“WINDSOR”ทุ่ม 50 ล. ผนึก SCG ย้ำแบรนด์คุณภาพ โชว์ไวนิลอวดงานสถาปนิก’ 53 ลั่นผู้นำตลาดไทย

ข่าวอสังหา Thursday April 29, 2010 13:55 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--29 เม.ย.--นวพลาสติกอุตสาหกรรม บ.นวพลาสติกอุตสาหกรรมฯ ผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์ก่อสร้างและตกแต่งไวนิล (Vinyl) แบรนด์ “WINDSOR” ในเครือ SCG ประกาศรักษาแชมป์ หลังอัตราการใช้วัสดุไวนิลในไทยโตต่อเนื่อง เล็งอัดงบฯ สื่อสารการตลาดกว่า 50 ล้านบาท โดยผ่านทั้งกิจกรรมการตลาด และสื่อโฆษณา ตอกย้ำแบรนด์คุณภาพ ล่าสุดเตรียมโชว์นวัตกรรมไวนิล ภายใต้คอนเซ็ปต์“Innovative Solution” ร่วมกับ SCG อย่างเต็มตัว ในงานสถาปนิก’53 ระหว่างวันที่ 30 เม.ย.-5 พ.ค.นี้ ณ เมืองทองธานี นายปรเมศวร์ นิสากรเสน กรรมการผู้จัดการ บริษัท นวพลาสติกอุตสาหกรรม จำกัด บริษัทในเครือปูนซิเมนต์ไทย หรือ เอสซีจี (SCG) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ก่อสร้างและตกแต่งไวนิล (Vinyl) ภายใต้แบรนด์ “WINDSOR” เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดวัสดุไวนิลในประเทศไทย เริ่มเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมจากกลุ่มลูกค้ามากขึ้น เพราะด้วยคุณลักษณะที่โดดเด่น คือ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่ผุ หรือเป็นสนิม มีความทนทาน จึงทำให้กลุ่มธุรกิจก่อสร้างได้หันมาใช้วัสดุชนิดนี้เพื่อทดแทนกลุ่มวัสดุเดิมที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ทั้งนี้ ที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้มุ่งเน้นการพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่อง โดยชูจุดเด่นของ WINDSOR มีการคิดค้นสูตรให้เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศของเมืองไทย ซึ่งเน้นการใช้ผลิตภัณฑ์ไวนิลเพื่อทดแทนวัสดุธรรมชาติ เช่น ระบบหน้าต่างประตูไวนิล, ระบบฝ้าและรางน้ำฝนไวนิล, ระบบพื้น ไม้ไวนิล NAWAWOOD เป็นนวัตกรรมที่ใช้งานได้อย่างสะดวกสะบาย เพื่อการตกแต่งทั้งภายในและภายนอก เป็นต้น และสิ่งสำคัญสินค้าของ WINDSOR ได้ถูกพัฒนาให้ตอบสนองกับความเป็นอยู่ของคนในแถบอาเซียนอีกด้วย ที่คำนึงถึงการถ่ายเทระบายอากาศเพื่อให้บ้านเย็นสบาย นายปรเมศวร์ ได้กล่าวถึงการเข้าร่วมงานสถาปนิก’ 53 ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 30 เมษายน — 5 พฤษภาคม 2553 นี้ ที่เมืองทองธานี ว่า ในส่วนของ WINDSOR จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมร่วมกับสินค้าทุกกิจการของ SCG เพื่อความเข้าใจที่ง่ายขึ้นของลูกค้า โดยจะเน้นให้เห็นถึงการพัฒนาสินค้าให้มีความนำสมัย มีคุณภาพ เพื่อให้เข้ากับ Lifestyle ของการอยู่อาศัย รวมถึงตอบสนองทุกการใช้งานของลูกค้า ทำให้เห็นความชัดเจนของสินค้า ความสะดวก ความเป็น Solution ให้กับผู้บริโภค “สำหรับงานสถาปนิก’53 “WINDSOR” เป็น 1 ใน 5 ตราสินค้าคุณภาพจาก SCG