ก.ล.ต. เพิ่มขีดความสามารถ บล. ให้สามารถประกอบธุรกิจการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าได้

ข่าวทั่วไป Friday August 10, 2007 14:25 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--10 ส.ค.--ก.ล.ต.
ก.ล.ต. มีนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ให้สามารถประกอบธุรกิจได้หลากหลายเพื่อขยายช่องทางหารายได้ และบริหารจัดการทรัพยากรของบริษัทให้เกิดประโยชน์สูงสุด ก.ล.ต. จึงได้ออกประกาศอนุญาตให้ผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ภายใต้ พ.ร.บ. สัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ. 2546 ซึ่งส่วนใหญ่เป็น บล. สามารถประกอบธุรกิจอื่นได้ ดังนี้
1. ธุรกิจการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า โดยผู้ประกอบธุรกิจสัญญาฯ จะต้องยื่นขอความเห็นชอบต่อ ก.ล.ต. ซึ่งหาก ก.ล.ต. ไม่ทักท้วงภายใน 60 วัน ก็สามารถประกอบธุรกิจดังกล่าวได้ ทั้งนี้ การให้ความเห็นชอบ ก.ล.ต. จะพิจารณาจากความพร้อมด้านบุคลากรที่รับผิดชอบการซื้อขาย นโยบายและมาตรการในการควบคุมบริหารความเสี่ยง รวมทั้งการจัดการด้านการปฏิบัติการ ระบบการตรวจสอบและควบคุมภายในของผู้ขอความเห็นชอบ ตามที่ประกาศกำหนด
2. ธุรกิจอื่นที่ ก.ล.ต. ให้ความเห็นชอบเป็นการทั่วไป ได้แก่ (1) ธุรกิจซื้อหรือขายหลักทรัพย์โดยมีสัญญาขายหรือซื้อคืน (repurchase agreement หรือ repo) (2) การลงทุนในกิจการอื่นเกินกว่าร้อยละ 50 ซึ่งธุรกิจของกิจการดังกล่าวจะต้องไม่ขัดต่อวัตถุประสงค์ในการกำกับดูแล โดย ก.ล.ต. จะพิจารณาจากหลักการ 3 ข้อ ได้แก่ (1) ไม่มีความเสี่ยงต่อทรัพย์สินของลูกค้า ฐานะบริษัท หรือระบบชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ (2) สามารถป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์ และ (3) เป็นธุรกิจที่ช่วยส่งเสริมธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า หรือเป็นการบริหารจัดการทรัพยากรของบริษัทให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ทั้งนี้ การกำหนดหลักเกณฑ์ในประกาศข้างต้นได้ผ่านการรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องแล้วเมื่อปลายปี 2549 โดยการผ่อนคลายหลักเกณฑ์ในครั้งนี้จะช่วยให้ บล. ที่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า มีความคล่องตัวในการประกอบกิจการอื่น และสามารถปรับตัวให้เข้ากับภาวการณ์แข่งขันได้รวดเร็วขึ้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