สสปน. แถลงแผนงาน 5 ปี เปิดตัวบอร์ดใหม่ ปรับกลยุทธ์เดินหน้ารุกอุตสาหกรรม MICE อย่างต่อเนื่อง

ข่าวทั่วไป Tuesday June 12, 2007 15:32 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--12 มิ.ย.--เจดับบลิวที พับบลิค รีเลชั่นส์
สสปน. แถลงแผนงาน 5 ปี เปิดตัวบอร์ดใหม่ ปรับกลยุทธ์เดินหน้ารุกอุตสาหกรรม MICE อย่างต่อเนื่อง พร้อมปรับเป้าผลักดันประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการอุตสาหกรรม MICE ภายในปี พ.ศ. 2554 สอดคล้องแผนงาน 5 ปี
กรรมการสสปน. ชุดใหม่ ประกาศทิศทางเดินหน้ารุกอุตสาหกรรม MICE ครึ่งปีหลัง มั่นใจศักยภาพอุตสาหกรรมยังเติบโตได้ต่อเนื่อง จากปัจจัยบวกของกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพจากอุตสาหกรรม MICE ที่ยังคงเข้าประเทศต่อเนื่อง เตรียมเดินหน้าโครงการใหญ่ดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพเข้าไทย ทั้งสานต่อโครงการเปิดทองหลังพระ พร้อมปรับเป้าหมายผลักดันประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการอุตสาหกรรม MICE ภายในปี พ.ศ. 2554 สอดคล้องตามแผนงาน 5 ปี
ม. ร. ว. ดิศนัดดา ดิศกุล ประธานกรรมการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. กล่าวถึงแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี ของสสปน. ประกาศโครงการริเริ่มหลักสำหรับแผนยุทธศาสตร์ทั้งสิ้น 5 โครงการ ได้แก่ โครงการเปิดทองหลังพระ, โครงการสร้างเครือข่ายความร่วมมือทั้งไทยและต่างประเทศภายใต้ Thai Team, โครงการศูนย์รวบรวมและวิจัยข้อมูล MICE, โครงการพัฒนาความรู้ความสามารถแก่บุคลากรในอุตสาหกรรม MICE, และโครงการสร้างมาตรฐานระบบการจัดการ (MICE Certificate) เพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรม MICE ที่ยั่งยืนให้กับประเทศไทย พร้อมตอบโจทย์การปรับเป้าหมายผลักดันประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการอุตสาหกรรมไมซ์ภายในปี พ.ศ. 2554 สอดคล้องตามแผนงาน 5 ปี
นอกจากนี้ ม. ร. ว. ดิศนัดดา แถลงภาพรวมอุตสาหกรรม MICE ว่า “อุตสาหกรรม MICE หรือธุรกิจการ จัดประชุมสัมมนา การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล รวมถึงการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติ คาดว่ายังมีอัตราการเติบโตเพิ่มสูงขึ้นปีละกว่า 20 - 30% และยังคงมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เนื่องจากประเทศไทยมีความพร้อมในด้านศูนย์การประชุมและศูนย์แสดงสินค้า การคมนาคม สาธารณูปโภค และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รวมทั้งเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมและอาหารไทยที่เลื่องชื่อ ตลอดจนกิจกรรมและแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลาย ล้วนเป็นปัจจัยบวกที่ส่งเสริมให้อุตสาหกรรม MICE ของไทยสามารถก้าวไปสู่การเป็นผู้นำในภูมิภาคได้”
"สาเหตุที่ภาพรวมอุตสาหกรรม MICE ยังมีแนวโน้มที่ดี เนื่องจากปัจจุบันเรายังมีกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพจากอุตสาหกรรม MICE เข้ามาประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรม MICE ปี 2549 ที่ผ่านมา จำนวนคนเพิ่มขึ้น 39 % จาก 555,294 คน ในปี 2548 เป็น 773,496 คน และจำนวนรายได้เพิ่มขึ้น 39 % จากประมาณ 38,000 ล้านบาท ในปี 2548 เป็น 53,000 ล้านบาท สำหรับในปี 2550 นี้เท่าที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีเหตุการณ์บ้านเมืองที่ไม่ปกติซึ่งมีผลต่ออุตสาหกรรมบ้าง แต่สำหรับอุตสาหกรรม MICE โดยเฉพาะในกลุ่มของการจัด Exhibition ในประเทศไทย ไม่มีการยกเลิกการจัดงานแม้แต่งานเดียว" สำหรับในช่วงครึ่งปีหลัง ภารกิจของ สสปน. ที่ต้องเร่งดำเนินการอีก 3 โครงการใหญ่ที่สำคัญอย่างต่อเนื่องให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2550 นี้ ประกอบด้วย โครงการเปิดทองหลังพระ โครงการพัฒนาความรู้ความสามารถด้าน MICE (MICE Capability)กว่า 12 โครงการ และโครงการ Branding ขององค์กร โครงการเปิดทองหลังพระ: ท่องเที่ยวสืบสานโครงการพระราชดำริ (Royal Initiative Discovery) เป็นโครงการหลักของสสปน. ที่สนับสนุนโดยรัฐบาล โดยมีพื้นที่โครงการทั้งสิ้นจำนวน 19 แห่ง: ภาคเหนือ 5 แห่ง ภาคกลาง 7 แห่ง ภาคใต้ 3 แห่ง ภาคอีสาน 4 แห่ง ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่อง 