กรุงเทพฯ--22 เม.ย.--สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน
ที่ประชุม กบง. เตรียมประกาศใช้น้ำมันดีเซล B3 แทน B2 หลังสต็อกน้ำมันปาล์มในประเทศเพียงพอผลิตไบโอดีเซล และยังเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนจะปรับเปลี่ยนใช้ไบโอดีเซลเป็น B5 เกรดเดียวในอนาคต ตามเป้าหมายแผนพัฒนาพลังงานทดแทน 15 ปี
นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังการเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อ 22 เม.ย.2553 ว่า ที่ประชุมฯ ได้พิจารณาเห็นชอบการใช้น้ำมันไบโอดีเซล B3 เป็นน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดาแทน B2 ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน โดยกำหนดให้น้ำมันดีเซลหมุนเร็วต้องมีส่วนผสมของไบโอดีเซลร้อยละ 3 ทั้งนี้เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนจะปรับเปลี่ยนให้มีการใช้ไบโอดีเซลเป็นส่วนผสมไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 (B5) ภายในปี 2554 ตามเป้าหมายการใช้ไบโอดีเซลเพื่อทดแทนน้ำมันดีเซลในแผนพัฒนาพลังงานทดแทน 15 ปี (พ.ศ. 2551 — 2565)
การเตรียมประกาศใช้ B3 ในช่วงเวลานี้เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันผลผลิตปาล์มน้ำมันที่ใช้เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตไบโอดีเซลมีปริมาณเพียงพอที่จะปรับอัตราส่วนผสมจากดีเซลหมุนเร็ว B2 เป็นดีเซลหมุนเร็ว B3 ได้
ทั้งนี้ กรมธุรกิจพลังงานจะเป็นผู้ดำเนินการออกประกาศการกำหนดคุณภาพน้ำมันดีเซลหมุนเร็วต้องผสมไบโอดีเซลร้อยละ 3 เพื่อให้มีผลบังคับใช้ได้ทันภายใน 45 วัน หลังจากที่ประชุม กบง. มีมติเห็นชอบ
อย่างไรก็ดี ในช่วงก่อนการบังคับใช้ไบโอดีเซล B5 จะต้องติดตามและประเมินผลอีกครั้งว่าจะมีผลผลิตปาล์มน้ำมันเพียงพอหรือไม่ในช่วงปลายปี 2553 และจำเป็นต้องดูแลราคาน้ำมันดีเซลให้เหมาะสม โดยจะมีการปรับลดอัตราเงินชดเชยและลดการเก็บเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อให้ส่วนต่างราคาขายปลีก B3 กับ B5 ลดลง เพื่อเป็นการส่งสัญญาณให้ประชาชนรับทราบและมีการเตรียมความพร้อมในการปรับเปลี่ยนมาใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B5 เพียงเกรดเดียวในอนาคตซึ่งจะไม่มีการชดเชยราคาจากกองทุนน้ำมันฯ
ในขั้นแรกจะลดช่องว่างด้านราคาขายปลีกระหว่าง B3 และ B5 จากเดิมที่ต่างกัน 1.20 บาท/ลิตร เป็น 0.90 บาท/ลิตร โดยจะลดอัตราเงินชดเชยจากกองทุนน้ำมันฯสำหรับดีเซล B5 ลง 0.30 บาท/ลิตร และลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของดีเซล B2 ลง 0.20 บาท/ลิตร พร้อมกับลดส่วนต่างของค่าการตลาดของ B2 กับ B5 จากระดับ 0.30 บาท/ลิตร เหลือ 0.20 บาท/ลิตร ซึ่งจะทำให้ราคาขายปลีก B3 ลดลง 0.30 บาท/ลิตร ขณะที่ราคาขายปลีก B5 จะคงที่ หลังจากนั้นจะพิจารณาปรับลดอัตราชดเชยและการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ตามความเหมาะสมโดยจะพยายามไม่ให้กระทบต่อราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิง
นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ ยังได้พิจารณาทบทวนหลักเกณฑ์การกำหนดราคาไบโอดีเซล (B100) เพราะที่ผ่านมานโยบายส่งเสริมการใช้ไบโอดีเซลยังมีอุปสรรคด้านหลักเกณฑ์การกำหนดราคาที่ไม่สะท้อนราคาวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต ทำให้ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมไบโอดีเซลไม่มั่นใจเกี่ยวกับผลตอบแทนในการลงทุน
ดังนั้น เพื่อให้นโยบายการส่งเสริมการใช้ไบโอดีเซลบรรลุวัตถุประสงค์ รัฐจึงจำเป็นต้องกำหนดหลักเกณฑ์การกำหนดราคาน้ำมันไบโอดีเซลให้สะท้อนราคาวัตถุดิบหรือต้นทุนการผลิตที่แท้จริงเพื่อความเป็นธรรมทั้งต่อผู้บริโภคและผู้ผลิต ที่ประชุมฯ จึงเห็นชอบหลักเกณฑ์การกำหนดราคาไบโอดีเซลจากเดิมที่กำหนดจากวัตถุดิบประเภทน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) เพียงอย่างเดียว มาเป็นกำหนดตามวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตไบโอดีเซล 3 ชนิดคือ น้ำมันปาล์มดิบ(CPO) น้ำมันปาล์มกึ่งบริสุทธิ์(RBD)และไขปาล์ม(สเตียรีน)
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0863421124 สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน