ภาวะตลาดทองคำ ประจำวันที่ 26 เม.ย. 53

ข่าวเศรษฐกิจ Monday April 26, 2010 11:59 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--26 เม.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ ข้อมูลทองคำวันนี้ ราคาสมาคม เปิดที่ 17,500 — 17,600 ราคา Gold Spot เปิดที่ 1,158 อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท 32.17 — 32.23 GFJ10 Hi- Low 17,520— 17,470 ปิดที่ 17,500 Gold Insight สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 10.8 ดอลลาร์ หรือ 0.9% ปิดที่ 1,153.7 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,136.2 - 1,155.4 ดอลลาร์ หลังเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินยูโร ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากการที่กรีซได้เดินหน้าเจรจาขอเงินกู้ในวงเงินกว่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐจากสหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดบวก 69.99 จุด หรือ 0.63% แตะที่ 11,204.28 จุด ดัชนี S&P 500 เดินหน้าขึ้น 8.61 จุด หรือ 0.71% ปิดที่ 1,217.28 จุด ขานรับการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่สดใส โดยเฉพาะยอดขายบ้านใหม่ในเดือนมี.ค.ที่พุ่งสูงขึ้นจากระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนก่อนหน้านี้ ซึ่งช่วยบดบังปัจจัยลบจากกระแสความวิตกกังวลต่อปัญหาหนี้สินในกรีซ น้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือนมิ.ย.ปรับตัวสูงขึ้น 1.42 ดอลลาร์ ปิดที่ 85.12 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 82.92 - 85.19 ดอลลาร์ หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะยอดขายบ้านใหม่ในเดือนมี.ค.ที่พุ่งสูงขึ้นจากระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนก่อนหน้านี้ ซึ่งรายงานดังกล่าวช่วยบดบังกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะดีมานด์พลังงานหดตัว หลังจากที่ก่อนหน้านี้กระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้นเกินคาดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กองทุน SPDR Gold Trust กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือ ทองคำถึง ณ . 26 มี.ค. ไม่เปลี่ยนแปลงการถือครอง ถือครองเท่าเดิมที่ระดับ 1,140.13 ตัน USD/EU ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากที่กรีซเริ่มดำเนินการขอเงินกู้จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ และสหภาพยุโรป เป็นมูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินยูโรฟื้นตัวขึ้นสู่ระดับ 1.3390 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.3316 ดอลลาร์ยูโร โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลยูโรเช้านี้เปิดตลาดยู่ที่ระดับ 1.3375 ดอลลาร์ต่อยูโร USD/JPY ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น 1.34% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 125.88 เยน/ยูโร จากระดับ 124.22 เยน/ยูโร โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลเยนเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 94.29 เยนต่อดอลลาร์ USD/THB ค่าเงินบาทปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 32.16-32.25 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งไม่มีการเคลื่อนไหวมากนักจากการเปิดตลาดในตอนเช้ามากนัก ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 32.13-32.20 บาทต่อดอลลาร์ ข่าวเศรษฐกิจโลก คณะทำงานด้านนโยบายของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMFC) เผยภายหลังการประชุมที่กรุงวอชิงตันว่า IMF มุ่งมั่นที่จะรับประกันเรื่องการดำเนินการเพื่อให้ระบบการเงินภาคสาธารณะมีความยั่งยืน และจะรับมือกับความเสี่ยงของตราสารหนี้ เพื่อช่วยรับมือกับวิกฤตหนี้สินของกรีซ IMFC ยังได้เรียกร้องให้มีการเร่งปรับโครงสร้างภาคการบริหารสถาบันการเงินในสหรัฐ รวมทั้งระบบการลงคะแนนเสียงเพื่อให้ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ได้มีส่วนร่วมในการออกเสียงเพื่อตัดสินใจในเรื่องต่างๆมากกว่าเดิม ที่ประชุมจี-20 ชี้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวได้ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ พร้อมเรียกร้องให้มีการกำหนดแผนถอดถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในขณะที่เศรษฐกิจโลกกำลังฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่ง รัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางจากกลุ่มประเทศจี-20 กล่าวในแถลงการณ์หลังการประชุมที่กรุงวอชิงตันว่า ประเทศที่มีการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจควรหาทางยุติการใช้มาตรการกระตุ้น และระงับการใช้ความช่วยเหลือด้านการเงินด้วยการพิจารณาถึงแนวทางต่างๆอย่างรอบคอบ กรีซที่เปิดฉากหารือเรื่องมาตรการความช่วยเหลือฉุกเฉินกับอียูและไอเอ็มเอฟโดยมีเป้าหมายที่จะคลี่คลายปัญหาขาดดุลงบประมาณ ขณะที่เยอรมนีให้คำมั่นว่าประเทศพร้อมที่จะสนับสนุนเงินช่วยเหลือกรีซอีกแรงหนึ่ง ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลต่อปัญหาหนี้สินในกลุ่มทวีปยุโรป และส่งผลให้มีการแห่ซื้อเงินยูโรตามมา ขณะที่เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานยอดขายบ้านใหม่ในเดือนมี.ค.ที่พุ่งสูงขึ้นถึง 27% แตะระดับ 411,000 ยูนิตต่อปี ซึ่งตัวเลขดังกล่าวดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนก่อนหน้านี้ สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) รายงานว่า ยอดขาดดุลงบประมาณในกลุ่มประเทศที่ใช้เงินยูโร 16 ประเทศ หรือ ยูโรโซน เพิ่มขึ้นแตะ 6.3% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในปี 2552 ซึ่งมากกว่าสองเท่าของที่อียูกำหนดไว้ไม่ให้เกิน 3% ของจีดีพี กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงาน ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมี.ค.ที่ไม่นับรวมยอดสั่งซื้อสินค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมขนส่งขยายตัวสูงเกินคาดที่ระดับ 2.8% ซึ่งเป็นระดับการขยายตัวสูงสุดนับตั้งแต่สหรัฐเริ่มเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยในเดือนธ.ค.2550

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