5 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 - 2554 โดยคาดว่าโครงการจะสร้างรายได้เป็นเงินตราต่างประเทศและเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจรวมกันเป็นมูลค่าประมาณ 3,100 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยว รวม 900,000 คน แบ่งเป็นนักท่องเที่ยวในประเทศ ประมาณ 750,000 คน และนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ประมาณ 150,000 คน ขณะเดียวกัน สสปน. จะดำเนินโครงการพัฒนาความรู้ความสามารถด้าน MICE (MICE Capability) อย่างต่อเนื่องทั้งปี เพื่อพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรม MICE โดยเพิ่มขีดความสามารถให้แข่งขันได้ในระดับสากล ทั้งนี้โครงการเด่น 2 โครงการหลัก ได้แก่ การจัดหลักสูตร EMD (Exhibition Management Degree) ในปี 2550 ซึ่งเป็นหลักสูตรแรกของโลกในการบริหารจัดการด้านการจัดนิทรรศการ โดยสสปน. ร่วมมือกับ UFI (the Global Association of the Exhibition Industry) ซึ่งเป็นองค์กรผู้เชี่ยวชาญการสร้างความรู้เพื่อธุรกิจ MICEระดับโลก และ ECE (the Transfer Centre for Exhibition, Convention and Event Management) แห่ง University of Cooperative Education ณ เมือง Ravensburg ประเทศเยอรมนี ประสบความสำเร็จเกินความคาดหมาย คือ มีผู้สนใจสมัครเข้ารับการอบรมจากวงการอุตสาหกรรม MICE และบรรดาอาจารย์มหาวิทยาลัยทั้งคนไทยและต่างชาติถึง 33 คน จาก 10 ประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ อีกหนึ่งโครงการสำคัญ คือ การจัดหลักสูตร English for MICE เพื่อตอบสนองปัญหาด้านภาษาและการสื่อสารของบุคลากรในอุตสาหกรรม โดยสสปน. ศึกษาความคาดหวังต่อบุคลากรในอุตสาหกรรมจากผู้ประกอบการและลูกค้า พบว่ามีความต้องการบุคลากรที่มีความสามารถด้านภาษาอังกฤษในระดับมาตรฐานเทียบเท่านานาชาติ จึงร่วมมือกับสถาบันสอนภาษา Inlingua โดยทางสถาบันจะจัดสอนหลักสูตรการสอนพิเศษที่คิดค้นเฉพาะเพื่อการสอนภาษาอังกฤษให้กับบุคลากรในอุตสาหกรรม โดยศึกษาจากความจำเป็นในการใช้งานจริงสร้างสรรค์หลักสูตรเฉพาะด้าน ทั้งนี้ในปีนี้มีเป้าหมายจำนวน 300 คน โดยจัดคอร์สการสอนทั้งสิ้น 25 คอร์ส ซึ่งคอร์สแรกเริ่มต้นตั้งแต่ 12 มิ.ย. — 15 ส.ค. ใช้เวลาทั้งสิ้น 2 เดือนครึ่ง จำนวน 40 คน "นอกจากนี้ สสปน. กำลังดำเนินโครงการ Branding ให้กับองค์กรควบคู่กันไป เพื่อให้บุคลากรในองค์กรตลอดจนกลุ่มเป้าหมายเกิดการรับรู้และเข้าใจในภารกิจและหน้าที่ของสสปน. ที่ชัดเจน โดยใช้เป็นแนวทางและรูปแบบในการกำหนดมาตรฐานของการสื่อสารผ่านช่องทางต่าง ๆ ไปยังกลุ่มเป้าหมายทั้งภายในและภายนอกองค์กรได้อย่างชัดเจนถูกต้อง มีประสิทธิภาพและสามารถวัดผลได้ ซึ่งจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างภาพลักษณ์และวัฒนธรรมองค์กร โดยคาดว่าหากดำเนินการเรียบร้อยแล้วนั้น สสปน. จะสามารถใช้ Brand ใหม่อย่างเป็นทางการในเดือนสิงหาคม 2550” ม. ร. ว. ดิศนัดดา กล่าวย้ำม.ร.ว. ดิศนัดดา ดิศกุล กล่าวทิ้งท้ายถึงคณะกรรมการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. ว่า ขณะนี้คณะรัฐมนตรีได้แต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหม่เรียบร้อยแล้ว ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายวงการ โดยมีตนเป็นประธานกรรมการ ส่วนคณะกรรมการชุดใหม่ 8 ท่าน ประกอบด้วย นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีส่งเสริมการส่งออก นายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ นายชวลิต เศรษฐเมธีกุล อธิบดีกรมศุลกากร นางพรศิริ มโนหาญ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นายเดช บูลสุข นางวนิดา ดุละลัมพะ นายพรรธระพี ชินะโชติ และนายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม :
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ ( สสปน.)
คุณปาริฉัตร เศวตเศรนี
โทร 0-2694-6000 Ext. 6091 หรือ 08-1840-4701
e-mail : parichat_s@tceb.or.th
เจดับบลิวที ประเทศไทย : เจดับบลิวที พับบลิค รีเลชั่นส์
คุณวงจันทร์ ตั้งทรงศักดิ์
โทร. 0-2204-8221 หรือ 08-9127-2089
e-mail: wongchan.tangsongsak@jwt.com คุณรัตติกาล ตะโกเมือง
โทร. 0-2204 -8214 หรือ 08-1986-6733
e-mail: rattikan.takomuang@jwt.com
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