วันที่ห้าสงกรานต์ เกิดอุบัติเหตุ 348 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 45 คน ผู้บาดเจ็บ 370 คน

ข่าวทั่วไป Monday April 19, 2010 08:12 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--19 เม.ย.--ปภ. ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2553 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 16 เม.ย. 53 เกิดอุบัติเหตุทางถนน 348 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 45 คน ผู้บาดเจ็บ 370 คน รวม 5 วัน (วันที่ 12 — 16 เม.ย. 53) เกิดอุบัติเหตุทางถนน 2,863 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 257 คน ผู้บาดเจ็บ 3,104 คน จึงได้สั่งกำชับให้จังหวัดเน้นหนักการปฏิบัติการอย่างเข้มข้นตามถนนสายหลักที่เป็นเส้นทางขากลับ โดยเฉพาะรถโดยสารและรถกระบะที่บรรทุกผู้โดยสารจำนวนมาก นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัย ทางถนน เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2553 กรมป้องกันและบรรเทา สาธารณภัย ได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 16 เม.ย. 53 ซึ่งเป็นวันที่ห้าของการรณรงค์ “สงกรานต์นี้ ขับขี่ปลอดภัย คนไทยรักกัน” เกิดอุบัติเหตุ 348 ครั้ง เพิ่มขึ้นจากปี 2552 (343 ครั้ง) 5 ครั้ง ร้อยละ 1.46 ผู้เสียชีวิต 45 คน ลดลงจากปี 2552 (52 คน) 7 คน ร้อยละ 13.46 ผู้บาดเจ็บ 370 คน ลดลงจากปี 2552 (371 คน) 1 คน ร้อยละ 0.27 สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เมาสุรา ร้อยละ 31.90 ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 17.82 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 75.49ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ 59.20 บนทางหลวงแผ่นดิน ร้อยละ 34.48 ถนน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 32.47 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ 16.01 — 20.00 น. ร้อยละ 28.74 ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยแรงงานร้อยละ 53.01 จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 21 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา 5 คน จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 24 คน ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 2,549 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 66,995 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 644,787 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 76,178 ราย คิดเป็นร้อยละ 11.81 ของการเรียกตรวจ โดยมีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัยมากที่สุด 24,299 ราย รองลงมา ไม่มีใบขับขี่ 22,318 ราย สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสม 5 วัน (วันที่ 12 — 16 เม.ย. 53) เกิดอุบัติเหตุรวม 2,863 ครั้ง ลดลงจากปี 2552(3,106 ครั้ง) 243 ครั้ง ร้อยละ 7.82 ผู้เสียชีวิตรวม 257 คน ลดลงจากปี 2552 (272 คน) 15 คน ร้อยละ 5.51 ผู้บาดเจ็บรวม 3,104 คน ลดลงจากปี 2552 (3,375 คน) 271 คน ร้อยละ 8.03 จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสูด ได้แก่ นครศรีธรรมราช 116 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา 17 คน จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช 131 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตในช่วง 5 วัน มี 11 จังหวัด ได้แก่ ตราด นครศรีธรรมราช บุรีรัมย์ พังงา แม่ฮ่องสอน ระนอง ลำพูน สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สุโขทัย และยะลา นายอนุชา กล่าวต่อไปว่าในวันนี้ประชาชนเริ่มทยอยเดินทางกลับแล้ว ส่งผลให้เส้นทางสายหลักมียานพาหนะคับคั่งมากขึ้น ศปถ. จึงได้ประสานให้จังหวัดและกองบัญชาการตำรวจนครบาลปรับแผนการดำเนินงานลดอุบัติเหตุทางถนน โดยสั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจเน้นการปฏิบัติการอย่างเข้มข้นบนถนนสายหลัก เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจร พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังบริเวณจุดเสี่ยงที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งเข้มงวดกวดขันรถโดยสารและรถกระบะที่บรรทุกผู้โดยสารจำนวนมาก โดยเน้นการตรวจจับ การเมาแล้วขับ การใช้ความเร็วสูง การตัดหน้ากระชั้นชิดและการขับรถจักรยานยนต์ย้อนศรตามถนนสายหลักเป็นพิเศษ เพราะจะเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรง และจากสถิติอุบัติเหตุทางถนนในช่วงที่ผ่านมา พบว่า เด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี เสียชีวิตและบาดเจ็บสูงถึงร้อยละ 30 แม้ว่าจะมีการรณรงค์ลดอุบัติเหตุในกลุ่มเยาวชนอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังไม่สามารถลดปัญหาการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในกลุ่มเยาวชนได้ แสดงให้เห็นว่าผู้ปกครองยังคงละเลยในเรื่องความปลอดภัยของเด็ก โดยปล่อยให้เด็กโดยสารท้ายรถกระบะขี่รถจักรยานยนต์โดยไม่สวมหมวกนิรภัย และที่สำคัญ เด็กส่วนใหญ่ยังขาดทักษะด้านการขับขี่รถจักรยานยนต์อย่างปลอดภัย ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนในระยะยาว ศปถ. จะได้เสนอให้มีการปลูกฝังค่านิยมความปลอดภัยทางถนนแก่เด็กและเยาวชน โดยอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการขับขี่ปลอดภัยอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ท้ายนี้ ขอฝากให้ประชาชนที่เดินทางกลับในช่วงนี้ เตรียมความพร้อมก่อนออกเดินทาง โดยพักผ่อนให้เพียงพอ ตรวจสอบสภาพเส้นทาง และเลือกใช้เส้นทางเลี่ยงเมือง เพื่อลดเวลาในการเดินทาง รวมถึงนำรถไปตรวจสอบสภาพจากศูนย์อาชีวศึกษาร่วมด้วยช่วยประชาชน ตรวจรถก่อนใช้ปลอดภัยแน่นอน บนถนนสายหลักและสายรองทั่วประเทศ จำนวน 250 ศูนย์ ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ จากรายงานสภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่า วันที่ 17 — 18 เมษายน นี้ หลายพื้นที่ของประเทศจะมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง จึงขอให้ผู้ขับขี่เพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ผ่านเส้นทาง ที่เปียกลื่นเป็นพิเศษ รวมถึงปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด หากมีอาการเหนื่อยล้า ให้จอดแวะพักตามสถานีบริการน้ำมัน จุดตรวจและจุดบริการต่างๆ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุรุนแรง..... “สงกรานต์ นี้ .... ขับขี่ปลอดภัย คนไทยรักกัน” สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0-2243-2200 ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กรมปภ.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