กรุงเทพฯ--26 ก.พ.--TTIS Company
งานแสดงสินค้าแฟชั่นและงานแสดงสินค้าเครื่องหนัง 2550 (Bangkok International Fashion Fair and Bangkok International Leather Fair 2007, BIFF & BIL 2007) กลับมาอีกครั้งในรูปแบบใหม่ ยิ่งใหญ่ เจาะลึก ชัดเจน ครอบคลุม ครบถ้วน จากต้นน้ำถึงปลายน้ำ พร้อมทัพนักออกแบบชั้นนำจากในประเทศ และทั่วภูมิภาค เพื่อให้งานแสดงสินค้า BIFF & BIL 2007 เป็นสุดยอดในภูมิภาคอาเซียน และพลาดไม่ได้สำหรับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมแฟชั่นและเครื่องหนังทั่วโลก
เพื่อตอกย้ำสถานะความเป็นผู้นำของงานแสดงสินค้าแฟชั่นและเครื่องหนังในระดับภูมิภาค และผลักดันเป้าหมายที่จะให้ไทยเป็นศูนย์กลางแห่งการออกแบบ ผลิต และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์แฟชั่นและเครื่องหนังในอาเซียน งาน BIFF & BIL 2007 ปรับโฉมรูปแบบในการจัดงานใหม่ เน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยงานดีไซน์เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน คัดสรรผลงานความคิดสร้างสรรค์จากนักออกแบบแนวหน้าทั้งในประเทศและในภูมิภาค นำเสนอต่อผู้เข้าร่วมงานภายใต้บรรยากาศที่ตื่นตา เน้นการสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ประกอบการและผู้ร่วมงาน ภายใต้ theme งานปีนี้คือ “Selected Fashion in Bangkok”
นางเบญจวรรณ รัตนประยูร รองอธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ กล่าวในงานแถลงข่าว BIFF & BIL 2007 ที่ห้องประชุม กรมส่งเสริมการส่งออก เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า BIFF & BIL เป็นหนึ่งในงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติภายใต้การดำเนินงานของกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ ที่มีความสำคัญมากเป็นพิเศษ ทั้งในแง่เศรษฐกิจและแรงงาน
“ณ วันนี้ การรอรับแต่ออร์เดอร์จากลูกค้าแล้วทำตามคำสั่งเพียงอย่างเดียวแล้วไม่เพียงพออีกต่อไปแล้ว ถึงเวลาแล้วที่เราต้องลุกขึ้นมาสร้างกระแสแฟชั่นในแบบฉบับของเราเอง และประกาศให้ทั่วโลกรับรู้ว่าสินค้าของเรามีดีตรงไหน และเรามีความพร้อมในภาคอุตสาหกรรมการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำเพียงใด ซึ่งภาครัฐโดยกรมส่งเสริมการส่งออกมีความมุ่งมั่นอย่างแท้จริงที่จะช่วยพยายามผลักดันให้ประเทศไทยของเราเป็นศูนย์กลางของเครือข่ายอุตสาหกรรมแฟชั่นและเครื่องหนังของภูมิภาคอาเซียน”
ดีไซน์สร้างสรรค์ ภายใต้บรรยากาศประทับใจ
จากความสำเร็จของ BIFF & BIL ในปีที่ผ่านมา ทำให้มั่นใจได้ว่า บนพื้นที่แสดงสินค้าที่กว้างขวางถึง 20,000 ตารางเมตร ของศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา คาดว่า ปีนี้จะมีบูธร่วมแสดงสินค้ากว่า 1,000 บูธจาก 600 บริษัท ทั้งในและต่างประเทศ
ทั้งนี้กรมส่งเสริมการส่งออกได้จัดทำแผนการตลาด และจัดโรดโชว์เพื่อชักชวนผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศให้มาร่วมงาน ทั้งในฐานะผู้ซื้อ ผู้ขาย ผู้ผลิต เอเยนต์ ตัวแทนจำหน่าย โดยในปีนี้ เน้นประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคอาเซียน เช่น เวียดนาม ลาว กัมพูชา อินโดนีเซีย ให้เข้าร่วมแสดงสินค้าอย่างคับคั่ง นอกจากนี้ยังมีประเทศอื่นๆในเอเชีย เช่น ใต้หวัน ฮ่องกง จีน อินเดีย ที่คาดหมายว่าจะเข้าร่วมเช่นทุกปี
กำหนดวันจัดงาน คือ 22-24 สิงหาคม สำหรับการเจรจาธุรกิจ ส่วนอีกสองวันคือ เสาร์และอาทิตย์ที่ 25-26 สิงหาคม เปิดขายปลีกให้กับประชาชนทั่วไป
