กรุงเทพฯ--22 พ.ค.--กทม.
ทั้งนี้ผู้ว่าฯกทม. มีเป้าหมายที่จะขยายโครงการรวบรวมน้ำมันเหลือใช้จากครัวเรือนของประชาชนมากลั่นเป็นไบโอดีเซลให้ครบทั้ง 50 เขตทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ โดยเร็ว หลังจากที่ได้เริ่มต้นโครงการนำร่องไว้แล้วในพื้นที่เขตพระโขนง โดยร่วมกับปั๊มน้ำมันบางจากรับซื้อน้ำมันที่ประชาชนเหลือใช้จากการปรุงอาหาร แทนที่จะทิ้งลงไปในท่อระบายน้ำซึ่งจะส่งผลต่อไขมันอุดตันการระบายน้ำ หรือนำกลับไปทอดอาหารซึ่งเป็นผลเสียต่อสุขภาพ สำหรับช่องทางที่คิดว่าจะเข้าถึงได้ง่ายคือ ตั้งจุดรับซื้อหรือรับแลก เพิ่มขึ้นในโรงเรียน 435 โรงเรียน เพื่อให้เด็กนักเรียนกทม. และครัวเรือนกว่า 2 ล้านหลังคาเรือนในกรุงเทพฯ นำน้ำมันที่ใช้แล้วมาขาย หรือแลกเป็นสิ่งของ อันจะเป็นการปลูกฝังเด็ก เยาวชนให้ตระหนักในปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เชื่อมโยงไปถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศและภาวะโลกร้อนไปพร้อมกัน โดยโครงการนี้ได้รับความสนใจจากผู้แทนเมืองอื่นๆ ที่เข้าร่วมประชุมซึ่งประสบปัญหาเดียวกันด้วย
ขณะเดียวกันสิ่งที่กทม. จะต้องทำให้เห็นผลคือ การเร่งผลักดันให้เกิดการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนที่เพียงพอ ซึ่งหมายถึง ระบบขนส่งมวลชน ทางจักรยาน ทางเดินเท้า จุดจอดรถจะต้องมีความพร้อมรองรับและจูงใจให้ประชาชนอยากจอดรถส่วนตัวมาใช้ขนส่งสาธารณะ ปั่นจักรยาน หรือแม้กระทั่งการเดินเท้า เช่นเดียวกับที่เมืองใหญ่หลายๆ เมืองได้ทำประสบความสำเร็จมาแล้ว ซึ่งโครงการรถเมล์ด่วนพิเศษ Bangkok BRT สายแรกราชพฤกษ์-ช่องนนทรี ที่กทม. กำลังก่อสร้างระบบอยู่ก็เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนที่จะทำให้ประชาชนมีทางเลือกเพิ่มมากขึ้น