กรุงเทพฯ--28 เม.ย.--ไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์
นายคเณศ ขาวจันทร์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์ หรือ TPC กล่าวถึงผลประกอบการไตรมาส 1 ว่า บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายและให้บริการรวม 6,663 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 1,094 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 20 โดยมีสัดส่วนเป็นการขายของบริษัทภายในประเทศไทย ร้อยละ 85 และของบริษัทย่อยในต่างประเทศ ร้อยละ 15 มีกำไรสุทธิงวดไตรมาสที่ 1/2553 รวม 409 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 237 ล้านบาท หรือร้อยละ 37 โดยมีกำไรจากการดำเนินงานลดลงจากผลของราคาวัตถุดิบหลักที่เพิ่มสูงขึ้นมาก และค่าเงินบาทแข็งขึ้น
ภาพรวมของตลาดพีวีซีภูมิภาคเอเชียในไตรมาส 1 ปี 53 ราคาพีวีซีสูงกว่าไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องจากความต้องการที่สูงขึ้นหลังจากเผชิญปัญหาเศรษฐกิจถดถอยในปี 51 จนถึงต้นปี 52 ประกอบกับปัญหาสภาวะอากาศที่หนาวผิดปกติในประเทศจีน ทำให้มีปัญหาเรื่องการขนส่งและการผลิตภายในประเทศ ส่งผลให้อุปทานตึงตัว อีกทั้งราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ราคาพีวีซีเฉลี่ยไตรมาส 1 ปี 53 อยู่ที่ US$ 966 ต่อตัน สูงกว่าไตรมาส 1 ปี 52 ซี่งมีราคาเฉลี่ย US$ 639 ต่อตัน
ในส่วนของราคาเอทธิลีนนั้น ได้ปรับตัวสูงขึ้นตามราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น ราคาเฉลี่ยในไตรมาส 1 ปี 53 อยู่ที่ US$ 1,265 ต่อตัน เพิ่มขึ้น US$ 638 ต่อตัน เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ส่วนราคาอีดีซีปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก US$ 166 ต่อตัน ในไตรมาส 1 ปี 52 เป็น US$ 485 ต่อตัน ในไตรมาส 1 ปี 53 เนื่องจากราคาโซดาไฟ (NaOH) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ร่วมยังอยู่ในระดับต่ำ ทำให้หลายโรงงานลดปริมาณการผลิตลงส่งผลให้อีดีซีมีอุปทานน้อยลง
สำหรับตลาดในประเทศไทย บริษัทฯ มียอดขายพีวีซีเพิ่มขึ้น ร้อยละ 6 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1 ของปี 52 ตามภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้นและความต้องการใช้พีวีซีในประเทศที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ตลาดต่างประเทศมียอดขายพีวีซีลดลง ร้อยละ 33 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1 ของปี 52 เนื่องจากบริษัทฯ มีปริมาณพีวีซีจำกัดจากการปิดซ่อมบำรุงประจำปีของโรงงานวีซีเอ็มและพีวีซี และบริษัทให้ความสำคัญกับลูกค้าภายในประเทศก่อน
นายคเณศ ขาวจันทร์ กรรมการผู้จัดการ กล่าวถึงทิศทางการดำเนินงานในไตรมาส 2 นี้ คาดว่า ปริมาณความต้องการใช้พีวีซีภายในประเทศอาจจะลดลงเล็กน้อยหลังจากผ่านฤดูการขายของธุรกิจประเภทท่อไปในช่วงต้นปีที่ผ่านมา แต่ราคาพีวีซีจะยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูง เนื่องจากวัตถุดิบยังคงมีราคาสูงตามราคาน้ำมันดิบ แม้ว่าอุปทานพีวีซีในประเทศจีนจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น หลังจากผ่านช่วงวันหยุดยาวของเทศกาลตรุษจีนและผู้ผลิตกลับมาดำเนินการผลิตตามปกติ แต่วีซีเอ็มอาจจะมีสินค้าจำกัด เนื่องจากอยู่ในช่วงการปิดปรับปรุงประจำปีของโรงงานต่าง ๆ นายคเณศ ขาวจันทร์ ยังกล่าวถึงประมาณการรายได้ในปี 2553 นี้ คาดว่าบริษัทฯ จะเติบโตเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีปริมาณการพีวีซีที่เพิ่มขึ้นจากการเพิ่มกำลังการผลิตของ TPC ที่เวียดนามเป็น 2 แสนตัน จาก 1 แสนตัน/ปี ส่วนในอินโดนีเซียมีกำลังการผลิต 1 แสนตัน/ปี และ ในไทยมีกำลังการผลิต 5 แสนตัน/ปี รวมทั้งหมดบริษัทฯ มีกำลังการผลิตพีวีซีประมาณ 8 แสนตัน/ปี