กรุงเทพฯ--21 เม.ย.--สหมงคลฟิล์ม
คลุกคลีรู้จักและร่วมงานกับ พันนา ฤทธิไกร และพระเอกแอ็คชั่นฮีโร่ จาพนม ตั้งแต่ยังไม่ทำองค์บาก จนกระทั่งอาจารย์ศิษย์พันนา-จาพนมสร้างปรากฎการณ์บนแผ่นฟิล์มด้วย “องค์บาก” จนลือลั่นไปทั้งโลก โดยมี “หม่ำ จ๊กมก” นักแสดงตลกแถวหน้าของบ้านเราเป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จที่เกิดขึ้น จึงไม่น่าแปลกใจที่ตลอด 7 ปีผ่านมาหนังทุกเรื่องที่มีหนุ่มจาก็ต้องมีพี่หม่ำ นับตั้งแต่ องค์บาก 1-2, ต้มยำกุ้ง มาจนถึงองค์บาก3 โดยตลกซูเปอร์สตาร์กล่าวว่าไม่ต่างอะไรกับโจวซิงฉือกับ อู่ม่งต๊ะ ที่ทั้งคู่มีกันและกัน
“น่าจะ 6-7 ปีแล้วมั้ง ตั้งแต่ องค์บาก 1 น่าจะใช่ ตั้งแต่ลูกสาวอยู่ ม. 5 นี่สูกสาวไปเรียนต่อ 5 ปีแล้ว แต่จริงๆ เห็นจาเขาตั้งแต่ยังเล็กๆ ตอนนั้นรู้สึกว่าจะอยู่มัธยมมั้ง มาฝึกงานกับพี่พันนา ก็ไม่นึกว่าเขาจะถึงวันนี้ได้ จนมาเป็นผู้กำกับแล้วมาได้ร่วมงานตอนที่โตแล้วก็รู้สึกดีใจกับเขาแล้วก็รู้สึกภูมิใจในความสามารถของเขา ภูมิใจกับทุกๆ สิ่งที่เขามีอยู่ เอาใจช่วย รัก ถามว่าทำไมหนังจาพนม มีหม่ำ จ๊กมกทุกเรื่องเลยมันคงจะเหมือนแบบ โจวซิงฉือ กับอู๋ม่งต๊ะ คงประมาณเนี่ยแหละ ถ้ามีโจวซิงฉือ ก็ต้องมี อู๋ม่งต๊ะ มันเหมือนคงต้องคู่กันแล้ว ถ้ามีจา ก็ต้องมีหม่ำ มันเหมือนแบบถ้าจาเป็นขนมหม้อแกง นี่ก็ต้องเป็นถุง ต้องใส่ถุงหม่ำ จะใส่ถุงอื่นไม่ได้ ต้องใส่ถุงหม่ำ (หัวเราะ)”
ซึ่งในองค์บาก 3 หม่ำ รับบท “คนบ้า” ที่ท้าทายการแสดง เพราะเกิดมายังไม่เคยเล่นบทแบบนี้มาก่อน นอกเหนือจะเป็นตัวละครที่เต็มไปด้วยสีสันและเสียงหัวเราะแล้ว ในภาค2 โผล่ออกมาฉากเดียวเรียกเสียงหัวเราะคนดูทั้งโรงเบรกอารมณ์ความดุดันของหนังได้อย่างดีที่เดียว แถมเป็นตัวละครที่มีความสำคัญกับเรื่องราวในภาพยนตร์เรื่ององค์บาก3 มากๆ ชนิดที่ว่ามีผลกับตัวพระเอกจาพนมเลยทีเดียว
“ก็รับบทเป็น ไอ้เหม็น ครับ เป็นตัวละครที่เดินเรื่องต่อจากภาคสองครับ เป็นคนบ้าๆ บอ คนติ๊งต๊อง เป็นคนที่ไม่มีพิษมีภัยอะไร เป็นคนที่เห็นเขาเป็นอะไร ก็อยากจะเป็นเหมือนคนอื่นเขา เห็นเขาเล่นมวยก็อยากจะเล่นกับเขา เห็นเขาตีลังกาก็อยากตีลังกากับเขา อะไรประมาณนี้ครับ ในภาค 3 ก็จะเป็นตัวละครสำคัญที่เกี่ยวพันโดยเฉพาะกับ เทียน ที่เล่นโดย จาพนม บุคลิกดูหน้าตาดูแล้วอาจจะน่ากลัว เพราะปกติในเรื่องก็จะมีการใส่วิกผมเผ้าหนวดรุงรังเต็มไปหมด ก็ต้องมีทาหน้าดำ ทาฟันดำ เวลาพูดก็จะไม่ค่อยสะดวก ตัวก็จะต้องถูกทาให้ดำ มอมแมม เสื้อผ้าเก่าๆ มีข้าวของพะรุงพะรังไปหมด ไม่ไหว เวลาถ่ายก็จะกินข้าวไม่ค่อยได้ พูดไม่ค่อยสะดวก มันตึง แต่จริงแล้วเป็นคนจิตใจดี เป็นคนบ้าที่มีจิตใจดี ไม่ได้รู้สึกนึกร้ายกับใคร รู้สึกดีๆ กับคนอื่น แต่แปลกใจว่าคนอื่นทำไมมันชอบมายุ่งกับพวกไอ้เทียน กับพวกหมู่บ้านนี่เหลือเกิน มันเพราะอะไร มันก็นึกอยู่ แต่มันก็นึกไม่ออก เหมือนไฟไหม้บ้าน มันก็นึก ไฟไหม้ก็สวยดีนะ แต่ที่จริงแล้ว มันคือความหายนะ แต่มันมองเป็นความสวยงาม”
