กรุงเทพฯ--22 เม.ย.--เอสซีจี
บ.นวพลาสติกฯ ในเครือ SCG ผู้ผลิตและจำหน่ายท่อพีวีซีภายใต้แบรนด์ “ตราช้าง” เตรียมเขย่าวงการท่อน้ำร้อนเมืองไทย ส่งโปรดักส์ใหม่ “ท่อพีพีอาร์(PP-R) ตราช้าง” ลงแข่งตลาดพรีเมี่ยม เล็งสร้างฐานลูกค้าเจาะกลุ่มอสังหาฯ ชั้นแนวหน้า และกลุ่มผู้ออกแบบงานระบบ เชื่อศักยภาพในช่องทางจำหน่าย และแบรนด์ตราช้างที่แข็งแกร่ง ตอกย้ำผู้นำท่อครบวงจรในอนาคต เตรียมพร้อมอวดโฉมอย่างเป็นทางการ.... ภายในงานสถาปนิก’53 ณ เมืองทองธานี
นายอภิชาติ พรวรนันท์ ผู้จัดการส่วนการตลาด บริษัท นวพลาสติกอุตสาหกรรม (สระบุรี) จำกัด บริษัทในเครือปูนซิเมนต์ไทย หรือ เอสซีจี (SCG) ผู้ผลิตและจำหน่ายท่อพีวีซีภายใต้แบรนด์ “ตราช้าง” กล่าวว่า ก่อนหน้านี้บริษัทแม่ SCG ได้วางกลยุทธ์การตลาดสร้างความชัดเจนในตัวแบรนด์ตราช้างใหม่ เน้นพัฒนาสินค้าคุณภาพสู่กลุ่มลูกค้าอย่างต่อเนื่องภายใต้แนวคิด We Innovate Quality หรือ การสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ที่ไม่เคยหยุดนิ่ง และเพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดท่อน้ำระดับพรีเมี่ยม ในปีนี้บริษัทฯ ได้นำสินค้าใหม่เข้ามาสู่ตลาด คือ “ท่อพีพีอาร์(PP-R)ตราช้าง” โดยจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่บูธของ SCG ภายในงานสถาปนิก’53 ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 30 เมษายน ถึง 5 พฤษภาคมนี้ ณ เมืองทองธานี
“สำหรับคอนเซ็ปต์ของ SCG ในงานสถาปนิก’ 53นี้คือ SCG Innovative Solution ที่นำเสนอนวัตกรรมทั้งด้านสินค้า และบริการที่จะมาตอบโจทย์ด้านการอยู่อาศัยอย่างลงตัว โดยท่อตราช้างได้จัดแสดงร่วมกับบริษัทแม่ SCG ภายใต้แนวคิดที่สอดคล้องกัน คือ Water Solution ซึ่งนำเสนอเรื่องการออกแบบการวางระบบท่ออย่างมีประสิทธิภาพ และครบวงจรแบบครบวงจร อาทิ ระบบประปา, ระบบประปาน้ำร้อน, ระบบระบายน้ำ, ระบบท่อร้อยสายไฟ และระบบน้ำในสวน ทั้งการแนะนำให้ความรู้ และการจัดแสดงผลิตภัณฑ์ โดยจะแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของระบบท่อภายในบ้าน หรืออาคาร ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญที่ใครหลายๆคนอาจมองข้าม เพราะหากบ้านจะสวยหรือตึกแข็งแรงเพียงใด แต่หากท่อน้ำไม่ได้คุณภาพ รั่วซึมก็จะต้องรื้อซ่อมใหม่ ทำให้เสียทั้งเงิน และเวลา ซึ่งเราจะกระตุ้นให้ผู้เข้าชมงานได้เห็นถึงความสำคัญจุดนี้”
นายอภิชาติ กล่าวว่า นอกจากนี้ภายในงานเราจะเปิดตัวสินค้าใหม่ คือ ท่อพีพีอาร์(PP-R)ตราช้าง เป็นนวัตกรรมใหม่ โดยมีกระบวนการผลิตท่อ และข้อต่อจากเม็ดพลาสติกที่มีคุณภาพดีจากยุโรป จากบริษัท Borealis ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทที่ผลิตเม็ดพลาสติก PP-R ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และยังผลิตพลาสติกด้วยเทคโนโลยีที่รักษาสิ่งแวดล้อม (Eco friendly) ซึ่งใช้พลังงานต่ำกว่าการผลิตท่อทองแดงถึง 22% - 50% โดยมีแหล่งการผลิตจากโรงงานปิโตรเคมีมาตรฐานสูงในยุโรป
“ปัจจุบันการใช้ท่อน้ำร้อนภายในบ้านหรืออาคาร ส่วนใหญ่จะมีปริมาณการใช้อยู่ประมาณ 5% - 10% ของท่อทั้งหมด โดยท่อน้ำร้อนที่นิยมใช้จะเป็นท่อเหล็ก หรือท่อทองแดง ซึ่งมีความทนทานแต่หากนำมาใช้ในระยะยาวมักจะมีปัญหาเรื่องการเกิดสนิม และสิ่งสกปรกตกค้างส่งผลให้มีอายุการใช้งานสั้นลง ดังนั้นท่อพีพีอาร์(PP-R)ตราช้างจะเข้ามาทดแทน และช่วยแก้ปัญหาที่พบจากท่อเหล็ก และท่อทองแดง นอกจากนี้ PP-R ยังเป็นพลาสติกที่มีความสะอาดมากที่สุดชนิดหนึ่ง สามารถทนความร้อนได้ถึง 95 องศาเซลเซียส มีราคาถูกกว่าท่อทองแดง และท่อเหล็ก ที่สำคัญมีอายุการใช้งานยาวนานกว่า 50 ปี ช่วยทำให้เจ้าของโครงการ หรือเจ้าของบ้านลดต้นทุนการก่อสร้างได้เช่นกัน”
นายอภิชาติ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า โดยภาพรวม 3- 5 ปีที่ผ่านมา ตลาดท่อพีพีอาร์ มีอัตราการเติบโตโดยเฉลี่ยปีละ 15% ซึ่งท่อพีพีอาร์(PP-R)ตราช้างเน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายอาคารสูงทั้งระดับบน และระดับกลาง ซึ่งเป็นกลุ่มผู้นำอสังหาริมทรัพย์ระดับแนวหน้า ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มศุภาลัย, แสนสิริ, พร๊อพเพอร์ตี้เพอเฟค เป็นต้น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า จากการที่เรามีสินค้าครบวงจร ซึ่งเรามีจุดแข็งคือ มีแบรนด์แม่ (SCG) ที่แข็งแกร่ง, มีช่องทางการจัดจำหน่ายทั่วประเทศกว่า 300 ร้านค้า ทั้งร้านปลีก-ส่ง รวมถึงร้านซีเมนต์ไทยโฮมมาร์ท และมีคอนเนคชั่นที่เป็นกลุ่มผู้ออกแบบและเจ้าของโครงการ ซึ่งจุดแข็งทั้ง 3 ส่วนนี้ เชื่อว่าจะทำให้ท่อพีพีอาร์(PP-R)ตราช้างได้รับความนิยม และก้าวสู่การเป็นผู้นำตลาดท่อน้ำร้อนได้ในเร็ววันนี้