จำนวนผู้เข้าชมงาน ในวันเจรจาธุรกิจ คาดว่าจะมีผู้ประกอบการและตัวแทนจากบริษัทต่างๆ ทั่วโลกทั้งในเอเชีย ตะวันออกกลาง ยุโรป และอเมริกา เข้าร่วมราว 8,000 คน ส่วนวันที่เปิดให้ประชาชนเข้าชม คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานราว 25,000 คน
พื้นที่การจัดแสดงสินค้า จะจัดแบ่งเป็นกลุ่มที่มีเอกลักษณ์และเป้าหมายชัดเจน เพื่อความสะดวกของผู้เลือกซื้อ เลือกชมภายใต้บรรยากาศที่ทันสมัย เพลิดเพลิน
Fashion Design จะเป็นโซนที่มีความโดดเด่นที่สุด นี่คือแหล่งรวมของงานแฟชั่นสร้างสรรค์จากนักออกแบบทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยในส่วน Trend Forum ได้รับความร่วมมือจากกลุ่ม Bangkok Fashion Society และ Pret-A-Porter จากปารีส จะนำผลงานมาอวดโฉม เพื่อแสดงกระแสแฟชั่น และสร้างแรงบันดาลใจให้ก้บผู้เข้าชม
Sourcing from First to Finish เป็นโซนที่จะสะท้อนถึงความพร้อมของไทยในฐานะศูนย์กลางของภูมิภาค เพราะมีความครบวงจรของอุตสาหกรรมแฟชั่นตั้งแต่วัตถุดิบไปจนถึงสินค้าสำเร็จรูป จากต้นน้ำถึงปลายน้ำ จากเส้นใย เป็นผ้าผืน จากผู้รับจ้างผลิตอย่างเดียว ไปจนถึงผลิตและออกแบบ ไฮไลท์ของโซนนี้คือคอลเลคชั่น autumn/winter และ spring/summer ของกลุ่ม Thai Tex Trend (T3) ซึ่งประกอบด้วยผู้ผลิตผ้าผืน 12 บริษัทชั้นนำที่เติบโตมาจากโครงการพัฒนาผ้าผืนไทยสู่ตลาดโลก นอกจากนี้ ยังมีนิทรรศการของ Thai Cluster ระหว่างสิ่งทอกับเครื่องนุ่มห่ม ที่สามารถเชื่อมโยงกันจนเกิดมูลค่าเพิ่มที่น่าสนใจ
Brand Preference เป็นกลุ่ม commercial brand ที่มีปริมาณการผลิตเป็นจำนวนมาก แต่มีสไตล์และบุคลิกเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง กลุ่มนี้มีโอกาสเติบโตต่อไปได้ดีในตลาดระดับภูมิภาค เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย และมีโอกาสก้าวต่อไปในตลาดยุโรปและอเมริกา
Pick & Pay เป็นกลุ่มสินค้าของผู้ผลิตในระดับ wholesale เช่น กลุ่มโบ๊เบ๊ ใบหยก ประตูน้ำ ที่รับจ้างผลิตแบบ OEM ไปจนถึงผู้ผลิตแบบ ODM ที่อาจมีการออกแบบของตัวเองนำเสนอลูกค้าด้วย ตลาดของกลุ่มนี้คือตลาดในเอเชีย โดยเฉพาะตะวันออกกลาง
Exotic Asia จะถ่ายทอดความงดงามของศิลปแต่ละชาติผ่านงานหัตถกรรมที่เป็นทั้งผืนผ้า เครื่องแต่งกาย และเครื่องประดับต่างๆ
International & Asia Power เป็นกลุ่มผู้แสดงสินค้าจากต่างประเทศ โดยจัดเป็นซุ้มหรือศาลาของแต่ละประเทศ
Fashion Accessories เป็นโซนที่รวบรวมและคัดสรรแฟชั่นเครื่องประดับ เครื่องตกแต่งทั้งหลายมาอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นสร้อย แหวน กำไล ไปจนถึงหมวก ที่ติดผม ถุงมือ ฯลฯ
ในส่วนของสินค้าเครื่องหนัง ประกอบด้วย
Bags & Totes กระเป๋าทุกประเภท ทุกรูปแบบ ทั้งกระเป๋าแฟชั่น ไปจนถึงกระเป๋าเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าหนัง หรือวัสดุที่มาจากแนวคิดสร้างสรรค์ต่างๆ ให้เลือกหลากหลาย
Foot Moves เชื่อมต่อจากโซนของกระเป๋ามาถึงโซนที่เป็นรองเท้า มีตั้งแต่รองเท้ากีฬา ไปจนถึงรองเท้าเดินเล่น รองเท้าที่เป็นทางการ และรองเท้าสำหรับโอกาสต่างๆ
Material & Tanning วัตถุดิบที่เป็นเครื่องหนังและการฟอกหนัง ซึ่งนำมาผลิตหรือออกแบบ ดัดแปลงสร้างสรรค์เป็นสินค้าแฟชั่นและผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ต่างๆ
นอกจากนี้ ยังมีโซนที่จัดไว้สำหรับแหล่งความรู้ทางด้านแฟชั่นและเครื่องหนัง เรียกว่า Fashion Supporting ซึ่งรวบรวมหนังสือ นิตยสาร สื่อเรียนการสอน สถาบัน โรงเรียน เครื่องจักร เทคโนโลยี อุปกรณ์ซอฟแวร์ ตลอดจนบริการต่างๆที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมแฟชั่นเข้าไว้ในโซนนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวคิดหลักของงานที่เน้นความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบ
