กรุงเทพฯ--22 เม.ย.--สสวท.
ในช่วงที่อากาศร้อน ๆ อย่างนี้ ถ้าได้ “ไอศกรีม” ถ้วยโปรดมาช่วยดับร้อน คงทำให้ใครหลายคนรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง แต่ทราบไหมคะว่าในไอศกรีมแต่ละถ้วยนั้นมีไขมันแฝงอยู่ใน ปริมาณที่สูงมาก เพราะฉะนั้นการบริโภคไอศกรีมในปริมาณมากเกินไปก็อาจจะก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของเราได้...
ได้ยินแบบนี้แล้วใครที่ชอบรับประทานไอศกรีมเป็นชีวิตจิตใจอาจรู้สึกกังวใจ แต่ไม่ต้องตกใจค่ะ เพราะล่าสุดมีการวิจัยเพื่อคิดค้นไอศกรีมสูตรใหม่ขึ้นมา โดยฝีมือของเยาวชนไทย ที่ได้นำเอาสารไบโอติคมาใช้เป็นส่วนหนึ่งในขั้นตอนของการผลิตไอศกรีมจนกลายเป็น “ไอศกรีมไบไอติก” ที่มีปริมาณไขมันต่ำและไม่เป็นอันตรายกับผู้บริโภค ซึ่งผลงานการวิจัยดังกล่าวได้นำมาจัดแสดงภายใน งานประชุมวิชาการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อเยาวชน ครั้งที่ 5 ซึ่ง สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกันจัดขึ้น ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา เมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา
การศึกษาวิจัยเรื่องไอศกรีมไบโอติกนี้ เป็นผลงานของนักศึกษา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่เล็งเห็นคุณสมบัติพิเศษของสารไบโอติกที่สามารถนำมาผสมแทนไขมันที่ได้จากนม หลังจากมีงานวิจัยที่พบว่าคนเอเชียไม่สามารถย่อยไขมันที่ได้จากนมได้ดีเท่ากับคนยุโรป
ศุภกร ตันเป็นสุข นักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้คิดค้นสูตรไอศกรีมไบโอติก กล่าวว่า ในการทดลองได้นำเอาสารไบโอติก 2 ชนิด คือ Prebiotic และProbiotic มาผสมลงในไอศกรีม ผลการทดลองพบว่าไอศกรีมที่ได้นั้น มีปริมาณไขมันที่ต่ำเหมาะสำหรับผู้ที่ควบคุมน้ำหนัก ผู้รักสุขภาพ และผู้ที่ชื่นชอบทานไอศครีมแต่ไม่อยากเป็นโรคอ้วน ฯลฯ
ถึงตรงนี้ ... หลายคนอาจกำลังสงสัยว่า สารไบโอติกที่กำลังพูดถึงอยู่นั้น คืออะไร มีประโยชน์ในด้านใดบ้างและสามารถนำเอาสารดังกล่าวมาเป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์อะไรได้บ้าง ศุภกร เยาวชนคนเก่งของเราเล่าให้ฟังว่า
“สารไบโอติกที่นำมาใช้นั้นสกัดมาจากถั่วเหลือง ซึ่งให้โปรตีนสูง ไขมันต่ำและไม่ทำให้อ้วน สำหรับ Prebiotic ก็เป็นสารอาหารกลุ่มหนึ่งที่ร่างกายไม่สามารถย่อยได้ แต่สามารถทำหน้าที่เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของแบคทีเรียซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกายของสิ่งมีชีวิตที่มันอาศัยอยู่โดยจะทำให้ทางเดินอาหารนั้นดีขึ้น ทั้งยังสามารถจำกัดปริมาณการเจริญเติบโตของแบคทีเรียเหล่านั้นได้ ส่วน Probiotic จะเป็นแบคทีเรียที่ยังมีชีวิตอยู่บางชนิด ซึ่งเมื่อรับประทานเข้าไปแล้วก็จะสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในลำไส้และช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันในทางเดินอาหารได้ดีขึ้น เมื่อทั้ง Prebiotic และ Probiotic ได้มาทำงานร่วมกันจะเป็นผลดีต่อร่างกายมาก นอกจากนี้ยังสามารถนำเอาสารเหล่านี้มาเป็นส่วนประกอบของอาหารประเภทที่มีไขมันสูง โดยในอนาคตอาจจะนำสารเหล่านี้ไปสกัดให้อยู่ในรูปของผง เพื่อที่จะสามารถนำมาประกอบอาหารทุกประเภทได้”
เห็นอย่างนี้แล้ว “ไอศกรีมไบโอติก” อาจเป็นเพียงผลงานการวิจัยชิ้นเล็ก ๆ ของหนึ่งต้นกล้าวิทย์ที่จุดประกายความคิดให้เกิดการต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ที่นอกจากจะสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดคนรักสุขภาพแล้วยังอาจจะนำไปสู่การคิดค้นสิ่งใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ จนกลายเป็นผลงานคุณภาพจากฝีมือเยาวชนไทยที่มีชื่อเสียงในระดับสากลต่อไปก็ได้ ..ใครจะรู้