กรุงเทพฯ--10 พ.ค.--พม.
รมว.พม. มอบนโยบายแก่ผู้บริหารและหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดทั่วประเทศ ชูแผนการดำเนินงานหลัก 6 ด้าน เน้นพัฒนาสังคมเชิงรุก เพื่อสร้างสังคมสมานฉันท์
เมื่อวันที่ (๗ พ.ค.๕๓) เวลา ๑๓.๓๐ น. นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มอบนโยบายการบริหารงานแก่หัวหน้าหน่วยงานในสังกัดทั่วประเทศ ในการประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง การบริหารการพัฒนาสังคมเชิงรุกเพื่อสร้างสังคมสมานฉันท์ เพื่อให้หัวหน้าหน่วยงาน รับทราบนโยบาย เป็นแนวทางร่วมกันในการบริหารจัดการการดำเนินงานให้ทันต่อสถานการณ์และนำไปสู่สังคมที่อยู่ร่วมกันอย่างสมานฉันท์ โดยเน้นขับเคลื่อนนโยบายพัฒนาสังคมเชิงรุก เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย ณ โรงแรมปรินซ์พาเลซ มหานาค กรุงเทพฯ
นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า ปัจจุบัน สังคมไทยกำลังเผชิญกับความเปลี่ยนแปลง เนื่องมาจากกระแสโลกาภิวัตน์ ซึ่งก่อให้เกิดผลลัพธ์ได้ทั้งทางบวกและลบ ในขณะเดียวกันยังประสบปัญหาในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะวิกฤติความขัดแย้งทางการเมืองซึ่งส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่กำลังฟื้นตัว และอาจนำไปสู่ปัญหาความขัดแย้งทางสังคม กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ในฐานะเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบภารกิจด้านสังคม ในการสร้างสังคมให้มีความเข้มแข็ง และมีภูมิคุ้มกัน จึงจำเป็นต้องมีนโยบายและแผนการดำเนินงาน เพื่อเป็นแนวทางในการบริหารงานให้สอดรับกับสถานการณ์ทางสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาและเพื่อให้สังคมเกิดความสมานฉันท์ ประชาชนได้รับการดูแลอย่างทั่วถึงเป็นธรรม โดยในปี ๒๕๕๓ นี้ มีแผนการดำเนินงานที่สำคัญ ๖ ด้าน ได้แก่
๑. แก้ไขปัญหาคุณภาพการอยู่อาศัย จัดทำโครงการบ้านมั่นคง โดยพัฒนาและปรับปรุงชุมชน ๘,๕๐๐ ครัวเรือน และสนับสนุนสินเชื่อเพื่อปรับปรุงที่อยู่อาศัยและการจัดหาที่ดิน (งบประมาณโครงการไทยเข้มแข็ง) ๒๐,๑๑๐ ครัวเรือน รวมทั้งโครงการบ้านเอื้ออาทร และโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับข้าราชการ
๒. สร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจสังคม ในกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้พิการ และชุมชน โดยสนับสนุนค่าจัดการศพผู้สูงอายุ รายละ ๒,๐๐๐ บาททุกราย และจ่ายเบี้ยความพิการ ๕๐๐ บาท/เดือน
๓. ขจัดการกระทำความรุนแรง/เลือกปฏิบัติต่อเด็ก สตรี และผู้พิการ สร้างกลไกการปฏิบัติงานและเครือข่ายป้องกัน เฝ้าระวัง และคุ้มครองผู้ถูกกระทำความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และครอบครัว เช่น จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ถูกละเมิดในที่ทำงาน ขยายเครือข่ายสภาเด็กและเยาวชนสู่ระดับอำเภอและตำบล
๔. พัฒนาเด็ก เยาวชน และสร้างความเข้มแข็งของสถาบันครอบครัว จัดทำโครงการสายใยรักแห่งครอบครัว และโครงการศูนย์ ๓ วัย สานสายใยรักแห่งครอบครัว เพื่อเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาคุณภาพชีวิต การป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พร้อมในวัยรุ่น (โครงการแม่วัยใส) พัฒนามาตรฐานศูนย์เด็กเล็กทั่วประเทศ เป็นต้น
๕. แก้ปัญหายาเสพติดอย่างเป็นระบบ จัดทำยุทธศาสตร์รั้วครอบครัว โดยพัฒนากลไกระดับชุมชน หมู่บ้าน เพื่อช่วยเหลือครอบครัวที่มีปัญหาและกลุ่มเสี่ยง โดยจัดอบรมให้ความรู้ในการป้องกันยาเสพติด
๖. เพิ่มประสิทธิภาพการแก้ไขปัญหาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ขยายและเชื่อมเครือข่ายอินเตอร์เน็ตศูนย์ประชาบดีสายด่วน ๑๓๐๐ ครอบคลุมทั่วประเทศ และพัฒนาระบบงานเฝ้าระวังและเตือนภัยทางสังคม เพื่อเป็นเครื่องมือในการปฏิบัติงานเชิงรุก ภายใต้คำขวัญ “ชัดเจน เชื่อถือได้ ให้ทางออกกับสังคม”
นอกจากนี้ ยังสนับสนุนการดำเนินงานโครงการตามพระราชดำริ และพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และพระบรมวงศานุวงศ์ เช่น โครงการปาฏิหาริย์แห่งชีวิต (Miracle of life) เป็นต้น รวมทั้งการดำเนินงานการตั้งศูนย์เยียวยาช่วยเหลือผู้ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ตั้งแต่วันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๕๓ เพื่อให้ความช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้เสียชีวิตและผู้เสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยยึดหลักเกณฑ์และวิธีการเดียวกับการช่วยเหลือผู้ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ เมื่อวันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๕๑ และเมื่อวันที่ ๘-๑๔ เมษายน ๒๕๕๒
“นโยบายการดำเนินงานที่มอบให้กับผู้บริหารในครั้งนี้ จะเป็นแนวทางหนึ่งในการดำเนินงานเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาสังคม และคนทุกกลุ่มเป้าหมายให้มีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดี ลดความขัดแย้ง สร้างสังคมที่เข้มแข็งเพื่อนำไปสู่สังคมสมานฉันท์” นายอิสสระ กล่าว
ศูนย์ประชาบดี ๑๓๐๐
สายด่วนปัญหาสังคม ๒๔ ชั่วโมง
กองเผยแพร่และประชาสัมพันธ์
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)
๒๕๕ อาคารกองเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ บริเวณสถานสงเคราะห์เด็กหญิงบ้านราชวิถี ถ.ราชวิถี กรุงเทพฯ ๑๐๔๐๐
โทร. ๐ ๒๓๐๖ ๘๖๕๐ - ๓ โทรสาร. ๐ ๒๓๐๖ ๘๖๗๑ www.m -society.go.th E-mail : prd.pr@m-society.go.th