กรุงเทพฯ--4 ก.ค.--ซีเนริโอ
แนวละคร โรแมนติกดราม่า
จำนวนตอน 20 ตอน
บทประพันธ์ ทีมซีเนริโอ
บทโทรทัศน์ เวฬุรีย์ เมธาวีวินิจ
ปิยพร วายุภาพ
กำกับการแสดง สุชีวิน แนวสูง
อำนวยการผลิต ถกลเกียรติ วีรวรรณ
นิพนธ์ ผิวเณร
ออกอากาศ วันจันทร์-วันอังคาร
ทางททบ.5 สองทุ่ม 15
เริ่ม 19 กรกฎาคม 48
รายชื่อนักแสดง
โอ-อนุชิต สพันธุ์พงษ์ รับบทเป็น พิทักษ์
จั๊กจั่น-อคัมย์สิริ สุวรรณศุข รับบทเป็น ฝ้ายแก้ว
ปูไข่-พงษ์สิรี บรรลือวงศ์ รับบทเป็น เต้ย
นิค-วิชญบูล ลี้สุวรรณ รับบทเป็น กวินทร์
อั๊ส-ชนัญญา ตั้งบุญจิตร รับบทเป็น แพรดาว
ปาล์ม-ธีวรา ภาวะพรหม รับบทเป็น ทราย
อภิชาติ หาลำเจียก รับบทเป็น พจน์
รอง เค้ามูลคดี รับบทเป็น ทินกร
อรสา พรหมประทาน รับบทเป็น เพ็ญ
เจี๊ยบ เชิญยิ้ม รับบทเป็น ปี๊ด
สีหนุ่ม เชิญยิ้ม รับบทเป็น พ่อเต้ย
ศิรินุช เพ็ชรอุไร รับบทเป็น แม่เต้ย
คาแรคเตอร์ตัวละคร
ทักษ์ รับบทโดย อนุชิต สพันธุ์พงษ์
เป็นผู้ชายสู้ชีวิต หวังสูง มีวิสัยทัศน์ คิดว่าพรุ่งนี้ชีวิตจะต้องดีกว่านี้ ฉลาดในเรื่องของการทำมาหากิน แต่ไม่ฉลาดในเรื่องของหัวใจ มักจะมองข้ามความรู้สึกของคนอื่นและความรู้สึกแท้จริงของตัวเอง เป็นคนพูดจาตรงไปตรงมาจนบางครั้งเหมือนกวนประสาท
ฝ้ายแก้ว รับบทโดย อคัมย์สิริ สุวรรณศุข
เป็นสาวแก่นเซี้ยว ไม่มีจริตเหมือนหญิงสาวทั่วไป คิดยังไงพูดยังงั้น ปากร้ายแต่ใจดี ทำเป็นเก่ง แต่ที่จริงโก๊ะๆ ซุ่มซ่าม
เต้ย รับบทโดย พงษ์สิรี บรรลือวงศ์
เป็นคนอบอุ่น น่ารัก ใจดี เพราะความที่ได้รับมาจากครอบครัวเต็มที่ จึงเป็นคนที่พร้อมที่จะให้คนอื่นได้ตลอดเวลา พูดมาก (จนบางครั้งมากเกินไป)
กวินทร์ รับบทโดย วิชญบูล ลี้สุวรรณ (นิค พิธีกรรายการโอไอซี)
เป็นผู้ชายหน้าตาดี ฐานะร่ำรวย รักแรง เกลียดแรง พอโกรธขึ้นมาจะควบคุมตัวเองไม่ได้ ใช้ความรุนแรงในการตัดสินปัญหา เพราะถูกเลี้ยงดูมาแบบตามใจ มั่นใจในเสน่ห์ของตัวเอง ทำให้มีผู้หญิงเข้ามาพัวพันตลอดเวลา)
แพรดาว รับบทโดย ชนัญญา ตั้งบุญจิตร (อั๊ส เดอะสตาร์)
เป็นสาวสวย รวย ฉลาด และรู้จักที่จะวางตัว มีชีวิตที่สดใส ไม่ได้เป็นคนร้ายกาจอะไร แต่ด้วยความที่เป็นคนที่เชื่อมั่นตัวเอง คือคิดทุกอย่างจากตัวเองเป็นหลัก ทำให้ไม่ค่อยเข้าใจความรู้สึกของคนอื่น
ทราย รับบทโดย ธีวรา ภาวะพรหม (ปาล์ม เดอะสตาร์)
เป็นน้องสาวคนเดียวของทักษ์ ค่อนข้างขี้อาย ไม่มีความมั่นใจ ชอบอยู่กับโลกแห่งความฝัน ชอบโรแมนติค รักใครก็รักหมดใจ ไม่คิดเผื่อใจไว้กับความผิดหวัง เพราะความรักก็คือทั้งหมดของชีวิตเธอ
