กรุงเทพฯ--29 เม.ย.--แสนสิริ
จากความชื่นชอบ และรักในกีฬาฟุตบอลเป็นพิเศษ จึงทำให้คุณเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน) ได้ริเริ่มจัดตั้ง “โครงการแสนสิริเพื่อเยาวชน” ขึ้นเมื่อปี 2549 โดยเริ่มต้นจากจุดเล็กๆ ที่เห็นเยาวชนซึ่งเป็นลูกบ้านในโครงการของแสนสิริจำนวนมากใช้พื้นที่ส่วนกลางในโครงการเพื่อการออกกำลังกาย ประกอบกับความใฝ่ฝันที่จะส่งเสริม และสร้างโอกาสด้านทักษะเรื่องกีฬาฟุตบอลให้กับเด็กๆ ที่มีใจรักกีฬาฟุตบอลได้มีการฝึกฝน และฝึกซ้อมที่ถูกต้อง เพื่อให้มีโอกาสเป็นกำลังสำคัญของชาติ และอาจใช้ฟุตบอลเป็นอาชีพโดยการเล่นให้สโมสรอาชีพชั้นนำต่างๆ ได้
“เริ่มต้นต้องบอกว่าผมเป็นคนที่ชอบกีฬาฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจอยู่แล้ว และเคยได้มีโอกาสช่วยทางคุณโต้ง — กิตติรัตน์ ณ ระนอง โดยการเข้าไปเป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมชาติไทยอยู่ระยะหนึ่ง ซึ่งทำให้ผมรู้ว่าจุดอ่อนจุดแข็งของวงการฟุตบอลไทยอยู่ที่ใด นอกเหนือจากระบบบริหารของฟุตบอลอาชีพที่ต้องพัฒนา ซึ่งปัจจุบันได้พัฒนาไปมากจนฟุตบอลในบ้านเรากลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง แต่สิ่งที่จำเป็นในระยะยาว คือการส่งเสริมเยาวชนให้ได้ฝึกฝน และพัฒนาทักษะที่ถูกต้อง และสร้างโอกาสให้เขาได้เล่นฟุตบอลในระดับสโมสร ส่วนในระดับทีมชาติของเราเองก็อาจจะมีตัวเลือกมากขึ้น และผมกับคุณโต้งก็มีความเห็นตรงกันว่าอยากจะทำโครงการฟุตบอลเพื่อเยาวชนขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ว่าเราต้องการเห็นเยาวชนได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ซึ่งผมคิดว่าเป็นโอกาสที่ดี หากแสนสิริจะได้เป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยพัฒนาเด็กๆ ให้ได้เล่นฟุตบอลอย่างถูกต้อง มีน้ำใจนักกีฬา และห่างไกลยาเสพติด และที่สำคัญโครงการนี้เยาววชนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายด้วย” คุณเศรษฐากล่าว
เป็นเวลากว่า 3 ปีแล้ว ที่บริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน) ได้จัดโครงการแสนสิริเพื่อเยาวชนเพื่อสร้างประโยชน์กลับคืนสู่สังคม โดยการสนับสนุนกีฬาฟุตบอลอย่างจริงจัง ซึ่งสถานที่ที่ใช้จัดการฝึกสอนเป็นที่แรก คือสนามฟุตบอลภายในมหาวิทยาลัยมหิดล (ศาลายา) ภายหลังได้เปลี่ยนไปใช้สนาม Wit Soccer ที่พุทธมลฑล สาย 2 ซึ่งมีเยาวชนเข้าร่วมโครงการกว่า 400 คน ซึ่งนับว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากเยาวชนทั้งที่เป็นลูกบ้านของแสนสิริ และบุคคลภายนอก รวมถึงผู้ปกครองที่สนใจส่งเยาวชนเข้าร่วมกิจกรรมกับแสนสิริอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น แสนสิริจึงขยายโอกาส โดยทำการเปิดสาขาที่ 2 อย่างเป็นทางการ ที่สนาม Inter Premier เลียบคลองประปา ถ.ประชาชื่น ซึ่งมีเยาวชนเข้าร่วมแล้วกว่า 80 คน โดยภายในงานได้จัดกิจกรรมให้เด็กๆ ได้มีโอกาสใกล้ชิดกับนักกีฬาฟุตบอลทีมชาติไทย อาทิ ตะวัน ศรีปาน, วรวุฒิ ศรีมาฆะ, สราวุฒิ คำบัว และโชคทวี พรหมรัตน์ ซึ่งในปีนี้ทางแสนสิริยังมีแนวทางที่จะเปิดสาขาเพิ่มอีกจำนวน 2 สาขาในเขตอื่นๆ ต่อไป
