ผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลเดือนมีนาคม 2553 และในช่วงครึ่งปีแรกของปีงบประมาณ 2553

ข่าวทั่วไป Tuesday April 20, 2010 12:14 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--20 เม.ย.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง นายสาธิต รังคสิริ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เผยในเดือนมีนาคม 2553 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 1.16 แสนล้านบาท สูงกว่าเป้ากว่า 21,000 ล้านบาท ส่งผลให้ในช่วงครึ่งปีแรกของปีงบประมาณ 2553 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สูงกว่าเป้าหมาย 1.29 แสนล้านบาท หรือร้อยละ 23.6 สะท้อนถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและต่อเนื่อง ในเดือนมีนาคม 2553 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 116,311 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 21,268 ล้านบาท หรือร้อยละ 22.4 ซึ่งเป็นผลจากการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้การจัดเก็บภาษีที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคและการนำเข้าสูงกว่าประมาณการจำนวนมาก โดยภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 3 อันดับแรก ได้แก่ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีน้ำมัน และภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับในช่วงครึ่งปีแรกของปีงบประมาณ 2553 (ตุลาคม 2552 — มีนาคม 2553) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 675,488 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 128,896 ล้านบาท หรือร้อยละ 23.6 โดย 3 กรมจัดเก็บภาษีสังกัดกระทรวงการคลัง ได้แก่ กรมสรรพสามิต กรมสรรพากร และกรมศุลกากร สามารถจัดเก็บรายได้ได้สูงกว่าเป้าหมายถึง 61,254 58,170 และ 10,682 ล้านบาท หรือร้อยละ 41.9 13.9 และ 28.8 ตามลำดับ นายสาธิตฯ สรุปว่า “จากผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลในช่วงครึ่งปีแรกของปีงบประมาณ 2553 ที่สูงกว่าเป้าหมายและแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้กระทรวงการคลังมั่นใจว่าจะสามารถจัดเก็บรายได้ของรัฐบาล ปีงบประมาณ 2553 กว่า 1.5 ล้านล้านบาท หรือสูงกว่าประมาณการ กว่า 1.7 แสนล้านบาทได้อย่างแน่นอน” ผลการจัดเก็บรายได้ตามหน่วยงานจัดเก็บสรุปได้ ดังนี้ 2.1 กรมสรรพากร จัดเก็บได้รวม 476,179 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 58,170 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 13.9 (สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วร้อยละ 6.3) ภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการที่สำคัญ คือ ภาษีมูลค่าเพิ่มจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 43,034 ล้านบาท หรือร้อยละ 21.3 เป็นผลจากการบริโภคและการนำเข้าที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 12,722 ล้านบาท หรือร้อยละ 12.9 เป็นผลจากการจัดเก็บภาษีจากฐานเงินเดือนและฐานอสังหาริมทรัพย์ได้มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ 2.2 กรมสรรพสามิต จัดเก็บได้รวม 207,395 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 61,254 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 41.9 (สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วร้อยละ 64.9) เนื่องจากมีการปรับเพิ่มอัตราภาษีสรรพสามิต น้ำมัน สุรา เบียร์ และยาสูบ เมื่อเดือนพฤษภาคม 2552 ส่งผลให้จัดเก็บภาษีน้ำมัน ยาสูบ เบียร์ และสุรา สูงกว่าประมาณการ 28,987 6,988 6,539 และ 2,410 ล้านบาท หรือร้อยละ 60.1 35.0 25.1 และ 11.8 ตามลำดับ นอกจากนี้ ยังจัดเก็บภาษีรถยนต์ได้สูงกว่าประมาณการถึง 15,911 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการที่ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับผู้ประกอบการมีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่และโครงการส่งเสริมการขาย ส่งผลให้ยอดจำหน่ายรถยนต์เพิ่มขึ้นอย่างมาก 2.3 กรมศุลกากร จัดเก็บได้รวม 47,807 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 10,682 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 28.8 (สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วร้อยละ 15.4) เนื่องจากอากรขาเข้าจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 10,305 ล้านบาท หรือร้อยละ 28.6 เป็นผลจากมูลค่าการนำเข้าที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่เดือนตุลาคม 2552 — กุมภาพันธ์ 2553 การนำเข้าในรูปดอลลาร์สหรัฐฯ และเงินบาทมีการขยายตัวสูงถึงร้อยละ 17.4 และ 13.3 ตามลำดับ อย่างไรก็ตามการจัดเก็บอากรขาเข้าได้รับผลกระทบจากข้อตกลงเขตการค้าเสรีต่างๆ เช่น เขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) ที่ลดอัตราอากรขาเข้าสำหรับสินค้านำเข้าจากกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนเหลือร้อยละ 0 เกือบทุกรายการ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2553 ที่ผ่านมา เป็นต้น 2.4 รัฐวิสาหกิจ นำส่งรายได้ 35,485 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 3,149 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 9.7 (สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วร้อยละ 18.4) เนื่องจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กองทุนรวมวายุภักษ์ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และธนาคารออมสินนำส่งรายได้สูงกว่าประมาณการ 1,290 1,100 758 และ 708 ล้านบาท ตามลำดับ อย่างไรก็ดี โรงงานยาสูบ กระทรวงการคลังนำส่งรายได้ ต่ำกว่าประมาณการ 733 ล้านบาท เนื่องจากนำเงินไปใช้ในการก่อสร้างโรงงานยาสูบแห่งใหม่ นอกจากนี้ บมจ.การบินไทยไม่สามารถจ่ายเงินปันผลได้ เนื่องจากมีผลประกอบการขาดทุน 2.5 หน่วยงานอื่น จัดเก็บได้รวม 41,422 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 1,568 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 3.9 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วร้อยละ 9.0) เนื่องจากในเดือนตุลาคม และพฤศจิกายน 2552 ที่ผ่านมามีรายได้จากการไถ่ถอนหุ้นกู้ด้วยสิทธิที่ครบกำหนดของกระทรวงการคลังจำนวน 3,447 ล้านบาท 2.6 การคืนภาษีของกรมสรรพากร 111,444 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 4,309 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.0 (สูงกว่าปีที่แล้วร้อยละ 1.0) ประกอบด้วยการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 80,218 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 5,782 ล้านบาท และการคืนภาษีอื่นๆ 31,226 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 10,091 ล้านบาท เนื่องจากการคืนภาษีเงินได้นิติบุคคลที่อยู่ในระดับที่สูง สำนักนโยบายการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร 02 273 9020 ต่อ 3500 และ 3545

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