กรุงเทพฯ--29 เม.ย.--IR PLUS
ผู้ถือหุ้น TKS เห็นชอบรวบพาร์จาก 10 สตางค์เป็น 1 บาท ตามที่คณะกรรมการเสนอ เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าซื้อขายในกลุ่มสิ่งพิมพ์ "ศิริวรรณ สุกัญจนศิริ" เผยธุรกิจการพิมพ์เริ่มฟื้นตัวในทิศทางที่ดี หลังตลาดต่างประเทศเริ่มขยายตัว ในขณะที่ตลาดในประเทศได้อานิสงส์ราคากระดาษพุ่งและรับงานพิมพ์ไปรษณีย์บอลโลก มั่นใจสิ้นปีปั๊มรายได้ขยายตัว 15% จากปีก่อนที่ทำได้ 1,001.65 ลบ.
นางสาวศิริวรรณ สุกัญจนศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที.เค.เอส. เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน)(TKS)เปิดเผยภายหลังการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2553 ว่า ที่ประชุมมีมติอนุมัติการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นจากราคาพาร์ 0.10 เป็น 1.0 บาท ตามที่คณะกรรมการเสนอ เพื่อจูงใจให้นักลงทุนสถาบันสนใจที่ลงทุนในหุ้นบริษัทฯ ประกอบกับเตรียมความพร้อมก่อนย้ายจากหมวดเทคโนโลยีและสารสนเทศ เข้าสู่หมวดสิ่งพิมพ์ ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของ ที.เค.เอส. เทคโนโลยี หลังจากที่ได้จัดทำงบการเงินแยกจากบริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมอย่างชัดเจน
นางสาวศิริวรรณ กล่าวต่อถึงแนวโน้มธุรกิจสิ่งพิมพ์ในปีนี้ว่า ยังมีทิศทางค่อนข้างสดใส เนื่องจากลูกค้าจากต่างประเทศเริ่มให้ความสนใจงานพิมพ์ของบริษัทฯ มากขึ้น หลังจากที่ได้รับรางวัลจากการประกวดงานพิมพ์ในระดับนานาชาติหลายรางวัลในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ทำให้ลูกค้ามั่นใจว่า TKS สามารถผลิตงานพิมพ์ได้ในระดับเวิลด์คลาส และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้งานพิมพ์จากประเทศไทย ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติมากขึ้น ซึ่งในปีนี้ TKS มีเป้าหมายจะเพิ่มรายได้จากลูกค้าต่างประเทศเป็นสัดส่วน 20% ของรายได้ จากปีก่อนที่อยู่ในสัดส่วน 10%
นอกจากนั้นธุรกิจงานพิมพ์ในประเทศเชื่อว่าในปีนี้จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องทั้งธุรกิจการบริหารคลังสินค้า งานพิมพ์ดิจิตอล และงานพิมพ์ Security เพราะเป็นงานที่รองรับความต้องการลดต้นทุนของลูกค้าได้เป็นอย่างดี เนื่องจากธุรกิจบริหารคลังสินค้าของ TKS มุ่งให้ลูกค้าลดภาระเรื่องการจัดพิมพ์ จัดเก็บ และจัดส่งเอกสารทั้งหมด โดยบริษัท จะเข้าไปบริหารงานในส่วนดังกล่าวแทนอย่างมืออาชีพที่เชี่ยวชาญเป็นอย่างดี ด้วยระบบที่ทันสมัย และรักษา ความปลอดภัยขั้นสูงสุด ซึ่งขณะนี้มีผู้ประกอบการที่เป็นธนาคารขนาดใหญ่เข้ามาเป็นลูกค้าแล้ว 2 ราย ที่เหลือเป็นบริษัทประกันชีวิตและอื่นๆ นอกจากนั้นได้เริ่มเข้าสู่งานพิมพ์ข้อสอบให้กับสถานศึกษาด้วย เพราะบริษัทฯมีระบบป้องกันความปลอดภัยในการพิมพ์ที่เชื่อถือได้ และมีระบบการจัดส่งที่ตรงเวลา ซึ่งเชื่อว่าตลาดเหล่านี้จะขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ที่ทำให้ความต้องการใช้สินค้ากระดาษและสิ่งพิมพ์ เพิ่มมากขึ้น สะท้อนให้ยอดขายของกระดาษและสิ่งพิมพ์เพิ่มมากขึ้นไปในทิศทางเดียวกัน ประกอบกับในช่วงไตรมาสที่ 1/2553 ต่อเนื่องมาจนถึงไตรมาสที่ 2/2553 บริษัทฯ ได้รับประโยชน์จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคากระดาษราว 5-10% ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับสูงขึ้นตามไปด้วย นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังได้รับงานใหม่ที่มีมูลค่าสูงเข้ามาเพิ่มอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดบริษัทฯ ได้รับงานพิมพ์ไปรษณีย์บัตรเพื่อทายผลฟุตบอลโลกในไตรมาสที่ 2/2553 จึงทำให้ในช่วงดังกล่าวบริษัทฯ มีรายได้เติบโตอย่างชัดเจน และเมื่อรวมกับงานอื่นๆ ที่จะเข้ามาอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะผลักดันให้รายได้จากธุรกิจการพิมพ์ในปีนี้ เติบโตได้ไม่น้อยกว่า 15% จากปีก่อนที่ทำได้ 1,001.65 ลบ.
ในขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังมุ่งผลักดันให้กำไรเติบโตไปในทิศทางเดียวกับรายได้ที่เพิ่มขึ้น โดยได้หันมาบริหารต้นทุน ด้วยการลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอย่างระมัดระวังและต่อเนื่อง ทั้งการลดการสูญเสียของกระบวนการผลิต ลดต้นทุนการขนส่งและอื่นๆ โดยเฉพาะหลังจากการรวมฐานการพิมพ์ของบริษัท ที.เค.เอส. สยามเพรส แมเนจเม้นท์ จำกัด จากพื้นที่เช่าที่ซอยเทพลีลา ถนนรามคำแหง มารวมไว้ที่นิคมอุตสาหกรรมสินสาคร ในจังหวัดสมุทรสาครเพียง ที่เดียว ทำให้สามารถลดต้นทุนที่เป็นค่าเช่าพื้นที่และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ลงได้เป็นจำนวนมาก เชื่อว่าจะช่วยผลักดันให้อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ขยายตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง และสะท้อนให้ผลประกอบการเติบโตในทิศทางที่ดีได้ เช่นเดียวกัน โดยยังไม่รวมการรับรู้รายได้จากเงินปันผลในบริษัทร่วม คือ บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ที่บริษัทฯ ถือหุ้นอยู่ประมาณ 40%