กรุงเทพฯ--21 มี.ค.--ตลท.
ดร. สันติ กีระนันทน์ ผู้จัดการตลาดตราสารหนี้ (Bond Electronic Exchange หรือ BEX) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ อนุมัติรับพันธบัตรออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มูลค่า 45,000 ล้านบาท และพันธบัตรธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) มูลค่า 4,000 ล้านบาท รวมมูลค่า 49,000 ล้านบาท เข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนใน BEX วันที่ 22 มีนาคม 2550 ดังนี้
1. พันธบัตรธปท. มูลค่ารวม 45,000 ล้านบาท ประกอบด้วย
- พันธบัตรธปท. งวดที่ S28/14/50 ชื่อย่อ “CB07405B” อายุ 14 วัน มูลค่า 30,000 ล้านบาท ครบกำหนด ไถ่ถอนวันที่ 5 เมษายน 2550
- พันธบัตรธปท. งวดที่ S29/7/50 ชื่อย่อ “CB07329B” อายุ 7 วัน มูลค่า 15,000 ล้านบาท ครบกำหนด ไถ่ถอนวันที่ 29 มีนาคม 2550
2. พันธบัตรธอส. ปี 2550 มูลค่ารวม 4,000 ล้านบาท ประกอบด้วย
- พันธบัตรธอส. ปี 2550 ครั้งที่ 3 มูลค่ารวม 2,000 ล้านบาท ชื่อย่อ “GHB173A” อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 4.28 ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุก 6 เดือน ครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 22 มีนาคม 2560
- พันธบัตรธอส. ปี 2550 ครั้งที่ 4 มูลค่ารวม 1,000 ล้านบาท ชื่อย่อ “GHB193A” อายุ 12 ปี อัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 4.45 ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุก 6 เดือน ครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 22 มีนาคม 2562
- พันธบัตรธอส. ปี 2550 ครั้งที่ 5 มูลค่ารวม 1,000 ล้านบาท ชื่อย่อ “GHB223A” อายุ 15 ปี อัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 4.4980 ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุก 6 เดือน ครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 22 มีนาคม 2565
การเข้าจดทะเบียนของตราสารหนี้ภาครัฐครั้งนี้ ทำให้มูลค่าตราสารหนี้ที่ออกโดยภาครัฐเพิ่มขึ้นเป็น 3.025 ล้านล้านบาท ( ร้อยละ 89.87 ของตราสารหนี้จดทะเบียนใน BEX ) ส่งผลให้มูลค่าคงค้างรวม (Total Outstanding Value) ในตลาดตราสารหนี้เพิ่มขึ้น 3.366 ล้านล้านบาท
ผู้สนใจลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐและเอกชนที่จดทะเบียนใน BEX สามารถติดต่อบริษัทหลักทรัพย์ได้ทุกแห่ง รวมทั้ง ติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับตราสารหนี้ไทยและต่างประเทศ ได้ทางเว็บไซต์ของตลาดตราสารหนี้ที่ www.bex.or.th หากต้องการข้อมูลเกี่ยวกับกองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์โครงการให้เงินทำงานผ่านกองทุนรวมที่ www.thaimutualfund.com หรือติดต่อบริษัทจัดการกองทุนทุกแห่ง