กรุงเทพฯ--26 ก.พ.--นิโอ ทาร์เก็ต
บริษัท รสา พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด(มหาชน) แต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย (Lead Underwriter) ร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ ชั้นนำอีก 4 แห่ง ในฐานะผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย (Co-Underwriter) เตรียมเสนอขายหุ้นสามัญจำนวน 20 ล้านหุ้นให้กับประชาชนทั่วไป (IPO) ในวันที่ 1-2 มีนาคม ศกนี้ โดยกำหนดราคาจองที่ 6.50 บาท
รศ.มานพ พงศฑัต ประธานกรรมการ บริษัท รสา พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “บริษัท รสา พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) จะเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 20 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 6.50 บาท คิดเป็นมูลค่าการระดมทุนจำนวน 130 ล้านบาท ซึ่ง บมจ.รสา พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ ได้แต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เป็นแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นดังกล่าวต่อประชาชนและนำหุ้นของบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยร่วมกับผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายอีก 4 ราย ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ซีมิโก้ จำกัด(มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด(มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด(มหาชน), และ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรีอยุธยา จำกัด(มหาชน)
นายพิเศษ เสตเสถียร กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ แอ๊ดไวซอรี่ 2001 จำกัด และ ผู้บริหารของกลุ่ม บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า “สำหรับราคาเสนอขายหุ้นบมจ.รสา พร็อพเพอร์ตี้ฯ ที่ราคา 6.50บาท/หุ้น เป็นราคาที่มีความเหมาะสม ซึ่งใกล้เคียงกับราคาตามบัญชีของสิ้นปี 2549 ของบริษัทฯ และเหมาะสมกับสภาวะตลาดหลักทรัพย์ในปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังเป็นราคาที่น่าจะให้ผลตอบแทนที่ดีต่อนักลงทุนการเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนในครั้งนี้เป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของได้ โดยนักลงทุนที่สนใจจองซื้อหุ้นของบมจ.รสา พร็อพเพอร์ตี้ฯ สามารถติดต่อผ่านตัวแทนบริษัทหลักทรัพย์ทั้ง 5 แห่ง ทั้งที่เป็น Lead Underwriter และ Co Underwriter”
บริษัท รสา พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) นับเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อเสียงดีและดำเนินธุรกิจประสบความสำเร็จผ่านช่วงวิกฤตเศรษฐกิจมาได้โดยตลอด ทั้งนี้ เนื่องจากบริษัทฯ มีจุดแข็งหลายประการ ได้แก่ 1) ทีมผู้บริหารของบริษัทมีประสบการณ์ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มากกว่า 30 ปีขึ้นไป
มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล ดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส จึงได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจเป็นอย่างดี 2) บริษัทฯ มีทีมทำวิจัยตลาด เพื่อวางแผนในการพัฒนาโครงการต่างๆ ให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า ณ ช่วงเวลานั้น และมีความคล่องตัวสูงที่จะการปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจให้ทันกับทิศทางความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไปได้อย่างรวดเร็วทันการ ส่งผลให้โครงการที่พัฒนาโดย รสา พร็อพเพอร์ตี้ ที่ผ่านมา จะได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ยอดขายเป็นไปตามเป้าหมาย แม้ในภาวะตลาดขาลง โครงการของรสา พร็อพเพอร์ตี้ กลับได้รับผลกระทบน้อยมาก 3) บริษัทไม่มีนโยบายสะสม Land Bank ทำให้ไม่มีความเสี่ยงด้านต้นทุนหรือปัญหาเงินจม 4) แบรนด์ของรสา พร็อพเพอร์ตี้ มีความแข็งแกร่งในกลุ่มลูกค้า Niche Market อย่างมาก 5) โครงการอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทฯ มีจุดเด่นที่แตกต่างจากคู่แข่ง คือ โครงการอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทจะมีขนาดโครงการที่ไม่ใหญ่จนเกินไป เหมาะสมกับขนาดของพื้นที่ดินแต่ละแห่ง มีการออกแบบดีไซน์ให้แต่ละโครงการมีเอกลักษณ์เฉพาะ คำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยที่คุ้มค่า โดยให้ความสำคัญต่อคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย ไม่หนาแน่นแออัด โครงการจึงน่าอยู่และมีความปลอดภัย
รศ.มานพ พงศฑัต เปิดเผยว่า “วัตถุประสงค์ของการกระจายหุ้นในครั้งนี้ เพื่อสร้างชื่อเสียงให้บริษัทฯ เป็นที่รู้จักของประชาชนมากยิ่งขึ้น และเพื่อนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ในการพัฒนาโครงการใหม่ประมาณ 2 โครงการในปี 2550 โดยจะเน้นพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมย่านศูนย์กลางธุรกิจ เนื่องจากขนาดของตลาดคอนโดมิเนียมยังโตอีกมาก แม้ว่าจะมีผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลายรายลงมาจับตลาดนี้เช่นเดียวกัน แต่ บริษัทฯ มีความมั่นใจว่าสามารถชิงส่วนแบ่งตลาดส่วนนี้ได้ ด้วยคุณภาพของโครงการ และความเชี่ยวชาญในการการเจาะกลุ่ม Niche Market ทั้งนี้ บริษัทฯ มีฐานลูกค้าที่แน่นอนอยู่แล้ว และจะมีการทำ CRM กับลูกค้าปัจจุบัน เพื่อขยายสู่ฐานลูกค้าใหม่ โดยเน้นกลุ่มคนทำงานที่มีสไตล์และมีความต้องการที่อยู่อาศัยในทำเลที่การเดินทางสะดวก โดยตั้งงบโฆษณาประชาสัมพันธ์และงบประมาณในการจัดกิจกรรมทางการตลาดไว้สูงกว่าปีที่ผ่านมา”
ปัจจุบัน บมจ. รสา พร็อพเพอร์ตี้ มีทุนจดทะเบียนจำนวน 400 ล้านบาท และเป็นหนึ่งในบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศที่มุ่งพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมที่มีคุณภาพและเอกลักษณ์เฉพาะตัวในย่านศูนย์กลางธุรกิจแถบกรุงเทพฯและปริมณฑล โดยบริษัทฯ มีผลการดำเนินงานในปี 2006 เป็นที่น่าพอใจ โดยมีรายได้ 668 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 41 ล้านบาท ซึ่งมีรายได้เติบโตจากปี 2005
คิดเป็น. 56% หรือ 240 ล้านบาท
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
บ.นิโอ ทาร์เก็ต จำกัด
นฤพร ชีวนันทพรชัย / ลลิฎา ลีลานุกูล
โทร (02) 631-2290-5 ต่อ 305 / 307 แฟกซ์ (02) 234-6192-3
E-Mail : naruepornneotarget.com,Lalida@neotarget.com