กรุงเทพฯ--8 ม.ค.--แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์
LPN เผยผลประกอบการปี 2549 กวาดยอดขายเกือบ 7 พันล้านบาท พร้อมส่งแบรนด์น้องใหม่ “ลุมพินี คอนโดทาวน์” ปลุกกระแสตลาดคอนโดปี 50 มุ่งสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งด้วยห้องชุดที่สมบูรณ์พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ชูจุดแข็งเรื่องการบริหารชุมชนเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้อยู่อาศัยแบบ มืออาชีพ และอัตราการผ่อนชำระเทียบเท่าการเช่าอยู่อาศัยเพียง 3,000 กว่าบาทต่อเดือน เตรียมประเดิมโครงการแรกแห่งปี ด้วย “ลุมพินี คอนโดทาวน์ รามคำแหง 43/1” คอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น 14 อาคาร มูลค่ากว่า 2,400 ล้านบาท พร้อมเปิดขายกลางเดือนกุมภาพันธ์นี้
นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (LPN) เปิดเผยถึงผลประกอบการปี 2549 ว่า บริษัทฯ สามารถสร้างยอดขายได้ทั้งสิ้น 3,667 ยูนิต คิดเป็นมูลค่ารวม 6,700 ล้านบาท และมีรายได้รวมประมาณ 5,000 ล้านบาท สูงกว่าปี 2548 ซึ่งมีรายได้รวม 3,600 ล้านบาท ถึง 40% โดยรายได้รวมของบริษัทที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นผลมาจากการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดพักอาศัยใน 4 โครงการ รวมประมาณ 3,152 ยูนิต คิดเป็นมูลค่ากว่า 4,700 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ สามารถส่งมอบห้องชุดให้แก่ลูกค้าได้ตามเป้าหมายในทุกโครงการ และจากจำนวนคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ ที่มีการจดทะเบียนในปี 2549 รวมทั้งสิ้นประมาณ 14,000 ยูนิต ส่งผลให้ LPN มีส่วนแบ่งทางการตลาดในธุรกิจคอนโดมิเนียมถึง 31%
โดยในปี 2549 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้พัฒนาโครงการอาคารชุดพักอาศัยทั้งสิ้น จำนวน 4 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 6,200 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นโครงการที่พัฒนาบนทำเลใหม่ 2 โครงการ คือ ลุมพินี เพลส รัชดา-ท่าพระ และ ลุมพินี วิลล์ รามคำแหง 44 และโครงการที่พัฒนาต่อเนื่อง จำนวน 2 โครงการ คือ ลุมพินี เพลส พหล-สะพานควาย ลุมพินี เพลส ปิ่นเกล้า 2 ซึ่งทุกโครงการของ LPN ล้วนประสบความสำเร็จอย่างสูง ด้วยราคาขายที่สอดรับกับความต้องการของตลาดโดยรวม
สำหรับแนวทางการดำเนินงานในปี 2550 นั้น บริษัทฯ มีแผนพัฒนาคอนโดมิเนียม จำนวน 5 โครงการ มูลค่ารวม 8,800 ล้านบาท และมีแผนการรับรู้รายได้มากกว่า 6,300 ล้านบาท จากยอดขายของ 3 โครงการที่การก่อสร้างจะเสร็จสมบูรณ์ คือ 1) ลุมพินี เพลส นราธิวาส-เจ้าพระยา 2) ลุมพินี เพลส พหล-สะพานควาย และ3) ลุมพินี เพลส รัชดา-ท่าพระ
นอกจากนี้ ในปี 2550 นี้ บริษัทฯ ยังพร้อมเปิดตัวแบรนด์ใหม่ ภายใต้ชื่อ “ลุมพินี คอนโดทาวน์” (Lumpini CondoTown) ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมที่มีการบริหารจัดการในรูปแบบชุมชนเมืองขนาดย่อม (Small Size Township) ภายใต้คอนเซ็ปต์ LPN X-Place ที่มุ่งตอบสนองการอยู่อาศัยในเมือง ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ภายในโครงการ เช่น สระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย และลานกีฬาที่จัดเตรียมไว้สำหรับผู้รักสุขภาพห้องอเนกประสงค์และห้องสมุดที่สมาชิกสามารถใช้ประโยชน์ในยามว่าง นอกจากนั้น ภายในโครงการยังร่มรื่นด้วยพื้นที่สีเขียวและสวนพักผ่อนขนาดใหญ่ แวดล้อมด้วยระบบการคมนาคม (Mass Transit) ที่อำนวยให้การเดินทางเข้า สู่ศูนย์กลางธุรกิจ และแหล่งชุมชนหนาแน่นได้อย่างสะดวกรวดเร็ว โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลักคือ ผู้ที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง มีรายได้ต่อเดือน
