ผลประเมิน FSAP เบื้องต้น ตลาดทุนไทยได้คะแนนระดับดี

ข่าวทั่วไป Thursday February 15, 2007 13:45 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--15 ก.พ.--ก.ล.ต.
คณะกรรมการ ก.ล.ต. รับทราบว่าธนาคารโลก (World Bank) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund : IMF) แจ้งผลการประเมินภายใต้โครงการ Financial Sector Assessment Program (FSAP) ในส่วนของตลาดทุนไทยได้คะแนนระดับดีเป็นส่วนใหญ่
ก.ล.ต. เตรียมหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปรับปรุงการดำเนินงานและผลักดันการแก้ไขกฎหมาย
ตามที่คณะผู้ประเมินแนะนำ
ตามที่ประเทศไทยได้เข้าร่วมประเมินภาคการเงินภายใต้โครงการ FSAP โดยเมื่อวันที่ 17 - 31 มกราคม 2550 คณะผู้ประเมินของธนาคารโลกและ IMF ได้เดินทางมายังประเทศไทย เพื่อทำการประเมินตลาดทุนตามหลักการขององค์กรกำกับดูแลตลาดทุนระหว่างประเทศ (IOSCO Principles)
และได้แจ้งผลเบื้องต้นว่า ตลาดทุนไทยได้รับผลการประเมินในระดับดี คือ นำหลักการส่วนใหญ่ของ IOSCO มาปฏิบัติโดยสมบูรณ์หรือปฏิบัติแล้วเป็นส่วนใหญ่ โดยในส่วนของการประเมินการปฏิบัติหน้าที่ของ ก.ล.ต. ในด้านสำคัญ ๆ ได้แก่ การดูแลการเปิดเผยข้อมูลของผู้ออกหลักทรัพย์และการตรวจสอบ (Inspection and surveillance) จัดได้ว่าได้ระดับมาตรฐาน นอกจากนี้ คณะทำงานยังเห็นด้วยกับนโยบายของ ก.ล.ต. ที่สนับสนุนให้หน่วยงานภาคเอกชนมีบทบาทในการพัฒนาตลาดทุน เช่น สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย และสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย เป็นต้น
ในการแจ้งผลการประเมินเบื้องต้นครั้งนี้ คณะผู้ประเมินได้แนะนำให้ภาคตลาดทุนของไทยดำเนินการปรับปรุงในบางเรื่อง ซึ่งมีเรื่องหลัก ๆ ดังนี้
1. ก.ล.ต. ยังขาดอำนาจที่จะจัดการกับทรัพย์สินของลูกค้าและของบริษัทหลักทรัพย์
ในกรณีที่บริษัทหลักทรัพย์ล้มละลาย เพื่อคุ้มครองทรัพย์สินของลูกค้าและระบบชำระราคาและ
ส่งมอบหลักทรัพย์ ซึ่งเรื่องนี้ ก.ล.ต. ได้เสนอแก้ไขกฎหมายไปแล้ว
2. หน่วยงานของรัฐยังไม่มีกลไกที่จะประสานงานอย่างเป็นทางการระหว่างกัน ที่จะทำให้ ก.ล.ต. ได้รับทราบถึงประเด็นนโยบายที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของหน่วยงานของรัฐอื่น ๆ ที่อาจมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อตลาดทุน และเพื่อให้ ก.ล.ต. สามารถให้ความเห็นก่อนที่จะมีการออกนโยบายต่าง ๆ ได้
3. ควรพัฒนากระบวนการที่จะทำให้ ก.ล.ต. ได้รับทราบล่วงหน้าจากหน่วยงานกำกับดูแลอื่น เกี่ยวกับปัญหาด้านฐานะของสถาบันการเงินที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานนั้น ที่อาจมีผลต่อระบบการกำกับดูแลตลาดทุน
4. หน่วยงานทางการต่าง ๆ ควรหาวิธีที่จะสนับสนุนด้านการเงินแก่สภาวิชาชีพบัญชีในฐานะที่ทำหน้าที่สำคัญในการออกและบังคับใช้มาตรฐานบัญชี ซึ่งปัจจุบันสภาวิชาชีพบัญชียังขาดบุคลากรและเงินทุน ที่จะมารองรับการทำหน้าที่ดังกล่าว
5. ควรเร่งแก้ไขกฎหมายเพื่อให้ ก.ล.ต. สามารถทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพในเรื่องต่างๆ เช่น การดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด การให้ความคุ้มครองสิทธิผู้ถือหุ้น อำนาจในการกำกับดูแลและตรวจสอบ เป็นต้น ซึ่งหลายเรื่อง ก.ล.ต. ได้เสนอแก้ไขกฎหมายไปแล้ว
ทั้งนี้ คณะทำงานจะเข้าประเมินครั้งต่อไปในเรื่องระบบชำระราคาและส่งมอบในช่วงเดือนพฤษภาคมปีนี้
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า “การตัดสินใจเข้ารับการประเมินตามโครงการ FSAP เมื่อปี 2547 ช่วยผลักดันให้ตลาดทุนไทยนำแนวปฏิบัติและมาตรฐานสากลมาปรับใช้อย่างเต็มที่
ในรูปแบบที่เหมาะสมกับสภาพของตลาดทุนไทย ผลการประเมินของ FSAP ทำให้ทุกฝ่ายในตลาดทุน ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานกำกับดูแลหรือผู้ประกอบธุรกิจ ได้เห็นถึงจุดแข็งและจุดอ่อนของตลาดทุนไทย เทียบกับมาตรฐานสากลและตลาดทุนของประเทศอื่น ๆ นอกจากนี้ ผลการประเมินยังเป็นตัวชี้วัดให้ผู้ลงทุนได้ทราบว่าตลาดทุนที่ตนกำลังลงทุนหรือคิดจะลงทุนนั้น มีความน่าเชื่อมั่นมากน้อยเพียงใด ซึ่งจากการที่ตลาดทุนไทยได้รับผลประเมินส่วนใหญ่อยู่ในระดับดี ก็เป็นสิ่งที่ช่วยเสริมความมั่นใจให้แก่ผู้ลงทุนว่า สินค้าในตลาดทุนไทยมีคุณภาพ ผู้ลงทุนได้รับบริการที่ดี ภายใต้กฎเกณฑ์ที่เป็นสากล”

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