุนเงินออมระยะยาวจึงมุ่งเน้นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนดีในระยะยาวเป็นสำคัญ ส่วนนักลงทุนที่มุ่งหวังเก็งกำไรระยะสั้นก็จะพบความเสี่ยงสูงต่อการขาดทุนในระยะสั้น”นายวิสิฐกล่าว
เลขาธิการคณะกรรมการ กบข. กล่าวอีกว่า โดยปกติแล้วการลงทุนในหุ้นระยะยาวมักจะให้ผลตอบแทนอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ซึ่งผลตอบแทนดังกล่าวสามารถพิสูจน์ได้จากผลตอบแทนระยะยาวย้อนหลัง 5 ปี (2545 — 2549) ซึ่งตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทนเมื่อรวมกับเงินปันผลแล้วอยู่ที่เฉลี่ยปีละร้อยละ 17.5
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ศูนย์บริการข้อมูลสมาชิก กบข. โทร. 1179 กด 6 member@gpf.or.th / www.gpf.or.th