กรุงเทพฯ--11 พ.ค.--สำนักงานเลขานุการกองทัพเรือ
กองทัพเรือ เตรียมส่งมอบเรือหลวงนาคา ให้กับสมาคม National Association of USS LCS (L) 1 - 130 ในวันพุธที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๕๐ ณ ท่าเรือจุกเสม็ด การท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
กองทัพเรือได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงกลาโหม ให้ส่งมอบเรือหลวงนาคาให้กับ สมาคม National Association of USS LCS (L) 1 - 130 ตามความเห็นชอบของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อนำเรือไปเป็นเรือพิพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์ที่ Mare Island Naval Shipyard เมือง Vallejo มลรัฐ California ประเทศสหรัฐอเมริกา ภายใต้เงื่อนไขการคืนเรือจะกระทำในลักษณะตามสภาพที่เป็นอยู่ และ ณ ที่อยู่ปัจจุบัน โดยประเทศสหรัฐอเมริกาจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการดำเนินการทั้งหมด และยังคงชื่อ "H.T.M.S. NAKHA" และประวัติเรือไว้เพื่อเป็นเกียรติแก่ประเทศไทยและกองทัพเรือ อีกทั้งจะเป็นสัญลักษณ์แห่งความสัมพันธ์ทางทหารที่ดีระหว่างไทยกับสหรัฐอเมริกาต่อไป โดยจะมีการลงนามโอนสิทธิของเรือระหว่างกองทัพเรือ สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา และสมาคม
เรือหลวงนาคา เป็นเรือประเภท Landing Craft Support เดิมชื่อ LSSL-102 สร้างที่อู่ Commercial Iron Works เมือง Portland รัฐโอเรกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา วางกระดูกงูเมื่อวันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๔๘๘ ปล่อยเรือลงน้ำเมื่อปี ๒๔๘๘ หลังจากใช้ในตอนปลายสงครามโลกครั้งที่ ๒ แล้ว เมื่อสิ้นสงครามได้โอนให้ กองทัพเรือญี่ปุ่นใช้ชั่วคราว เมื่อประเทศญี่ปุ่นหมดความจำเป็นแล้ว สหรัฐอเมริกาจึงดัดแปลงซ่อมทำใหม่ เสร็จแล้วมอบให้แก่กองทัพเรือไทยตามโครงการช่วยเหลือทางทหาร โดยใช้เรือลากจูงมาส่งให้ที่ ฐานทัพเรือสัตหีบ กองทัพเรือได้รับมอบเรือหลวงนาคา เมื่อวันที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๐๙ ที่ ฐานทัพเรือสัตหีบ และได้กระทำพิธีรับมอบ และขึ้นระวางประจำการ เมื่อวันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๐๙ ณ ท่าราชวรดิฐ โดยมี พลเรือเอก จรูญ เฉลิมเตียรณ ผู้บัญชาการทหารเรือ ในขณะนั้น เป็นผู้รับมอบเรือและขึ้นระวางประจำการ สังกัดกองเรือยกพลขึ้นบก กองเรือยุทธการ นับจากวันขึ้นประจำการวันแรกจนถึงปัจจุบัน เรือหลวงนาคา เป็นเรือประจำการในกองทัพเรือมานานถึง ๔๐ ปี มีภารกิจหลักในการระดมยิงฝั่งและการยิงสนับสนุนระหว่างทำการยกพลขึ้นบก รวมทั้งใช้ในการป้องกันภัยทางอากาศ การปฏิบัติภารกิจดังกล่าว เรือลำนี้จึงได้รับการติดตั้งปืนขนาดต่าง ๆ เป็นจำนวนมากซึ่งทำให้ เรือหลวงนาคา เป็นเรือที่มีปืนมากที่สุดในกองทัพเรือจนได้รับฉายาว่า "เรือบรรทุกปืน" จนเมื่อวันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๔๙ กระทรวงกลาโหมจึงมีคำสั่งปลดออกจากระวางประจำการ
(ที่มา : บันทึก ยก.ทร.โทร.๕๔๗๙๗)