คุณเศรษฐากล่าวเสริมว่า “การเรียนการสอนจะเริ่มในช่วงเช้าทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 8.00-10.30 น. โดยทำการคัดเลือกผู้ฝึกสอนที่มีความสามารถและประสบการณ์การเป็นโค้ช ซึ่งจะมีตั้งแต่ผู้ฝึกสอนที่ยังเป็นเยาวชนทีมชาติ ผู้ฝึกสอนได้ผ่านการทดสอบและได้ License B และ C ไปจนถึงอดีตทีมชาติ โดยทางแสนสิริได้สนับสนุนจัดเตรียมอุปกรณ์เพื่อการเรียนการสอนที่เป็นมาตรฐานไว้ให้เยาวชน เช่น ชุดกีฬาที่แจกให้ผู้เข้าร่วมโครงการ ลูกฟุตบอลที่ได้มาตรฐาน เท่ากับจำนวนคน สนามฟุตบอลที่มีสภาพดีเยี่ยม รวมถึงอุปกรณ์การสอนอื่นๆ ที่ให้เยาวชนได้มีการพัฒนาทักษะได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว รวมถึงเยาวชนที่จะเข้าร่วมโครงการ ทางโค้ชจะดูว่าเด็กแต่ละคนมีทักษะอยู่ในกลุ่มใด และจัดเข้าไปรวมกลุ่มที่มีทักษะใกล้เคียงกัน เรียงไปตั้งแต่กลุ่มที่ไม่เป็นเลยไป จนถึงกลุ่มที่มีทักษะสูงหรือเป็นนักกีฬาโรงเรียนอยู่แล้ว และเมื่อเด็กไหนกลุ่มไหนมีพัฒนาการที่ดี ก็จะให้เข้าไปอยู่กลุ่มที่มีทักษะที่ดีกว่า เพื่อสร้างแรงจูงใจ ซึ่งในจำนวนเหล่านี้มีเด็กผู้หญิงที่มาเข้าร่วมโครงการด้วย”
สำหรับงบประมาณในการสนับสนุนในแต่ละที่ จะขึ้นอยู่กับจำนวนเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งแสนสิริจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกิดขึ้น เช่น เรื่องชุดกีฬา น้ำดื่ม ค่าเบี้ยเลี้ยงของโค้ช การบำรุงรักษาสนาม รวมทั้งการจัดหาอุปกรณ์ต่างๆ ในสนาม รวมถึงการขยายความต่อเนื่องกับเครือข่ายทีมฟุตบอลในองค์กรอื่นๆ พัฒนาความสามารถทักษะการเล่นฟุตบอลด้วยการนำทีมไปเตะแข่งขันใน Match กระชับมิตรในการแข่งขันกับองค์กร สถาบันต่างๆ เพื่อพัฒนาประสบการณ์ให้กับทีมฟุตบอลเยาวชนด้วย ซึ่งที่ผ่านมา มีเยาวชนที่โดดเด่นจนสามารถได้ทุนไปเรียนต่อที่โรงเรียนอัสสัมชัญ ธนบุรี และกรุงเทพคริสเตียน ได้กว่า 10 คน เพื่อให้ได้ฝึกฝนทักษะการเล่นฟุตบอลในระดับโรงเรียน สโมสร และระดับอาชีพต่อไป ซึ่งโครงการนี้นับว่าเป็นอีกหนึ่งรูปแบบของการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมที่น่าสนใจ ภายใต้แนวคิด Goodwill ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในแนวทางการดำเนินธุรกิจหลักในปีนี้ของบริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน) นั่นคือ “Iconic Living” ที่มุ่งสะท้อนผลลัพธ์ไปสู่ผู้บริโภคเป็นสำคัญ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-201-3535-36 และ 02-201-3204 ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กลุ่มบริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน)