กรุงเทพฯ--5 มิ.ย.--สหมงคลฟิล์ม
เตรียมตัวกลับมาถล่มเสียงฮาอีกครั้งสำหรับ RUSH HOUR 3ภาพยนตร์แอ็กชันคอเมดี้ คู่หูฟอร์มยักษ์จากฮอลลีวู๊ด ที่ภาค 1และ 2 กวาดรายได้ทั่วโลกไปกว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และใน Rush Hour 3 บริษัทผู้สร้างก็ใช้ทุนในการสร้างสำหรับภาคนี้สูงถึง 120 ล้านเหรียญหรือประมาณ 4200 ล้านบาทซึ่งถือว่าเป็นทุนสร้างที่สูงที่สุด สำหรับหนังแนวแอกชั่นคอเมดี้คู่หูเลยทีเดียว โดยการผจญภัยครั้งใหม่ระหว่าง เฉินหลง และ คริส ทักเกอร์ ใน Rush Hour 3 จะเกิดขึ้นที่มหานครปารีส ตลอดทั้งเรื่อง มาดูกันซิว่าพวกเขาไปตะลุยอะไรกันในปารีสบ้าง
ซิ่ง เรอโนลต์ ปะทะ เบนซ์ ตะลุย ม็องต์มาร์ตร เสน่ห์ที่สำคัญในภาพยนตร์เรื่อง Rush Hour ก็คือ ฉากการไล่ล่าแสนสนุก และฉากใหญ่ฉากหนึ่งในเรื่องนี้ก็คือฉากการไล่ล่า ระหว่างแก๊งมาเฟียที่นำทีมโดย ฮิโรยูกิ ซานาดะ กับ เฉินหลง และ คริส ทักเกอร์ไปในย่าน ม็องต์มาร์ต ย่านการค้าของมหานครปารีสที่เต็มไปด้วยเหล่าศิลปินและร้านกาแฟ ถนนใน ม็องต์มาร์ตร เต็มไปด้วยตรอกแคบ ๆ แต่งดงามด้วยความคลาสสิคของสถาปัตยกรรม ที่คงไว้ซึ่งความงามของศิลปะยุคกลาง ซึ่งฉากการไล่ล่านี้เต็มไปด้วยความทุลักทุเลเมื่อ พวกเฉินหลงและ คริส ทักเกอร์ ที่ขับรถ เรอโนลต์ ต้องหนีการตามล่าของแก๊งรถเบ็นซ์ ของพวกมาเฟีย ซึ่งพากันขับตะลุยมาใน ม็องต์มาร์ต ก่อนจะไปหยุดการไล่ล่าที่ ริมแม่น้ำแซน ซึ่งฉากนี้ใช้เวลาในการเตรียมการถ่ายทำกว่า 1 สัปดาห์ เพื่อเคลียร์พื้นที่ในย่าน ม็องต์มาร์ตรที่เต็มไปได้ผู้คน และใช้ทีมงานกว่า 50 คน เพื่อคอยจัดระเบียบเหล่าตัวประกอบของฉากที่จะต้องเดินวิ่งกระโดดหลบหนีการไล่ล่า เพราะ ผู้กำกับ เบร็ท แร็ทเนอร์ ต้องการให้ บรรยากาศของฉากดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด
จากประตูชัยถึงหอไอเฟล
เพราะมีเฉินหลงอยู่ในภาพยนตร์ สิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือซีนแอกชั่นแบบโชว์เดี่ยว ซึ่งไม่เว้นแม้แต่หนังแอกชั่น คอเมดี้อย่าง Rush Hour 3 โดยในเรื่องเฉินหลงจะต้องไปสืบหาตัวการ ที่ฆ่าเอกอัคร ราชทูตจีน โดยเขาสืบหาจนพบว่าต้นตอการลอบสังหารอยู่ที่ฝรั่งเศส ฉากสำคัญที่ถือเป็นฉากใหญ่ที่สุดของเรื่องก็คือ ฉากที่ เขาต้องตามไปช่วยลูกสาวของท่านทูตที่ถูกจับตัวไป การแสดงครั้งนี้ถือเป็นการโชว์แอกชั่นที่ใช้ความสามารถเฉพาะตัวของเฉินหลง เพราะเขาจะเล่นฉากบู๊เองทุกครั้งโดยที่ไม่ใช้สตั้นแมน ซึ่งฉากนี้เฉินหลงต้องตามติดพร้อมหลบกระสุนของพวกนักฆ่าชาวฝรั่งเศสมาตั้งแต่ประตูชัย (Arc deTriomphe) บนถนนช็องเอลิเซ่ร์ จนมาสิ้นสุดที่หอไอเฟล โดยคิวบู๊ของฉากนี้เฉินหลงจะต้องโรยตัวลงมาจากหอไอเฟล ซึ่งจะเป็นความสูงที่ทำลายฉากบู๊คลาสสิกของเขาที่เคยทำไว้ในภาพยนตร์เรื่อง เอไก๋หว่า เมื่อ 20 ปีที่แล้ว นั้นก็คือฉาก "หอนาฬิกา" ที่เฉินหลงต้องร่วงลงมาจากหอนาฬิกาสูงกว่า 10 เมตร กระแทกกันสาดแล้วร่วงลงมา
เตรียมพบความมันปิดท้ายซัมเมอร์ของ ภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดเรื่องแรกที่ถ่ายทำในฝรั่งเศสตลอดทั้งเรื่อง RUSH HOUR 3 : 16 สิงหาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net