ประมาณ 10,000-15,000 บาท ภายใต้เงื่อนไขอัตราการผ่อนชำระต่อเดือนประมาณ 3,000 บาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินผ่อนที่ไม่แตกต่างจากการเช่าอยู่อาศัยมากนัก
ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ภายใต้รูปแบบ LPN Design ด้วยห้องชุดที่มีฟังค์ชั่นการใช้งานที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของการอยู่อาศัยในเมือง สมบูรณ์พร้อมในทุกตารางนิ้วด้วยการลดส่วนที่ไม่จำเป็นและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ที่เป็นประโยชน์และตอบสนองการอยู่อาศัยของลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ การให้ความสำคัญกับการบริหารอาคารชุดที่คำนึงถึงคุณภาพชีวิตที่ดีของการอยู่อาศัย โดยยึดหลักการบริหารชุมชนให้น่าอยู่ (Vibrant Community) โดยจะมีโครงการ “ลุมพินี คอนโดทาวน์ รามคำแหง 43/1” เป็นโครงการนำร่องในการพัฒนาในรูปแบบดังกล่าว
“ถึงแม้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยรวมจะดูซบเซาจากผลกระทบต่างๆ ที่เกิดขึ้น แต่สำหรับตลาดคอนโดมิเนียมระดับกลางที่แวดล้อมด้วยระบบคมนาคมขนาดใหญ่ ถือว่ายังเป็นตลาดที่มีความต้องการอย่างต่อเนื่อง และมีทิศทางการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น LPN ในฐานะผู้ประกอบการที่มีประสบการณ์ในการพัฒนาคอนโดมิเนียมมานานกว่า 17 ปี จึงพร้อมที่จะขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มเป้าหมายใหม่ ภายใต้แนวคิด Blue Ocean Strategy ที่นำเอาจุดแข็งของบริษัท และความต้องการของกลุ่มเป้าหมายเป็นโมเดลสำคัญในการพัฒนาสินค้าให้มีรูปแบบเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ภายใต้ราคาขายที่เหมาะสมและง่ายต่อการเป็นเจ้าของ ทั้งยังให้ความสำคัญต่อการบริหารชุมชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีตลอดการอยู่อาศัย โดยทีมงานบริหารอาคารชุดที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสิทธิภาพจากบริษัท ลุมพินี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด บริษัทในเครือ LPN ซึ่งถือเป็นจุดแข็งและเงื่อนไขสำคัญที่ส่งผลให้ LPN มีความแตกต่างและมีระยะห่างจากผู้ประกอบการรายอื่นๆ ในธุรกิจ” นายโอภาส กล่าวเสริม
ในปี 2550 บริษัทฯ มีแผนที่จะเปิดตัวคอนโดมิเนียม จำนวน 5 โครงการ โดยในเดือนกุมภาพันธ์นี้ บริษัทฯ พร้อมเปิดตัว โครงการลุมพินี คอนโดทาวน์ รามคำแหง 43/1 คอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น จำนวน 14 อาคาร ซอยรามคำแหง 43/1 จำนวนประมาณ 3,500 ยูนิต มูลค่า 2,400 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 6 แสนเศษ และจะทยอย การเปิดตัวโครงการในทำเลใหม่อีก 1 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 1,200 ล้านบาท และเปิดตัวอีก 3 โครงการในรูปแบบโครงการต่อเนื่องจากโครงการเดิม มูลค่ารวมประมาณ 5,200 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญต่อการการมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม (Corporate Environment and Social Responsibility-CESR) ด้วยกิจกรรมต่างๆ ภายใต้โครงการ “ชุมชนน่าอยู่” เฉกเช่นในปีที่ผ่านมา โดยพนักงาน LPN จะเป็นแรงสำคัญในการทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อตอกย้ำและปลูกจิตสำนึกในการร่วมรับผิดชอบและดูแลสิ่งแวดล้อม ชุมชน และสังคมรอบตัว เคียงคู่ไปกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีร่วมกันกับชุมชนใน 40 โครงการที่ LPN พัฒนาขึ้น ภายใต้แนวคิดของการเกื้อกูลซึ่งกันและกันระหว่างสิ่งแวดล้อม ชุมชน และสังคมำ
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net