กรุงเทพฯ--17 ก.ค.--กทม.
สมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ ทุ่ม 20 ล้าน ติดตั้งกล้อง CCTV ย่านราชประสงค์ แหล่งท่องเที่ยวและช้อปปิ้งใจกลางกรุง สร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินคนกรุงเทพฯ และนักท่องเที่ยว พร้อมจับมือลงนามกับกรุงเทพมหานคร เดินหน้างานต่อเนื่อง เพื่อยกระดับความปลอดภัยเข้มทัดเทียมสากล
16.00 น. (17 ก.ค.50) โรงแรมอินเตอร์ คอนติเน็นตัล กรุงเทพฯ / นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงนามบันทึกข้อตกลงโครงการพัฒนาระบบความปลอดภัย บริเวณพื้นที่โครงการ Shopping Street ระยะที่ 1 ร่วมกับสมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ ด้วยงบลงทุนกว่า 20 ล้านบาท ติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ในบริเวณพื้นที่สาธารณะ ทางเท้า และสะพานเชื่อมต่อจากสถานีรถไฟฟ้าไปยังอาคารต่างๆ ในย่านราชประสงค์ตลอดพื้นที่โครงการ บนถนนราชดำริ ถนนเพลินจิต ถนนพระรามที่ 1 พร้อมทั้งเชื่อมโยงโครงข่ายให้ครอบคลุมทั่วทั้งบริเวณ ซึ่งเป็นพื้นที่ใจกลางย่านธุรกิจการค้า และการท่องเที่ยว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของระบบเฝ้าระวังและตรวจตราการรักษาความปลอดภัย อย่างมีประสิทธิภาพเทียบเท่าระดับสากล เป็นการยกระดับการให้บริการ และส่งผลให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองที่น่าอยู่อย่างยั่งยืน
นายชาย ศรีวิกรม์ นายกสมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ กล่าวว่า โครงการพัฒนาระบบความปลอดภัยในย่านราชประสงค์ โดยการติดตั้งกล้อง CCTV มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท เกิดขึ้นจากความร่วมมือของสมาชิกสมาคมฯ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนนโยบายของกรุงเทพมหานคร ด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม อีกทั้งสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ใช้บริการ ตลอดจนนักท่องเที่ยวในย่านช้อปปิ้งราชประสงค์แห่งนี้ โดย กรุงเทพมหานครจะดำเนินการนำสิ่งกีดขวางออกจากพื้นที่ทางเท้าสาธารณะ เพื่อให้สมาคมฯ ดำเนินการติดตั้งระบบกล้อง CCTV ให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน พร้อมเชื่อมโยงโครงข่ายระบบมาตรฐานครอบคลุมพื้นที่โครงการกว่า 1 ล้านตารางกิโลเมตร และเชื่อมโยงสั??าณภาพไปยังศูนย์บั?ชาการกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 เพื่อการติดตามและเฝ้าระวังเหตุอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังรวมถึงการออกแบบและวางระบบอุปกรณ์รองรับการเชื่อมโยงโครงข่ายในอนาคต จากนั้นจึงจะจัดระเบียบและปรับปรุงซ่อมแซมพื้นที่ทางสาธารณะให้เรียบร้อย ขณะเดียวกันกรุงเทพมหานครได้จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก พร้อมดูแลรักษาความสะอาดและความปลอดภัยให้กับย่านราชประสงค์ ตลอด 24 ชั่วโมงด้วย
ด้านผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวแสดงความชื่นชมและขอบคุณสมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ ในการร่วมมือกันเป็นเครือข่ายอย่างเข้มแข็ง สมานฉันท์ และเป็นกำลังสำคั?ในการสนับสนุนนโยบายของกรุงเทพมหานคร ด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่สถานการณ์บ้านเมืองอยู่ในภาวะไม่ปกติ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของระบบการเฝ้าระวัง และตรวจตราการรักษาความปลอดภัยแก่ผู้ใช้บริการย่านราชประสงค์ ซึ่งเป็นพื้นที่ใจกลางย่านธุรกิจการค้า และการท่องเที่ยว ให้มีประสิทธิภาพเทียบเท่าระดับสากล เป็นการยกระดับการให้บริการ ส่งผลให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองน่าอยู่อย่างยั่งยืน
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวด้วยว่า ในส่วนของกรุงเทพมหานคร ได้เดินหน้ามาตรการความปลอดภัยในทุกด้านอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง รวมถึงการติดตั้งกล้อง CCTV ในพื้นที่ชั้นใน ชั้นนอก และสถานที่สำคั? รวมถึงสะพาน ทางแยก และที่ชุมนุมคน รวมกว่า 1,370 จุด ซึ่งเป็นมาตรการส่วนหนึ่งที่จะดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ครอบคลุมด้านความมั่นคง การแก้ไขปั?หาจราจร ตลอดจนการจัดระเบียบสังคมและเมืองไปพร้อมกัน นอกจากนี้ยังได้ประสานภาคเอกชนในการติดตั้งพื้นที่รับผิดชอบของตนเอง อาทิ รถไฟฟ้าบีทีเอส รถไฟฟ้ามหานคร และห้างสรรพสินค้า เช่นเดียวกับย่านราชประสงค์แห่งนี้ เพื่อย้ำความมั่นใจแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว อีกทั้งได้ประสานความร่วมมือทั้งในส่วนของกรุงเทพมหานคร ทหาร ตำรวจ อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน และเครือข่ายพลังมวลชน ในการจัดเจ้าหน้าที่ตรวจร่วม เพื่อการรักษาความสงบเรียบร้อย รวมถึงจัดทำแผนรักษาความปลอดภัย และให้การช่วยเหลือประชาชนเมื่อมีเหตุฉุกเฉินเร่งด่วนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ภายใต้การกำกับดูแลของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในกรุงเทพมหานคร หรือ กอ.รมน.กทม. ซึ่งปฏิบัติงานป้องกันและแก้ไขด้านความมั่นคง ไม่ว่าจะเป็นภัยจากการก่อการร้าย การก่อวินาศกรรม ภัยจากธรรมชาติ รวมทั้งอุบัติภัยและสาธารณภัยต่างๆ โดยมีศูนย์อำนวยการ ตั้งอยู่ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร พร้อมเจ้าหน้าที่เวรประจำศูนย์ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อร่วมกันสร้างกรุงเทพฯ ของเรา ให้เป็นเมืองที่ปลอดภัย น่าท่องเที่ยว และน่าอยู่อย่างยั่งยืนนำไปสู่ความเป็น "กรุงเทพฯ เมืองสวรรค์" ตามพระราชดำรัสในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวต่อไป