กรุงเทพฯ--4 พ.ค.--มหาวิทยาลัยรังสิต
คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจเพื่อการปฏิรูป
การคาดการณ์เศรษฐกิจไตรมาสสอง
ดร. อนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต และผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจเพื่อการปฏิรูป มหาวิทยาลัยรังสิต แถลงอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยในไตรมาสสอง ปี 2553 ได้รับผลกระทบจากวิกฤติการณ์ทางการเมืองอย่างรุนแรงและมีแนวโน้มว่าวิกฤตการณ์ดังกล่าวจะยืดเยื้อและซับซ้อนมากยิ่งขึ้น เนื่องจากกลุ่มต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งไม่ยึดถือแนวทางสมานฉันท์และผลประโยชน์ของชาติและราษฎรส่วนใหญ่อย่างแท้จริง
อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไตรมาสสองจะขยายตัวติดลบ (-0.5) - (-2)% ไตรมาสเทียบไตรมาส (ไตรมาสหนึ่งเทียบกับไตรมาสสอง QoQ) ขณะที่อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไตรมาสสองเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันเมื่อปีที่แล้วจะอยู่ที่ระดับ 0.5 — 1 % (YoY) หลังจากที่ไตรมาสแรกอาจมีอัตราการขยายตัวสูงถึง 8 — 9% (YoY)
สำหรับอัตราการขยายตัวทั้งปี (2553) นั้น ทางคณะเศรษฐศาสตร์และศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจเพื่อการปฏิรูปยังคงยืนยันการคาดการณ์เดิม โดยมองว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวได้ที่ระดับ 2.5-3.5% เท่านั้น ซึ่งเป็นระดับการเติบโตที่ ต่ำกว่าศักยภาพ และเป็นระดับที่สะท้อนการเสียโอกาสจากความรุ่งเรืองและการเติบโตอย่างสูงของเศรษฐกิจเอเชียรอบใหม่ หากสังคมไทยไม่สามารถแก้ไขปัญหาวิกฤติการเมืองได้ และปล่อยให้ยืดเยื้อต่อไป คาดว่ามีความเป็นไปได้สูงที่เศรษฐกิจไทยอาจเผชิญกับภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจในปีหน้า และอาจเกิดวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจและวิกฤติการณ์การคลังได้ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า
หากสถานการณ์วิกฤตการณ์การเมืองยืดเยื้อจะทำให้ประเทศไทยถูกลดอันดับเครดิตความน่าเชื่อถือ ซึ่งจะทำให้ต้นทุนทางการเงินเพิ่มสูงขึ้น
คณะเศรษฐศาสตร์
มหาวิทยาลัยรังสิต