นอกจากนี้ ภายในงานจะมีนิทรรศการที่เรียกว่า Showcase Exhibition โดยคัดเลือกเสื้อผ้าและผลงานของนักออกแบบชั้นนำมาจัดแสดง ส่วนแรกเป็นผลงานของนักออกแบบรุ่นใหม่ที่ได้รับคัดเลือกเข้ารอบของ Young Designers Contest และอีกส่วนจะคัดเลือกผลงานของผู้ที่เคยผ่านเวที Young Designers Contest มาแล้ว และประสบความสำเร็จในวงการทุกวันนี้มาร่วมแสดง ซึ่งเป็นความพยายามที่จะส่งเสริมและกระตุ้นให้เกิดนักออกแบบหน้าใหม่ในวงการมากขึ้น โดย Young Designers Contest เป็นการประกวดออกแบบเสื้อผ้าแฟชั่น ของนักออกแบบรุ่นใหม่ โดยจะประกาศผลผู้ชนะภายในวันงาน BIFF & BIL 2007 และยังมีการประกวดเครื่องประดับตกแต่ง Creative Accessories Contest และนำผลงานดังกล่าวมาจัดแสดงในวันงานดังกล่าวด้วย
อีกสีสันที่เป็นไฮไลท์ของงาน BIFF & BIL 2007 นอกจากการตกแต่งสถานที่อย่างตระการตาแล้ว ยังมีเวทีแฟชั่นโชว์ จากนักออกแบบไทย อาเซียน และเอเชียมาแสดงบนเวทีหลัก วันละสองรอบ และการแสดงแฟชั่นโชว์ย่อยๆ วันละสามรอบ ตลอดทั้งสามวันแรกของการเจรจาธุรกิจ
สำหรับผู้สนใจที่จะเพิ่มพูนความรู้ในอุตสาหกรรมแฟชั่น ภายในงานยังมีการสัมมมา Fashion Trend Conference ให้แก่ผู้ประกอบการ นักออกแบบ ถึงแนวโน้มแฟชั่นในตลาดโลก และการประชุมกลุ่มย่อยในหัวข้อต่างๆที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมแฟชั่นจากผู้เชี่ยวชาญทั้งในและต่างประเทศ
นอกจากนี้ ยังมีบริการพิเศษอีกหลากหลายที่ช่วยเอื้ออำนวยความสะดวก ตลอดจนสร้างความประทับใจให้กับผู้ที่มางาน โดยเฉพาะผู้ซื้อจากต่างประเทศ เช่น บริการ Business Matching ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างหน่วยงานระหว่างกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ สมาคมผู้ค้า และสถาบันต่างๆ ตลอดจนบริการเยี่ยมชมแหล่งค้าส่ง ค้าปลีก และห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่มี showroom แบรนด์ดังของประเทศ
นางเบญจวรรณ รัตนประยูร รองอธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวทิ้งท้ายถึงเป้าหมายของงานว่า “ กิจกรรมต่างๆ ที่เราจัดขึ้นตลอดช่วงงาน BIFF & BIL 2007 ไม่ได้มุ่งเน้นแต่เพียงให้เกิดการเจรจาซื้อขายกันเท่านั้น ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น คือการสร้างเวทีที่กระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้ และการพัฒนา เพื่อให้สู้กับตลาดโลกได้ เพื่อให้ผู้ประกอบการมองเห็นช่องทางที่จะผนึกกำลังระหว่างอุตสาหกรรมและบริการต่างๆ ให้ประเทศไทยใช้ความได้เปรียบของความพร้อมและความสมบูรณ์ในเรื่องของ supply chain ทั้งต้นน้ำและปลายน้ำให้เป็นประโยชน์ เพื่อให้เราเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมแฟชั่นและเครื่องหนังของภูมิภาคได้อย่างแท้จริง”
สำหรับผู้สนใจสมัครเข้าร่วมแสดงสินค้าในงาน BIFF & BIL 2007 สามารถติดต่อได้ที่ สำนักกิจกรรมงานแสดงสินค้า กลุ่มงานกิจกรรมธุรกิจแฟชั่น โทร.02-5120093-101 ต่อ 217, 262 biff@depthai.go.th
รายละเอียดเกี่ยวกับงาน BIFF&BIL 2007 สามารถคลิกเข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ www.thaitradefair.com/fairin/biff07
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ติดต่อ คุณนุชจรี ศรีวรรณยศ
บริษัท TTIS Company Limited
โทร 0 2661 2442 ext.660
แฟกซ์ 0 2661 2439
อีเมล์ biff_bil07press@ttis.co.th