เรื่องย่อ
ฝ้ายแก้ว (อคัมย์สิริ สุวรรณสุข) เด็กสาวจากเพชรบุรีตัดสินใจเข้ามาเรียนต่อในกรุงเทพ โดยมาอาศัยอยู่กับทักษ์ (อนุชิต สพันธุ์พงษ์) ลูกชายของทินกร (รอง เค้ามูลคดี) พ่อหม้ายลูกติดที่มาแต่งงานกับฝนพี่สาวของฝ้าย ทำให้ฝ้ายมีศักดิ์เป็นน้าของทักษ์ทั้งที่ทั้งคู่ต่างมีอายุเท่ากัน
ด้วยความที่ฝ้ายเป็นคนช่างพูดและชอบเจ้ากี้เจ้าการไปในทุกๆ เรื่อง ทำให้ผู้ชายที่ทำทุกอย่างด้วยตัวคนเดียวมาตลอดอย่างทักษ์รำคาญในบางครั้ง ทั้งสองคนมักจะทะเลาะกันบ่อยๆ ฝ้ายยังคอยดูแลอาหารการกินของทักษ์กับทราย (ธีวรา ภาวะพรหม) น้องสาว และยังช่วยทักษ์ขายเสื้อผ้าที่แผงข้างถนนด้วย
ทักษ์เรียนและทำงานควบคู่กันไปด้วย เพื่อส่งเสียน้องสาวคนเดียวคือทรายให้ได้เรียนในมหาวิทยาลัยเอกชน ทรายเป็นเด็กขี้อายและไม่มั่นใจ เธอมีความลับในใจก็คือ การแอบหลงรักกวินทร์ (วิชญบูล ลี้สุวรรณ) หรือวินรุ่นพี่หนุ่มสุดฮอต ซึ่งทรายทำได้แค่เพียงแอบมองวินเท่านั้นเพราะวินมักจะมีสาวๆ รุมล้อมตลอดเวลา แต่ผู้หญิงที่วินยอมรับว่าเป็นแฟนก็คือ แพรดาว (ชนัญญา ตั้งบุญจิตร) สาวสวยดาวมหาวิทยาลัยคนเดียวเท่านั้น
วันหนึ่งแพรทะเลาะกับวินเรื่องความเจ้าชู้ เธอขับรถหนีออกมา จนมาน้ำมันหมดอยู่กลางซอยเปลี่ยวแห่งหนึ่ง โชคดีที่เจอทักษ์เข้าโดยบังเอิญ ทักษ์เข้ามาช่วยเหลือแพรนั่นเป็นความประทับใจแรกที่ทำให้แพรมาซื้อเสื้อที่แผงของทักษ์เป็นการตอบแทน ปี๊ด (เจี๊ยบ เชิญยิ้ม) เพื่อนแผงข้างๆ ล้อทักษ์ ทักษ์เองก็มีท่าทีว่าชอบแพรอยู่เหมือนกัน ทั้ง 2 จึงไปมาหาสู่กันอยู่บ่อยๆ จนฝ้ายนึกหมั่นไส้
หลังจากนั้นความสัมพันธ์ของแพรกับวินก็เริ่มแย่ลงเรื่อยๆ วินเริ่มสงสัยว่าแพรมีผู้ชายคนใหม่ จนมาวันหนึ่งทรายเกิดอุบัติเหตุ วินสงสารเลยพาทรายไปทำแผลที่โรงพยาบาลและยังมาส่งทรายชื่อซอยบ้าน เลยทำให้วินเห็นแพรขับรถสวนออกมาจากในซอย วินสงสัยเลยขอให้ทรายช่วยสืบว่าแพรมาหาใครในซอยนี้ ทรายสืบจนรู้ว่าที่แท้แพรมาหาและคบกับทักษ์อยู่ แต่ทรายไม่กล้าบอกวินเพราะกลัวมีเรื่อง
ด้านฝ้ายก็โกรธที่ทักษ์ผิดนักกับเธอแล้วไปทานข้าวกับแพร เธอจึงไปปรึกษากับเต้ย (พงษ์สิรี บรรลือวงศ์) เพื่อนอัธยาศัยดีที่อยู่มหาวิทยาลัยเดียวกัน เต้ยพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ฝ้ายรู้สึกดี เพราะเต้ยเองก็แอบชอบฝ้ายอยู่เช่นกัน
ทักษ์และแพรตกลงที่จะคบกัน แพรมาช่วยทักษ์ขายเสื้อที่แผง ฝ้ายรู้สึกว่าที่ที่เคยเป็นของเธอ ตอนนี้ได้กลายเป็นของคนอื่นไปเสียแล้ว คนเดียวที่ฝ้ายระบายด้วยได้ก็คือ เต้ยนั่นเอง
