ทริสเรทติ้งเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ “บ. พฤกษา เรียลเอสเตท” เป็น “A” จาก “A-” และจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ใหม่ที่ “A” แนวโน้ม “Stable”

ข่าวเศรษฐกิจ Friday May 7, 2010 08:30 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--7 พ.ค.--ทริสเรทติ้ง บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันของ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เป็นระดับ “A” จากเดิมที่ระดับ “A-” พร้อมทั้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 2,500 ล้านบาทของบริษัทที่ระดับ “A” พร้อมแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตที่เพิ่มขึ้นสะท้อนถึงความสามารถของบริษัทในการสร้างผลประกอบการที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องและฐานะทางการเงินที่ปรับตัวดีขึ้น ทั้งนี้ ในการพิจารณาอันดับเครดิตยังคำนึงถึงสถานะความเป็นผู้นำในตลาดทาวน์เฮ้าส์ระดับราคาเฉลี่ยที่ 1 ล้านบาทต่อหลัง ตลอดจนผลงานที่เป็นที่ยอมรับในตลาดที่อยู่อาศัยระดับกลางถึงล่าง ความสามารถในการแข่งขันด้านต้นทุนค่าก่อสร้าง และนโยบายทางการเงินที่ระมัดระวังของบริษัท อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศที่ไม่แน่นอนและลักษณะของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นวงจรขึ้นลง แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงการคาดการณ์ว่าบริษัทจะยังคงสามารถรักษาผลประกอบการที่แข็งแกร่งเอาไว้ได้ในระยะปานกลาง และความสามารถในการทำกำไรของบริษัทควรอยู่ในระดับที่ยอมรับได้แม้การแข่งขันในตลาดที่อยู่อาศัยระดับเดียวกับของบริษัทจะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังคาดว่าบริษัทจะสามารถดำรงกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งและนโยบายทางการเงินที่ระมัดระวังเอาไว้ได้แม้จะยังคงขยายธุรกิจเชิงรุกต่อไป ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัทพฤกษา เรียลเอสเตท เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการพัฒนาที่อยู่อาศัยชั้นนำของประเทศซึ่งก่อตั้งในปี 2536 โดยนายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในเดือนธันวาคม 2548 ณ สิ้นเดือนธันวามคม 2552 กลุ่มตระกูลวิจิตรพงศ์พันธุ์ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทในสัดส่วน 77% ของหุ้นทั้งหมด บริษัทพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก โดย ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2553 บริษัทมีโครงการที่อยู่อาศัย 112 โครงการ ด้วยมูลค่าเหลือขายรวมทั้งสิ้น 27,510 ล้านบาท และมียอดขายที่รอรับรู้รายได้ประมาณ 17,000 ล้านบาท ที่อยู่อาศัยในโครงการของบริษัทมีหลากหลายประเภทซึ่งประกอบด้วยทาวน์เฮ้าส์ซึ่งคิดเป็น 43% ของมูลค่าโครงการทั้งหมด บ้านเดี่ยว 30% และคอนโดมิเนียม 27% แม้ว่าสัดส่วนรายได้จากทาวน์เฮ้าส์ในปี 2552 จะต่ำกว่าในอดีต แต่ก็ยังคงเป็นแหล่งรายได้หลักของบริษัทซึ่งคิดเป็น 51% ของรายได้รวม ในขณะที่รายได้จากบ้านเดี่ยวคิดเป็น 30% และจากคอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้นเป็น 19% ในปี 2552 ข้อได้เปรียบในด้านต้นทุนค่าก่อสร้างของบริษัทมาจากการใช้เทคโนโลยีชิ้นส่วนคอนกรีตเสริมเหล็กสำเร็จรูปและการบริหารจัดการงานก่อสร้างด้วยตนเอง ซึ่งทำให้บริษัทสามารถควบคุมต้นทุนและระยะเวลาการก่อสร้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังช่วยกำหนดราคาขายที่ได้เปรียบคู่แข่ง ยอดขายของบริษัทปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยในปี 2552 เพิ่มขึ้น 41% เป็น 22,775 ล้านบาทจาก 16,188 ล้านบาทในปี 2551 ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2553 บริษัทมียอดขายสูงถึง 8,587 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 4,045 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปี 2552 ยอดขายที่เพิ่มขึ้นสะท้อนถึงความสำเร็จในการเปิดตัวโครงการใหม่หลายโครงการ รายได้ของบริษัทในปี 2552 เพิ่มขึ้นถึง 46% เป็น 18,966 ล้านบาท จาก 12,969 ล้านบาทในปี 2551 ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับยอดขายที่ปรับตัวดีขึ้น การเติบโตของรายได้มีสาเหตุหลักมาจากการโอนโครงการคอนโดมิเนียมหลายโครงการในไตรมาสสุดท้ายของปี 2552 ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทปรับตัวดีขึ้น โดยบริษัทมีอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานที่ปรับปรุงแล้วที่ 25%-26% ในช่วงปี 2551-2552 เพิ่มขึ้นจาก 20% ในปี 2550 ซึ่งเป็นผลมาจากการประหยัดจากขนาดและมาตรการด้านภาษีของภาครัฐ แม้จะมีการขยายธุรกิจเพิ่มขึ้น แต่บริษัทยังคงมีกระแสเงินสดในระดับสูง โดยมีอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมที่ระดับ 193.40% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2552 โดยอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนก็ยังคงอยู่ในระดับต่ำที่ 13.89% ณ สิ้นปี 2552 ทริสเรทติ้งกล่าวว่าภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์สำหรับที่อยู่อาศัยในปีที่ผ่านมาค่อนข้างผันผวนซึ่งเป็นผลมาจากความไม่มีเสถียรภาพของการเมืองภายในประเทศและวิกฤติการณ์ทางการเงินทั่วโลก แม้ตลาดจะเริ่มฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2552 แต่ก็ยังถือว่าชะลอตัวอยู่และถูกครอบงำโดยผู้ประกอบการรายใหญ่มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านภาษีของรัฐบาลที่ส่วนใหญ่ได้สิ้นสุดลงในปี 2552 และที่เหลือซึ่งกำลังจะสิ้นสุดในปี 2553 นั้นทำให้ความต้องการที่อยู่อาศัยในปี 2553 ขึ้นอยู่กับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก โดยทริสเรทติ้งคาดว่าความต้องการที่อยู่อาศัยในปี 2553 จะค่อยๆ ฟื้นตัวตามการเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) (PS) อันดับเครดิตองค์กร: เพิ่มเป็น A จาก A- อันดับเครดิตตราสารหนี้: PS108A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 600 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2553 เพิ่มเป็น A จาก A- PS121A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2555 เพิ่มเป็น A จาก A- หุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 2,500 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2558 A แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable (คงที่)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