BEX รับตราสารหนี้ภาครัฐและเอกชน รวม 143,440 ล้านบาท เข้าซื้อขายเดือน ม.ค. และ ก.พ. 2550

ข่าวทั่วไป Thursday January 11, 2007 10:53 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--11 ม.ค.--ตลท.
ดร. สันติ กีระนันทน์ ผู้จัดการตลาดตราสารหนี้ (Bond Electronic Exchange [BEX
]) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ อนุมัติรับตราสารหนี้เข้าจดทะเบียนเพิ่มขึ้นรวมมูลค่า 143,440 ล้านบาท โดยกำหนดให้ซื้อขายใน BEX ตั้งแต่วันที่ 11 , 15,16 มกราคม และ 15 กุมภาพันธ์ 2550 แบ่งเป็น 1) หุ้นกู้ของบริษัท ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) มูลค่า 1,440 ล้านบาท 2) พันธบัตรที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย มูลค่า 65,000 ล้านบาท 3) พันธบัตรรัฐบาล พ.ศ. 2550 มูลค่า 73,000 ล้านบาท และ4) พันธบัตรออมทรัพย์ มูลค่า 4,000 ล้านบาท
1. หุ้นกู้บริษัท ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1/2549 ชื่อย่อ “KTB06PA” มูลค่า 1,440 ล้านบาท เริ่มซื้อขายวันที่ 11 ม.ค. 2550
“KTB06PA” เป็นหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุน ไม่สะสมและไม่ชำระดอกเบี้ยในปีที่ไม่มีผลกำไร กำหนดให้เริ่มใช้สิทธิไถ่ถอนได้ตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน 2559 เป็นต้นไป จ่ายดอกเบี้ยในอัตราเงินฝากประจำ 6 เดือนเฉลี่ยของ 5 ธนาคารพาณิชย์ใหญ่ +2.55% โดยหลังจากวันใช้สิทธิไถ่ถอนวันแรก (29 พฤศจิกายน 2559) จ่ายดอกเบี้ยในอัตราเงินฝากประจำ 6 เดือนเฉลี่ยของ 5 ธนาคารพาณิชย์ใหญ่ +3.55%
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2549 KTB06PA ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ A+ (tha) จากบริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด
2. พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย รวมมูลค่า 65,000 ล้านบาท เริ่มซื้อขายวันที่ 11 มกราคม 2550 ประกอบด้วย
- พันธบัตรธปท. งวดที่ 1/364/50 ชื่อย่อ “CB08110A” อายุ 364 วัน มูลค่า 30,000 ล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 10 มกราค ม 2551
- พันธบัตรธปท. งวดที่ S2/13/50 ชื่อย่อ “CB07122A” เป็นพันธบัตรรุ่นพิเศษ ระยะสั้น อายุ 13 วัน มูลค่า 15,000 ล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 22 มกราคม 2550
- พันธบัตรธปท. งวดที่ S3/7/50 ชื่อย่อ “CB07118B” เป็นพันธบัตรรุ่นพิเศษ ระยะสั้น อายุ 7 วัน มูลค่า 20,000 ล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 18 มกราคม 2550
3. พันธบัตรรัฐบาล พ.ศ. 2550 รวม 73,000 ล้านบาท เริ่มซื้อขาย 15 มกราคม 2550 ประกอบด้วย
- พันธบัตรรัฐบาล พ.ศ. 2550 ครั้งที่ 1 ชื่อย่อ “LB145B” อายุ 7 ปี มูลค่า 27,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 5.2500 ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 12 พฤษภาคม 2557
- พันธบัตรรัฐบาล พ.ศ. 2550 ครั้งที่ 3 ชื่อย่อ “LB191A” อายุ 12 ปี มูลค่า 46,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 5.6250 ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 12 มกราคม 2562
4. พันธบัตรออมทรัพย์ พ.ศ. 2549 รวม 4,000 ล้านบาท ประกอบด้วย
- พันธบัตรออมทรัพย์ พ.ศ. 2549 ครั้งที่ 4 ชื่อย่อ “SB111A” อายุ 5 ปี มูลค่า 2,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 5.5 ต่อปี กำหนดชำระดอกเบี้ยทุกวันที่ 15 มกราคม และ 15 กรกฎาคม ตลอดอายุพันธบัตร เริ่มซื้อขายวันที่ 16 มกราคม 2550
- พันธบัตรออมทรัพย์ พ.ศ. 2549 ครั้งที่ 5 ชื่อย่อ “SB132A” อายุ 7 ปี มูลค่า 2,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 7.0 ต่อปี กำหนดชำระดอกเบี้ยทุกวันที่ 15 กุมภาพันธ์ และ 15 สิงหาคม ตลอดอายุพันธบัตร เริ่มซื้อขายวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2550
การเข้าจดทะเบียนของตราสารหนี้ภาครัฐและเอกชนในครั้งนี้ มูลค่าตราสารหนี้ที่ออกโดยภาครัฐเพิ่มขึ้นเป็น 2.945 ล้านล้านบาท (ร้อยละ 89.57 ของตราสารหนี้จดทะเบียนใน BEX) และภาคเอกชนเพิ่มขึ้นเป็น 338,619 ล้านบาท (ร้อยละ 10.29 ของตราสารหนี้จดทะเบียนใน BEX) ส่งผลให้มูลค่าคงค้างรวม (Total Outstanding Value) ในตลาดตราสารหนี้เพิ่มขึ้นเป็น 3.288 ล้านล้านบาท
ผู้สนใจลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐและเอกชนที่จดทะเบียนใน BEX สามารถติดต่อบริษัทหลักทรัพย์ได้ทุกแห่ง รวมทั้ง ติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับตราสารหนี้ไทยและต่างประเทศ ได้ทางเว็บไซต์ของตลาดตราสารหนี้ ที่ www.bex.or.th หากต้องการข้อมูลเกี่ยวกับกองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ ศึกษาเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์โครงการให้เงินทำงานผ่านกองทุนรวมที่ www.thaimutualfund.com หรือ ติดต่อบริษัทจัดการกองทุนทุกแห่ง
ติดต่อส่วนสื่อมวลชนสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร
ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0-2229 — 2036 / กุลวิดา จินตกะวงส์ โทร. 0-2229 — 2037/
ณัฐพร บุญประภา โทร. 0-2229 — 2049 / วรรษมน เสาวคนธ์เสถียร โทร. 0-2229-2797

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