กรุงเทพฯ--21 เม.ย.--ธนาคารนครหลวงไทย
ธนาคารนครหลวงไทยรุกสินเชื่อบ้านต่อเนื่องเสนอโปรโมชั่นสินเชื่อบ้านดอกเบี้ยคงที่ 2 ปีแรก เริ่มต้นที่ 1.75% ต่อปี วงเงินกู้สูงสุด 95% ของราคาประเมิน ระยะเวลากู้นาน 30 ปี ตั้งแต่วันนี้จนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน 2553 เท่านั้น พร้อมข้อเสนอพิเศษลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านอีก 0.25% ต่อปี นานสูงสุดถึง 2 ปี เมื่อใช้บริการ “สินเชื่อบ้านธนาคารนครหลวงไทย” คู่กับบริการ “SCIB Mortgage Plus”
นายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารเสนอโปรโมชั่น “สินเชื่อบ้านธนาคารนครหลวงไทย” (SCIB Home Loan) แก่ลูกค้ารายย่อยที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยสำหรับบ้านใหม่ในโครงการที่ธนาคารร่วมสนับสนุนอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 2 ทางเลือก ได้แก่ ทางเลือกที่ 1 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2 ปีแรก ปีที่ 1 เท่ากับ 1.75% ต่อปี ปีที่ 2 เท่ากับ 5.00% ต่อปี หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี (MLR) ลบ 1.00% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา ทางเลือกที่ 2 อัตราดอกเบี้ยลอยตัว 2 ปีแรก คิดอัตราดอกเบี้ย MLR ลบ 3.00% ต่อปี หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ย MLR ลบ 1.00% ต่อปี ส่วนลูกค้าที่ขอกู้ในโครงการทั่วไปหรือบ้านมือสอง ปีแรกคิดอัตราดอกเบี้ยคงที่เท่ากับ 3.99% ต่อปี หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ย MLR ลบ 0.50% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา วงเงินกู้สูงสุดถึง 95% ของราคาประเมิน ระยะเวลาการกู้สูงสุด 30 ปี สามารถเลือกรับเงื่อนไขอัตราดอกเบี้ยได้จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2553
นอกจากนี้ ธนาคารยังจะลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านอีก 0.25% ต่อปี เป็นระยะเวลานานสูงสุดถึง 2 ปี สำหรับลูกค้าที่ใช้บริการ “สินเชื่อบ้านธนาคารนครหลวงไทย” คู่กับบริการ “SCIB Mortgage Plus” ซึ่งเป็นกรมธรรม์ประกันชีวิตกลุ่มคุ้มครองสินเชื่อแนบท้ายสัญญาเพิ่มเติมคุ้มครองอุบัติเหตุของบริษัทประกันชีวิตนครหลวงไทย พร้อมกันนี้ยังสามารถขอสินเชื่อเพื่อชำระค่าเบี้ยประกันชีวิตเพิ่มเติมได้ 100% รวมทั้งยังได้รับสิทธิลุ้นรับบัตรกำนัลมูลค่าเท่ากับค่าเบี้ยประกันที่ชำระสูงสุด ไม่เกิน 1 แสนบาท จากกิจกรรมส่งเสริมการขายอีกด้วย โดยธนาคารจะจัดให้มีพิธีการจับรางวัลสำหรับลูกค้าผู้โชคดีที่ใช้บริการดังกล่าวจำนวน 10 รางวัล เดือนละ 1 ครั้ง ซึ่งจะจับรางวัลครั้งแรกในปลายเดือนเมษายน 2553 และมั่นใจว่ารูปแบบโปรแกรมสินเชื่อและกิจกรรมส่งเสริมการตลาดที่ธนาคารได้พัฒนาขึ้นในแต่ละช่วงจะสามารถรองรับกับความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยของลูกค้าแต่ละกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี