กรุงเทพฯ--22 เม.ย.--เกรลิ่ง
บริษัท สตราทีจิค เบฟเวอร์เรจเจส (ประเทศไทย) จำกัด และ เป๊ปซี่โค เปิดวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธิ์ในการสนับสนุนธุรกิจของบริษัทเสริมสุข จำกัด (มหาชน) มุ่งบำรุงและพัฒนาเครื่องจักร และเครื่องอำนวยความสะดวกในโรงงาน รวมถึงการจัดสร้างโรงงานผลิตเครื่องดื่มใหม่ของ เสริมสุขภายในเวลา 18 เดือน
สตราทีจิค เบฟเวอร์เรจเจส (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง เป๊ปซี่โค และผู้บริหารของบริษัทย่อยของเป๊ปซี่ในประเทศไทย ประกาศเจตนาในการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของกิจการของเสริมสุขอาทิตย์นี้ โดยมีนายปริญญา กิจจาธนพันธ์ และ ดร.ทรงยศ เรืองสกุลราช นักลงทุนชาวไทยซึ่งดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงของ บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด เข้าร่วมทุนในครั้งนี้ด้วย
ผู้แทนของ สตราทีจิค เบฟเวอร์เรจเจส (ประเทศไทย) และเป๊ปซี่โค ได้อธิบายถึงยุทธศาสตร์ในการสร้างความเติบโตที่ปูทางให้เสริมสุขดำเนินโครงการพัฒนาธุรกิจที่มีงบประมาณการลงทุนมูลค่ากว่าหกถึงเจ็ดพันล้านบาทในระยะเวลาสามถึงห้าปีข้างหน้าว่า โครงการพัฒนาขีดความสามารถดังกล่าวหมายรวมถึง การยกระดับคุณภาพโรงงานและเครื่องจักรกล การลงทุนทางด้านไอที และการพัฒนาคณะผู้บริหารของ เป๊ปซี่โค และเสริมสุขให้มีโอกาสได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น
ภายหลังการประกาศแผนการลงทุน นายปริญญา กิจจาธนพันธ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัทเป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด กล่าวว่า “ในตลาดภายในประเทศที่มีสภาวะการแข่งขันสูง เรากำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายในระยะสั้นที่สำคัญหลายรูปแบบ อย่างไรก็ตามเรามุ่งมั่นที่จะฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจในระยะยาวให้กับบริษัทเสริมสุข และเพื่อให้การดำเนินโครงการดังกล่าวนี้ สำเร็จไปได้ด้วยดี เราจะต้องเตรียมแผนการลงทุนทางยุทธศาสตร์ไว้สำหรับการนี้”
“ประเทศไทยเป็นตลาดที่สำคัญของเป๊ปซี่มากว่าหลายปี เป๊ปซี่ถือเป็นผู้ผลิตเครื่องดื่มน้ำอัดลมระดับโลก ที่อยู่ในระดับแนวหน้าในบ้านเรา และเป็นบริษัทที่มีโครงสร้างการดำเนินธุรกิจที่เป็นที่ยอมรับ กันอย่างกว้างขวาง ด้วยพฤติกรรมของผู้บริโภค และแนวโน้มตลาดในประเทศเปลี่ยนไป เราจึงแสดง ความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจ ด้วยการลงทุนคิดค้นนวัตกรรมสินค้าใหม่ๆ และนำเทคโนโลยีทันสมัย เข้ามาใช้ เพื่อให้เป๊ปซี่โคยังยืนหยัดเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมของผู้บริโภคชาวไทยต่อไป” นายปริญญา กล่าว
ดร. ทรงยศ ซึ่งดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด ด้วยนั้นได้กล่าวว่าแผนยุทธศาสตร์นี้จะสอดรับกับความท้าทายที่เกิดจากพัฒนาการใหม่ของตลาดและอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม
“ปัจจุบันมีกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ที่มองหาเครื่องดื่มที่มีรูปแบบ และรสชาติหลากหลายให้เลือก ด้วยแผนยุทธศาสตร์ และความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจในตลาดไทย เราจึงมั่นใจว่าเสริมสุขจะสามารถต่อยอดจาก ความสำเร็จในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมาได้ในระยะยาว”
มร. ซาด อับดุล-ลาตีฟ ซีอีโอ ของเป๊ปซี่โค แห่งทวีปเอเชีย ตะวันออกกลางและแอฟริกา แสดงความคิดเห็นต่อความมุ่งมั่นในการลงทุนของเป๊ปซี่โคในประเทศไทยต่อไปว่านับเป็นข่าวดีซึ่งการลงทุนนี้จะช่วยให้กิจการของบริษัทเสริมสุขแข็งแกร่งยิ่งขึ้นในอนาคต “เรามีฐานผู้นำองค์กรและบุคคลากรที่มีคุณภาพในทุกระดับ และคาดการณ์ว่าการทำคำเสนอซื้อในครั้งนี้จะประสบความสำเร็จ ในขณะที่เรากำลังเตรียมแผนการดำเนินธุรกิจในอนาคต พนักงานของเสริมสุขทุกคนสามารถวางใจได้ว่าการทำงานของทุกฝ่ายจะยังคงดำเนินไปตามปกติ และเมื่อแผนธุรกิจใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ให้กับเสริมสุข พนักงานของเสริมสุขจะเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญ และมีส่วนร่วมในการเติบโตในอนาคตดังกล่าว”
