ยอดขอส่งเสริมพุ่ง 2.72 แสนล้าน ต่างชาติยังเดินหน้าลงทุนเพิ่ม 17.2%

ข่าวทั่วไป Monday August 20, 2007 10:15 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--20 ส.ค.--บีโอไอ
บีโอไอปลื้มยอดขอรับส่งเสริมการลงทุน 7 เดือน มีมูลค่ากว่า 2.72 แสนล้านบาท ต่างชาติยังสนใจลงทุนในไทยเพิ่ม 17.2% หรือเฉียด 1.8 แสนล้านบาท เผยโครงการลงทุนกว่าครึ่งเป็นกิจการใหม่ ในขณะที่โครงการเดิมได้ขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่องกว่า 1.5 แสนล้าน สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ ส่วนญี่ปุ่นยังครองแชมป์ลงทุนสูงสุด
นายสาธิต ชาญเชาวน์กุล เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2550 (ม.ค.-ก.ค.) มียอดคำขอรับส่งเสริมการลงทุนทั้งสิ้น 756 โครงการ มูลค่าลงทุนรวม 272,516.1 ล้านบาท โดยในจำนวนดังกล่าว เป็นการขอรับส่งเสริมการลงทุนจากต่างชาติ 467 โครงการ รวมมูลค่าเงินลงทุนทั้งสิ้น 176,923 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 17.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา ซึ่งมีมูลค่าเงินลงทุน 150,989 ล้านบาท
ทั้งนี้ มีโครงการที่ขอรับส่งเสริมการลงทุนจากต่างชาติทั้งสิ้น 467 โครงการ เป็นโครงการใหม่ถึง 257 โครงการ หรือร้อยละ 55.7 ของจำนวนโครงการที่ยื่นขอรับส่งเสริมทั้งหมด คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนประมาณ 63,943 ล้านบาท ที่เหลืออีก 206 เป็นการขยายกิจการที่มีอยู่เดิม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโครงการขนาดใหญ่จึงมีมูลค่าเงินลงทุนสูงถึง 155,419 ล้านบาท
“ เป็นเรื่องปกติที่โครงการลงทุนใหม่จะมีมูลค่าเงินลงทุนน้อยกว่าโครงการเดิมที่ขยายการลงทุน เพราะนักลงทุนที่ยังไม่เคยเข้ามาลงทุนในไทยจะยังไม่ลงทุนอย่างเต็มที่ในครั้งแรก จนกระทั่งแน่ใจว่าลงทุนแล้วได้ผลกำไรเป็นอย่างดี จึงจะขยายการลงทุนอย่างเต็มที่ ซึ่งตัวเลขดังกล่าว สะท้อนให้ เห็นว่า โครงการลงทุนใหม่ๆ เชื่อมั่นในศักยภาพและความพร้อมด้านอุตสาหกรรมของไทย ส่วนโครงการเดิมยังคงแข่งขันได้จึงขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ” เลขาธิการบีโอไอกล่าว
สำหรับประเทศที่เข้ามาลงทุนมากที่สุด ยังคงเป็นโครงการลงทุนจากญี่ปุ่น มีโครงการที่ยื่นขอรับส่งเสริมจำนวน 187 โครงการ รวมมูลค่าเงินลงทุน 69,371 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าช่วงเดียวกันของปี 2549 ประมาณ 13.5% ส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน และอิเล็กทรอนิกส์
ส่วนโครงการลงทุนจากประเทศอื่นๆ ที่มีมูลค่าเงินลงทุนเพิ่มขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ได้แก่ โครงการลงทุนจากจีน ซึ่งยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนรวม 21 โครงการ เพิ่มขึ้น 9 โครงการ คิดเป็นมูลค่าการลงทุนรวม 4,702 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3 เท่าตัว โครงการลงทุนจากเยอรมนี 20 โครงการ คิดเป็นเงินลงทุน 1,558 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นกว่า 6 เท่า การลงทุนจากเกาหลีใต้ 30 โครงการ คิดเป็นเงินลงทุน 4,802 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 25% และโครงการลงทุนจากอินเดีย 13 โครงการ คิดเป็นมูลค่าการลงทุน 2,092 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าตัว
สำหรับกิจการที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนสูงสุด ยังอยู่ใน 4 กลุ่มอุตสาหกรรม คือ อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า อุตสาหกรรม ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ รวมถึงกิจการบริการ และสาธารณูปโภค

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