ถึงจะเล่นเป็นคนบ้า แต่ก็อยากให้แฟนๆ ลองจับตาดูตัวละครตัวนี้ให้ดี เพราะแอบมีแง่คิดและอะไรลึกซึ้งเยอะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฉากไฮไลท์ที่ทั้งหม่ำ และ จาต้องเข้าฉากด้วยกันที่บริเวณโลเกชั่นผาเจ๊ก โขงเจียม จ.อุบลราชธานี ที่ทั้งสูงและเสียวด้วยความสูงเทียบตึกใบหยก เป็นอีกหนึ่งอันซีนของเมืองไทย โดยงานนี้ทำเอาพี่หม่ำแทบหัวใจวายเพราะต้องยืนริมผาตามบทที่ผู้กำกับจาเขียนมา
“มีอยู่ซีนหนึ่งในภาพยนตร์เรื่ององค์บาก3 เป็นซีนที่อยู่หน้าผา ซึ่งถ้าฟังดีๆ แล้ว มันก็จะมีถ้อยคำที่ไอ้เหม็น เหมือนจะสอน เป็นข้อความคำสอนจากคนบ้าให้คนดีอย่างเทียนได้สำนึกและคิดได้ ทำให้ไอ้เทียนได้เห็นคุณค่าของไอ้เหม็นเนี่ยะ ว่าเออมันไม่ใช่คนบ้านะ มันเป็นคนที่ถ้ามองต่างมุมมันจะรู้สึกได้ว่า มันก็ไม่ได้บ้าไปซะทุกอย่าง ในบางเรื่องที่พูดก็เป็นเรื่องจริงนะ ทั้งๆ ที่พูดแบบบ้าๆ ของมันเนี่ยะ อย่างซีนที่หน้าผา ที่เราไปถ่ายทำถึงผาเจ๊ก โขงเจียมจ.อุบลราชธานี สูงมากยอมเลยยืนขาสั่นสูงเท่าตึกใบหยกได้ เป็นซีนที่ตัวละครไอ้เหม็นบอกให้ไอ้เทียนรู้ว่า นี่สภาพกูก็ไม่สมประกอบนะ กูเป็นคนบ้า แต่กูก็ยังอยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไปเลย แล้วมึงเป็นคนดีแท้ๆ สติมึงก็ดีเนี่ยะ อยากให้เทียนคิดได้ว่า คนบ้ามันก็คิดได้”
งานนี้พี่หม่ำโชว์สปิริทเต็มที่เพื่อน้องชายคนนี้ และเพื่อองค์บาก แต่มีเพียงอุปสรรคเดียวที่ต้องขอยอมถอดใจ
“ถามว่ายากไหม ก็ไม่ยากหรอก เพราะว่าเราเห็นมาเยอะแล้วไง คนบ้าเนี่ย แต่ต้องตี character ให้ออกว่า เราจะบ้าแบบไหน ในบทนั้น ผมว่าเสน่ห์ ที่จะทำให้คนดูรู้สึกรักตัวละครตัวเนี่ยะ มันต้องทำให้พอดีด้วย มันต้องบ้าแบบพอดิบพอดี มันต้องบ้าแบบให้คนรู้สึกคิดตามได้ว่าไอ้นี่มันบ้าแบบน่ารักนะ มันไม่ได้บ้าแบบจริงๆ ลึกๆ มันไม่ใช่อย่างงั้นนะ มันบ้าแต่มันเป็นคนที่มีความรู้สึกนะ จะมีก็อุปสรรคเวลาที่จะแปลงร่างเป็นไอ้เหม็นนี่แหละก่อนเข้าฉาก ทั้งเรื่องการแต่งกาย มันจะเหนียว แล้วก็เหนียวฟัน แล้วก็เหนียวหน้า เหนียวหนวด แล้วปากมันตึง พูดได้ไม่เต็มปากเต็มคำ แล้วคันหัวอยู่ตลอด มันรู้สึกหงุดหงิด แล้วถ่ายหนังเรื่องนี้ ทั้งภาค 2 ภาค 3 ตอนที่ถ่ายอยู่น้ำหนักผมจะลดประจำเลย เพราะกินข้าวไม่ได้ พอกินแล้วต้องไปแปรงฟันก่อน แล้วมาทาใหม่อีก ก็รำคาญอีก ต้องเอาหนวดออก เพราะมันเคี้ยวไม่ได้มันตึง นี่คือปัญหาของผม เพราะใช้เวลาทั้งวัน ก็คือมาแต่งชั่วโมงกว่าใช่ไหม ก็ต้องอยู่ตั้งแต่แปดโมงจนถึงหกโมงเย็น แล้วเนี่ยะไม่เท่าไหร่นะ ไปอาบน้ำอีกชั่วโมงหนึ่งนะ ไปขัดโน่น ขัดนี่ ขัดเล็บอีกเป็นชั่วโมง เมียต้องมาช่วยถูอีก ตามซอกเล็บซอกอะไรทั้งหมด เนี่ยะคือปัญหาของผม”
เตรียมพบกับอีกหนึ่งสีสันที่จะทำให้แฟนๆ สนุกสนานไปด้วยความมันส์พร้อมรอยยิ้มและเสียงหัวเราะจาก “หม่ำ จ๊กม๊ก” กับ องค์บาก3 5 พ.ค.นี้ทุกโรงภาพยนตร์