สตราทีจิค เบฟเวอร์เรจเจส (ประเทศไทย) กล่าวเมื่อวานนี้ว่า ราคาเสนอซื้อหุ้นในบริษัทเสริมสุขจะอยู่ที่ 29 บาทต่อหุ้น ซึ่งราคานี้จะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขบางประการในคำเสนอซื้อ โดยราคานี้เป็นราคาที่สูงกว่าราคาปิดที่ทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ณ วันศุกร์ที่ 16 เมษายนอยู่ 44 เปอร์เซ็นต์ และสูงกว่าราคาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯเฉลี่ยย้อนหลัง 90 วันอยู่ 61 เปอร์เซ็นต์ ราคาเสนอ ซื้อนี้เป็นราคาที่ยังไม่รวมเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 2 บาท ซึ่งผ่านการพิจารณาและอนุมัติของที่ประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีของบริษัทเสริมสุข เมื่อวันอังคารที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา
ภายหลังจากการประกาศเจตนาในการทำคำเสนอซื้อหุ้นโดย สตราทีจิค เบฟเวอร์เรจเจส (ประเทศไทย) สตราทีจิค เบฟเวอร์เรจเจส (ประเทศไทย) จะต้องยื่นคำเสนอซื้อหลักทรัพย์จากผู้ถือหุ้นทั้งหมดของเสริมสุขภายในเวลาเจ็ดวันทำการ
สื่อมวลชนที่ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
บริษัทเกรลิ่ง ประเทศไทย
จัสติน บาร์เน็ตต์ วิกานดา พรหมขุนทอง
โทรศัพท์: +66 (0) 2 635 7151 โทรศัพท์: +66 (0) 2 635 7151
อีเมล์: Justin.barnett@grayling.com อีเมล์: wikanda@grayling.com
เกี่ยวกับบริษัทเป๊ปซี่โค
เป๊ปซี่โคเป็นบริษัทผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับอาหาร และเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งมีพอร์ตโฟลิโอ สูงเป็นพันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกันของสินค้าในตลาดถึง 19 ชนิด โดยแต่ละชนิดสินค้าทำรายได้ผ่านการขายปลีกกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อปี ธุรกิจหลักของบริษัท ประกอบไปด้วย ธุรกิจขนมขบเคี้ยว ฟริโต-เลย์ เควกเกอร์ เครื่องดื่มเป๊ปซี่-โคล่า ทรอปิคานา และเกเตอเรด รวมไปถึงการผลิตผลิตภัณฑ์อาหารซึ่งให้คุณค่าทางโภชนาการ รวมทั้งอาหารและเครื่องดื่มมีรสชาติ เป็นที่ชื่นชอบแก่บรรดาผู้บริโภคอื่นๆ กว่า 100 ชนิดในกว่า 200 ประเทศทั่วโลก เป๊ปซี่โคมีรายได้จากการขายผลิตภัณฑ์ต่างๆ เกือบ 6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อปี ด้วยบุคคลากรของบริษัทยึดมั่นในแนวทาง การเติบโตที่ยั่งยืนอันเป็นเอกลักษณ์ ตามคำขวัญที่ว่า “Performance With Purpose” บริษัทได้ทุ่มเทสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์นานาชนิดเพื่อส่งเสริมสุขภาพ ให้คุณค่าทางโภชนาการที่มีความสะดวกและ ความพึงพอใจ ควบคู่ไปกับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมความหลากหลายและการมีส่วนร่วมทางวัฒนธรรมของพนักงาน จนทำให้บริษัทสามารถสร้างความสมดุลระหว่างผลตอบแทนทางธุรกิจกับ การตอบแทนสังคมได้เป็นอย่างดี ความพยายามในการสร้างสรรค์ธุรกิจที่ยั่งยืนนี้ส่งผลให้เป๊ปซี่ โค ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่สามในการจัดอันดับให้อยู่ในกลุ่มดัชนีวัดความยั่งยืนทางธุรกิจโลกของดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability World Index :DJSI World) และติดอันดับกลุ่มดัชนีวัด ความยั่งยืนทางธุรกิจของดาวโจนส์แห่งอเมริกาเหนือ (Dow Jones Sustainability North America Index : DJSI North America) เป็นครั้งที่สี่ในปี 2552 ที่ผ่านมา ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเป๊ปซี่โค ได้ที่ www.pepsico.com
