กรุงเทพฯ--4 พ.ค.--ตลท.
ท่าน ว.วชิรเมธี เสวนาพิเศษ “สอนวาณิชให้เป็นเศรษฐี” ในโอกาสครบ 35 ปีตลาดหลักทรัพย์ฯ ระบุผู้มีทรัพย์ต้องรู้จักแบ่งปันช่วยเหลือสังคม
ตลาดหลักทรัพย์ฯ เชิญท่าน ว.วชิรเมธี เสวนาพิเศษ “สอนวาณิชให้เป็นเศรษฐี” ในโอกาสครบ 35 ปี ให้แนวคิดผู้มีเงิน หรือวาณิช ต้องเป็นเศรษฐีซึ่งหมายถึงผู้ประเสริฐ ที่รู้จักแบ่งปัน ระบุธรรมะกับการลงทุนเป็นเรื่องคู่กันเพราะต้องใช้ทั้งสติและปัญญา พร้อมเสนอคนไทยใช้พลังสติช่วยบ้านเมือง
ท่านพระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว.วชิรเมธี) ผู้อำนวยการสถาบันวิมุตตยาลัย ได้ให้เกียรติเสวนาพิเศษ “สอนวาณิชให้เป็นเศรษฐี” ในโอกาสครบรอบ 35 ปี ตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันศุกร์ที่ 30 เมษายน 2553 โดยมีนางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และนายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ร่วมเสวนาในช่วงปุจฉา วิสัชนา
เนื้อหาการเสวนาเน้นให้ความหมายที่แท้จริงของคำว่า “เศรษฐี” ซึ่งหมายถึงการเป็นผู้ประเสริฐ เพราะถึงแม้เป็นผู้ที่มีทรัพย์มากหรือที่เรียกว่า “วาณิช” แล้ว ก็ต้องมีแบ่งปันแก่ผู้อื่นแก่สังคม ต้องรู้จักเปลี่ยนเงินเป็นบุญ เปลี่ยนทุนเป็นธรรม ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งปันทรัพย์สินเงินทอง ทรัพยากร หรือการแบ่งปันโอกาส ให้กระจายไปในวงกว้าง ถ้าวาณิชกลายเป็นเศรษฐี ก็จะช่วยให้สังคมได้ประโยชน์อย่างมาก
“ธรรมะกับการลงทุนเป็นเรื่องที่ควบคู่ไปด้วยกัน เนื่องจากในการลงทุนต้องใช้ทั้งสติและปัญญา พร้อมทั้งการมีวินัยในตัวเองจึงจะประสบความสำเร็จ ด้านธุรกิจก็ต้องดำเนินงานด้วยหลักธรรมาภิบาล และสร้างเครือข่ายคนดีที่ไว้ใจได้” ท่านพระมหาวุฒิชัย วชิรเมธีกล่าว “ในการลงทุนหากมุ่งแต่กำไรสูงสุด แล้วสังคมอยู่ไม่ได้ เราซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในสังคมก็อยู่ไม่ได้เช่นกัน ดังนั้น นักลงทุนต้องมีมิติของสังคมที่มากกว่า CSR เป็นปรัชญาในการดำเนินชีวิต เพราะเมื่อเราได้จากสังคม ก็ควรให้แก่สังคมกลับด้วย เรียกว่ามีจิตสำนึกสาธารณะ พร้อมทั้งฝาก 3 แนวคิด คือ 1. เปลี่ยนตนเองจากวาณิชให้เป็นเศรษฐี คือรู้จักเปลี่ยนเงินให้เป็นประโยชน์สาธารณะ 2. เปลี่ยนเงินเป็นบุญ เปลี่ยนทุนเป็นธรรม และ 3. ต้องรู้จักฝากชื่อเสียงเรียงนามเอาไว้ในโลก ให้เพื่อนมนุษย์ระลึกถึงคุณความดี”
นอกจากนี้ ท่านว.วชิรเมธียังให้ความเห็นว่า ในสถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้ ประชาชนควรใช้พลังสติเพื่อรักษาบ้านเมือง และเห็นว่าพลังเงียบไม่ได้หมายความว่าเป็นพลังที่เฉยเมย แต่ผู้ที่ติดตามข่าวสารและคิดหาวิธีแก้ปัญหา ถึงแม้ไม่ได้แสดงบทบาททางสังคม ก็ถือว่าได้มีการแสดงพลังในแบบของเขา นอกจากนี้ ขอให้มีการให้สติและปัญญาเป็นทาน ไม่อคติ ไม่ลำเอียง แสวงหาข้อมูลให้ครบรอบด้าน และเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมเพื่อทางออกที่ดีของบ้านเมือง
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ กล่าวในการเสวนาว่า “ตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่ได้ห่างไกลจากเรื่องธรรมะและสติ สำหรับการลงทุน ผู้ลงทุนสามารถใช้หลักพอเพียงในการเลือกลงทุน คือหลักเหตุผล ลงทุนโดยมีข้อมูลความรู้และรู้จักความเสี่ยง หาให้เป็น ออมให้เป็น ลงทุนให้เป็น และใช้ให้เป็น โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้แบ่งปันแก่สังคมมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยการให้ทุนทางปัญญา เน้นส่งเสริมการศึกษาและการเรียนรู้สำหรับเยาวชน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันในอนาคต และการสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งแก่สังคม”
นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “หลักที่คล้ายคลึงกันในหลายศาสนาคือเรื่องของความรักและการแบ่งปัน การแบ่งปันจะสร้างคุณค่าในชีวิต โดยความรวยไม่ได้แปลว่ามีความสุข หากมีความรักและพร้อมทำทานได้อย่างเต็มใจ ก็สามารถสร้างสุขได้โดยไม่จำเป็นต้องรวย”
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. S-E-T Call Center 0-2229-2222
ติดต่อส่วนประชาสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0-2229—2036 / กนกวรรณ เข็มมาลัย โทร. 0-2229—2048 / ณัฐยา เมืองแมน โทร. 0-2229-2043