กรุงเทพฯ--6 พ.ค.--กองประชาสัมพันธ์ กทม.
ออกพันธบัตร กทม. คืบ ปิดงบปี 48-50 แล้ว อีก 2 เดือนสามารถปิด 51-52 ได้ ทั้งมีทรัพย์สินรวมกว่าแสนล้านบาท ระดับเครดิตองค์กร AA+ ไม่น่ามีปัญหาออกพันธบัตร คาดสามารถออกขายได้ปี 54 แต่ระหว่างนี้ได้หารือ ธ.ออมสิน ขอกู้เงิน 2 หมื่นล้านพัฒนาโครงการสาธารณูปการ โดยเฉพาะระบบขนส่งมวลชน ผ่าน บ.กรุงเทพธนาคม คาดนำเงินกู้ออกใช้ได้เดือน ก.ค. ปีนี้
ดร.ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการออกพันธบัตร กทม. ว่า ขณะนี้กทม, ได้เร่งจัดทำงบการเงินให้เสร็จทันตามกรอบระยะเวลา โดยสามารถปิดงบการเงินปี 2548 และนำเข้าสภากทม. แล้ว ล่าสุดได้ปิดงบปี 2549-2550 แล้วกำลังรอนำเข้าสภากทม. ในเดือน มิ.ย. นี้ ส่วนงบปี 2551-2552 คาดว่าจะสามารถปิดงบได้ภายในสองเดือนนับจากนี้ ทั้งนี้กทม. ได้ตรวจสอบทรัพย์สินทั้งหมดพบว่ามีทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 104,891,991,900.97 บาท ซึ่ง บริษัท TRIS ได้จัดอันดับเครดิตองค์กรให้กทม. ในระดับ AA+ และยังคงแนวโน้มอันดับเครดิตในระดับเสถียร (Stable) จึงเป็นผลให้มีการคาดการณ์ว่า กทม. จะสามารถออกพันธบัตรได้ภายในปี 2554
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวอีกว่า หากรอการออกพันธบัตรอาจเกิดความล่าช้า กทม. จึงได้หารือกับผู้อำนวยการธนาคารออมสินเพื่อพิจารณาสินเชื่อให้แก่กรุงเทพมหานครผ่านบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด ซึ่งเป็นวิสาหกิจของกทม. ในกรอบวงเงิน 20,000 ล้านบาท นำมาพัฒนาระบบสาธาณูปโภค สาธารณูปการ โดยเบื้องต้นจะกู้มาลงทุนในระบบขนส่งมวลชน BTS BRT ติดตั้งกล้อง CCTV ระบบ Monorail ทางเดิมเชื่อม Sky Walk ซึ่งหากธนาคารออมสินพิจารณาในโครงการแล้วจะสามารถอนุมัติเงินกู้และเริ่มโครงการได้เลย ทั้งนี้ธนาคารออมสินจะให้กู้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นพิเศษ เนื่องจากอันดับเครดิตเงินคงคลังของกทม. อยู่ในสถานะที่ดี อีกทั้งกรรมการบริหารของบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด ก็ยังประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิน่าเชื่อถือจำนวนมาก ขณะเดียวกันกทม. ยังแสดงศักยภาพในการเปิดให้บริการ BTS และ BRT ได้ตรงตามกำหนด และที่สำคัญ คือ สภากรุงเทพมหานครได้ออกข้อบัญญัติฯ รองรับการมอบหมายภารกิจจากกทม. ให้บริษัทกรุงเทพธนาคมแล้ว
สำหรับขั้นตอนของการกู้เงินจากธนาคารออมสินนั้น เมื่อกำหนดโครงการที่จะขอกู้แล้ว จะนำเรื่องเข้าประชุมคณะผู้บริหารกทม. และนำเข้าสภาในการประชุมเดือน มิ.ย. และคาดว่าเดือน ก.ค. 53 จะสามารถนำเงินกู้มาใช้ได้