วินแค้นทักษ์เรื่องแพร จึงเข้ามาใกล้ชิดทราย ฝ้ายรู้เรื่องเข้า พยายามเตือน แต่ทรายซึ่งหลงรักวินมาตลอด ไม่ยอมเชื่อและขอให้ฝ้ายสัญญาว่าจะไม่บอกเรื่องนี้กับทักษ์โดยเด็ดขาด ใกล้จะถึงวันเกิดแพร วินรู้ว่าแพรจะชวนทักษ์ไปงานวันเกิดที่บ้านด้วย เพื่อแนะนำทักษ์ให้พจน์ (อภิชาต หาลำเจียก) และเพ็ญ (อรสา พรหมประทาน) คุณพ่อคุณแม่ของเธอรู้จัก วินจึงชวนทรายไปด้วย โดยที่ทรายไม่รู้ว่า เธอจะกลายเป็นเครื่องมือที่วินใช้ยั่วทักษ์
วินหลอกให้ทรายมาเปลี่ยนเสื้อผ้าที่โรงแรม ก่อนที่จะพาไปงานวันเกิดเพื่อน แล้วแอบโทรศัพท์ไปบอกทักษ์ว่าทรายอยู่กับตนที่โรงแรมเพื่อปั่นหัว ทักษ์อึ้งเมื่อมาเห็นทรายอยู่ในสภาพที่ไม่น่าดู จึงรีบจัดการให้ทรายใส่เสื้อผ้า แล้วรีบพาเธอกลับบ้านทันที ทักษ์พบวินที่งานวันเกิดของแพร จึงตรงเข้าไปชกหน้าวินทันที แพรเสียใจที่ทักษ์ทำลายงานวันเกิดของเธอ วินสะใจที่ยั่วโมโหทักษ์สำเร็จ มิหนำซ้ำยังทำให้พ่อแม่ของแพรมองทักษ์ในแง่ร้าย
ทักษ์กลับบ้านและบังคับให้ทรายเลิกคบกับวิน ทรายไม่ยอมเลิก สองพี่น้องทะเลาะกันถึงขั้นแตกหัก ทรายขนเสื้อผ้าหนีออกจากบ้าน แต่ไม่มีที่ไป วินเห็นแก่ทรายที่เคยเป็นพยานปากเอกช่วยพูดกับตำรวจให้เขาพ้นข้อกล่าวหาตอนที่ขับรถชนคนตาย วินเลยจำใจให้ทรายอาศัยอยู่ในคอนโดของตนเอง
ด้านแพรกลับมาหาทักษ์เพื่อขอโทษ และบอกว่าที่ผ่านมาเป็นเพราะเธอยายามจะให้ทักษ์เป็นอย่างที่เธอต้องการ ต่อไปนี้เธอจะเป็นฝ่ายพยายามปรับตัวเข้าหาทักษ์ แม้ในใจทักษ์จะรู้ว่าเขาไม่ได้รู้สึกกับแพรเท่าเดิม แต่ก็ใจอ่อน ยอมที่จะกลับมาคบหากับแพรอีกครั้ง
ฝ้ายไม่เห็นด้วยและพยายามพูดให้ทักษ์ตัดใจจากแพร ทักษ์ไม่พอใจที่ฝ้ายมีอคติกับแพร ฝ้ายเสียใจมาก จึงตัดสินใจย้ายออกจากบ้านของทักษ์ โดยที่มีเต้ยคอยช่วยเหลือการที่ไม่มีฝ้ายอยู่ ทำให้ทักษ์ยิ่งรู้ว่าฝ้ายสำคัญกับเขามากแค่ไหน
ขณะเดียวกันเต้ยเองก็รู้ว่าการที่ฝ้ายห่างจากทักษ์ ไม่ทำให้ฝ้ายลืมทักษ์ได้เลย เต้ยคิดจะหลีกทางให้โดยการตัดสินใจไปรับทุนเรียนต่อที่ต่างประเทศ
เมื่อทักษ์กับแพรกลับมาคบกันอีกครั้ง ความสัมพันธ์ของคนทั้ง 2 ในครั้งนี้จะยาวนานหรือไม่ ด้านเต้ยจะยอมทิ้งฝ้ายไปเรียนต่อเพื่อหลีกทางให้เธอกลับไปหาทักษ์ตามที่ตัวเองคิดไว้จริงๆ หรือเปล่า แล้วทรายจะสมหวังในรักที่วินไม่เคยเหลียวแลเลยหรือไม่ เรื่องราวความรักของคนทั้ง 6 จะลงเอยในรูปแบบไหน? ติดตามชมใน "พรุ่งนี้ไม่สาย...ที่จะรักกัน" ทางททบ.5 เวลา 2 ทุ่ม 15 นาที ทุกวันจันทร์-วันอังคาร เริ่ม 26 กรกฎาคมนี้--จบ--