ที่เข้าร่วมบูธกับบริษัทแม่ถือเป็นการผนึกพลังร่วมกันกับ ตราช้าง, COTTO, CPAC ,ปูนเสือ ตอกย้ำคุณภาพสินค้าที่คุ้มค่า สอดคล้องกับคอนเซ็ปต์ Innovative Solution ของ HOME SOLUTION ซึ่ง WINDSOR จะยังคงคอนเซ็ปต์ Living Solution นำเสนอสินค้าที่เป็นทางเลือกใหม่ของผู้บริโภคด้วยวัสดุทดแทนที่เป็นมิตรกับธรรมชาติ ภายในงานจะมีการโชว์ไฮไลท์สินค้าที่เป็นมุมต่อเติมสำหรับสังสรรค์ของบ้าน ประกอบด้วย ลาน OUTDOOR ซุ้มไวนิล เพื่อการนั่งเล่นและพักผ่อน สามารถมองเห็นทัศนียภาพภายนอก หรือการตกแต่งพื้นที่สวนในพื้นที่ที่จำกัดโดยใช้วัสดุไวนิล WINDSOR และการแสดงสินค้าประตู-หน้าต่าง WINDSOR ในระบบ Sound Proof System ร่วมกับผนังกันเสียงเพื่อเป็นห้อง Music Room ,ไม้ไวนิล NAWAWOOD ,ระบบพื้น และผลิตภัณฑ์เพื่อการอยู่อาศัยภายนอกบ้าน Outdoor living Product ที่ดูแลรักษาง่ายและ คิดค้นให้เหมาะกับภูมิอากาศเมืองไทยใน Zone Landscape Solution และการแสดงสินค้าทั้งหมดของ WINDSOR ใน รูปแบบ Library อีกด้วย ซึ่งนอกเหนือจากการแสดงสินค้าดังกล่าวแล้ว เรายังได้เปิดตัวหนังสือ “LIVING WITH YOU” เป็นการรวมบ้านลูกค้าที่ใช้สินค้า WINDSOR ตกแต่งบ้านใน 10 ปีที่ผ่านมาอีกด้วย” อย่างไรก็ตาม นายปรเมศวร์ ยังได้กล่าวถึงการแข่งในตลาดโดยภาพรวมว่า ปัจจุบันมูลค่าตลาดของวัสดุประเภทประตูหน้าต่างทุกประเภทน่าจะอยู่ที่ประมาณ 10,000 — 20,000 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมาบริษัทฯ มียอดขายประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยในไตรมาส 1 ปี 2553 ยอดขายโตกว่าแผนที่วางไว้ถึง 40 เปอร์เซ็นต์ และ 50 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2552 สำหรับในปีนี้เราได้ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ประมาณ 1,200 ล้านบาท หรือโตขึ้นอีก 20 เปอร์เซ็นต์ มาจากปัจจัย 1.การขยายเข้าไปในกลุ่มเซกเม้นต์บ้านขนาด 1-3 ล้านบาท ในกลุ่มดีเวลลอปเปอร์ผู้นำตลาด ซึ่งเป็นเรียลดีมานด์ 2.รัฐบาลขยายเวลาการยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ ซึ่งเป็นสองข้อหลักที่ทำยอดขายของเรามีอัตราการเติบโตขึ้นในปีนี้ “ถือว่าเป็นแนวโน้มที่ดีมาก เนื่องจากเรามีจุดแข็งหลายองค์ประกอบ ทั้งจากช่องทางการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุม คือ กลุ่มผู้ประกอบการและจัดจำหน่าย หรือ Fabricator เพื่อจำหน่ายทั่วประเทศ ,จากร้านค้าวัสดุก่อสร้าง หรือ Home mart Contact Point กว่า 100 แห่ง และในปีนี้บริษัทฯ ยังจะเน้นการใช้งบสื่อสารการตลาดประมาณ 50 ล้านบาท โดยจะเน้นในส่วนของกิจกรรม Local Marketing เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น และการโฆษณา เป็นต้น ตลอดจนการบริการหลังการขายบริการลูกค้าที่ใช้ WINDSOR และ Call Center โทร. 02-555-0333 เพื่อให้ข้อมูล และตอบคำถามของลูกค้าใหม่ที่สนใจอีกด้วย” นายปรเมศวร์ กล่าวในตอนท้าย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