เกี่ยวกับบริษัท สตราทีจิค เบฟเวอร์เรจเจส (ประเทศไทย) จำกัด
บริษัท สตราทีจิค เบฟเวอร์เรจเจส (ประเทศไทย) จำกัด มี บริษัท แมนเนจเม้นท์ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ถือหุ้นอยู่ร้อยละ 51 โดยบริษัท แมนเนจเม้นท์ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด มีผู้ถือหุ้นรายใหญ่ คือ คุณปริญญา กิจจาธนพันธ์ และคุณทรงยศ เรืองสกุลราช ส่วนหุ้นอีกร้อยละ 49 นั้นถือโดย บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัดซึ่งเป็นบริษัทย่อยของเป๊ปซี่โคในประเทศไทย
ประวัตินายปริญญา กิจจาธนพันธ์
ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่ม
บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด
นายปริญญา กิจจาธนพันธ์ มีประสบการณ์ในด้านการเงินและการบริหารจัดการสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีการขายอย่างรวดเร็ว (Fast Moving Consumer Goods) มากว่า 20 ปี
ก่อนเข้าร่วมงานกับบริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด ในปี 2541 นายปริญญาดำรงตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์การเงินของบริษัทพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด และได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ในประเทศฮ่องกงเพื่อดำเนินการโครงการระหว่างประเทศเป็นจำนวนมากให้กับ บริษัท พีแอนด์จี ฝ่ายภาคพื้นเอเซียแปซิฟิก
นายปริญญาเข้าร่วมงานกับบริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด เป็นครั้งแรกในปี 2541 ในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่ม ต่อมาในปี 2543 เขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นผู้บริหารด้านบัญชีและการเงิน/.ผู้อำนวยการธุรกิจแฟรนไชส์ โดยรับหน้าที่วางแผนด้านการเงิน การบัญชี การบริหารการเงินและธุรกิจในประเทศไทย, ลาว และกัมพูชา
นายปริญญาได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นผู้อำนวยการผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มในปี 2552
นายปริญญาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท สาขาบริหารธุรกิจ วิชาเอกด้านการเงิน จากมหาวิทยาลัยเป๊ปเปอร์ดีน แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา และปริญญาตรีด้านการเงินจากมหาวิทยาลัยแห่งรัฐ อริโซนา
นายปริญญาสมรสแล้ว และมีบุตรสองคน นายปริญญามีความสามารถในการสื่อสารได้ทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาจีนกลาง
ประวัติ ดร.ทรงยศ เรืองสกุลราช
ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ
บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด
ดร.ทรงยศ เรืองสกุลราช เป็นผู้ที่มีประสบการณ์ด้านวิทยาศาสตร์การอาหาร โภชนาการ และพืชไร่อย่างกว้างขวาง
หลังจากสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก สาขาวิทยาศาสตร์อาหารและโภชนาการมนุษย์จากมหาวิทยาลัยแห่งรัฐมิชิแกน สหรัฐอเมริกา ดร.ทรงยศเริ่มต้นทำงานในตำแหน่ง Technical Associate ให้กับ H.J. Heinz Company Ltd ในประเทศอังกฤษ ต่อมาเขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการฝ่ายวิจัยและพัฒนาของบริษัท ยูนิคอร์ด จำกัด (มหาชน)
ดร.ทรงยศเข้าร่วมงานกับบริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด ในปี 2538 ดำรงตำแหน่งผู้จัดการ ฝ่ายวิจัยและพัฒนา และได้รับมอบหมายให้ดำรงตำแหน่งระดับสูงอย่างรวดเร็วโดยเป็นผู้อำนวยการฝ่าย พืชไร่ (Agronomy) ผู้อำนวยการฝ่ายซัพพลายเชน (Supply Chain) ในเวลาต่อมา ดร. ทรงยศ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการจนถึงปัจจุบัน
ปัจจุบัน ดร. ทรงยศสมรสแล้วและมีบุตรสามคน ดร. ทรงยศมีความสามารถในการสื่อสารได้ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