กรุงเทพฯ--26 เม.ย.--ปภ.
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดฉะเชิงเทรา กำหนดฝึกซ้อมแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยระดับจังหวัด ประจำปี 2553 ด้านอัคคีภัยในอาคาร ในวันศุกร์ที่ 30 เมษายน 2553 ณ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา (หลังเก่า) เพื่อเตรียมการป้องกันและประสานการปฏิบัติงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้พร้อมดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาอัคคีภัยอย่างมีประสิทธิภาพ
นางสาวงามพิศ แก้วประดิษฐ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า อัคคีภัยเป็นภัยที่เกิดบ่อยครั้ง และหากเกิดในพื้นที่ชุมชนและอาคารสูงจะยิ่งสร้างความเสียหายอย่างมหาศาล ประกอบกับ
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้กำหนดให้ปี พ.ศ.2553 เป็นปีแห่งการรณรงค์เพื่อป้องกันอัคคีภัยในเคหสถานและสถานประกอบการ ดังนั้น เพื่อเป็นการบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เตรียมความพร้อมป้องกันอัคคีภัยอย่างเป็นรูปธรรม สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดฉะเชิงเทรา จึงได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ฝึกซ้อมแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ระดับจังหวัด ประจำปี 2553 ด้านอัคคีภัยในอาคาร ในวันที่ 30 เมษายน 2553 เวลา 14.00 — 16.30 น. ณ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา (หลังเก่า) โดยผู้เข้าร่วมการฝึกซ้อมแผนฯ ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐ เอกชน องค์กรปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประมาณ 200 คน เพื่อเพิ่มพูนความรู้และเสริมสร้างศักยภาพในการป้องกันและระงับอัคคีภัยให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน รวมถึงเตรียมการป้องกันและประสานการปฏิบัติงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้พร้อมดำเนินการป้องกันและแก้ไขอัคคีภัยอย่างมีประสิทธิภาพ โดยกำหนดฝึกซ้อมแผนในรูปแบบปฏิบัติการจริง (Field Training Exercise : FTX) ด้วยการจำลองสถานการณ์เสมือนจริงกรณีเกิดอัคคีภัย ณ หน้าอาคารศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา(หลังเก่า)
จึงต้องบูรณาการหน่วยงานด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จัดตั้งศูนย์อำนวยการเพื่อควบคุม อำนวยการ และสั่งการ ณ จุดที่เกิดเหตุ การอพยพผู้ประสบภัย การระงับเหตุอัคคีภัย การให้ความช่วยเหลือและการปฐมพยาบาลผู้ประสบเหตุ และสรุปประเมินผลการฝึกซ้อมแผนฯ ทั้งนี้ การฝึกซ้อมแผนฯ ดังกล่าวจะทำให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานและผู้บัญชาการระดับต่างๆ สามารถปฏิบัติการตอบโต้สถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพตามขั้นตอนที่กำหนดอย่างมีระบบ ซึ่งจะช่วยลดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินจากเหตุอัคคีภัย และสร้างความเชื่อมั่นด้านมาตรฐานความปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่