กรุงเทพฯ--8 มี.ค.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
SME BANK ได้รับการประกาศยืนยันอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ที่ระดับ AA- หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงการได้รับการสนับสนุนทางการเงินที่แข็งแกร่งจากกระทรวงการคลัง ซึ่งในปีนี้จะเพิ่มทุนอีก 2,700 ล้านบาท และ SME BANK ยังมีบทบาทสำคัญในการเป็นผู้สนับสนุนหลักแก่ธุรกิจ SMEs ซึ่งเป็นปัจจัยในการสร้างความเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ
นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช ประธานกรรมการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME BANK) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้ประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันของ SME BANK ที่ระดับ AA- ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงสถานภาพของ SME BANK ในฐานะที่เป็นหนึ่งในธนาคารเชิงนโยบายที่สำคัญที่ช่วยกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจ โดยผ่านการให้เงินทุนระยะยาวแก่ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม แนวโน้มอันดับเครดิตอยู่บนพื้นฐานการคาดการณ์ในระยะปานกลางว่าคณะกรรมการและผู้บริหารชุดใหม่ของธนาคารจะสามารถพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงาน และสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่มีการกำกับดูแลที่ดีเพื่อควบคุมความเสียหายอันเกิดจากการดำเนินงานภายใน แนวโน้มอันดับเครดิตยังสะท้อนถึงความคาดหวังว่าความสัมพันธ์ของธนาคารกับรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการสนับสนุนทางการเงินในรูปของการให้ทุนและเงินชดเชยจากรัฐบาลจะไม่เปลี่ยนแปลงในอนาคต และจากการที่ SME BANK ได้รับการเพิ่มทุนจำนวน 2,500 ล้านบาท ในเดือนตุลาคม 2548 และการที่กระทรวงการคลังมีความตั้งใจที่จะเพิ่มทุนอีกจำนวน 2,700 ล้านบาท ให้แก่ธนาคารในปี 2550 นี้ เป็นสิ่งยืนยันให้เห็นถึงการสนับสนุนทางการเงินอย่างเต็มที่ของรัฐบาลที่มีต่อธนาคารเพื่อสนับสนุนนโยบายการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการ SMEs
“ อันดับเครดิตในระดับ AA- เป็นระดับเท่าเดิมเช่นเดียวกับปี 2548 ที่ผ่านมา โดยทริสให้เหตุผลว่าอันดับเครดิตดังกล่าว สะท้อนถึงการสนับสนุนทางการเงินที่แข็งแกร่งที่ธนาคารได้รับจากรัฐบาลผ่านทางกระทรวงการคลังในฐานะที่ธนาคารมีบทบาทสำคัญในการเป็นผู้ให้การสนับสนุนหลักแก่ธุรกิจ SMEs ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สร้างความเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ แม้ผลประกอบการของธนาคารจะไม่เป็นตามที่คาดการณ์ไว้ แต่อันดับเครดิตของธนาคารยังคงอยู่ในระดับเดิมจากการสนับสนุนที่แข็งแกร่งของรัฐบาล ซึ่งธนาคารมีความพยายามที่ชัดเจนยิ่งขึ้นที่จะพัฒนากรอบแนวทางของระบบบริหารความเสี่ยงและแก้ปัญหาคุณภาพสินทรัพย์อย่างจริงจังในปี 2548 ”
นายจักรมณฑ์ กล่าวต่ออีกว่า ทริส มองถึงความท้าทายของ SME BANK ในการก้าวไปข้างหน้า คือ การรักษาสมดุลระหว่างภารกิจในการสนับสนุนกลุ่มธุรกิจ SMEs ในฐานะที่เป็นหน่วยงานเชิงนโยบายของรัฐบาลและความพยายามในการปรับปรุงผลและประสิทธิภาพการดำเนินงานด้วยการปฏิบัติตามระบบบริหารความเสี่ยงที่มีมาตรฐานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ความสำเร็จดังกล่าวคาดว่าจะช่วยให้ธนาคารสามารถดำรงสถานภาพเชิงกลยุทธ์เอาไว้ได้ แม้ในภาวะที่มีการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมทางการเมืองในอนาคต
ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ ฝ่ายสื่อสารองค์กร SME BANK โทร.02-684-6001-4